ชื่อที่ถูกจดไว้
ผู้ที่ออกพระนาม พระยาห์เวห์ “יהוה”
ผู้ที่ออกพระนาม พระยาห์เวห์ “יהוה”
: หนังสือม้วนในที่นี้คือ หนังสือเล่มพิเศษ นี่ไม่ใช่หนังสือ "the Lamb’s Book of Eternal Life nor" หรือหนังสือแห่งชีวิต "the Book of Life" นี่เป็นหนังสือพิเศษสำหรับผู้เชื่อศรัทธาที่เดินในโทราห์ และผู้ที่ปฏิบัติตาม และผูที่ออกเสียง รวมถึงการพูดด้วย รวมถึงผู้นมัสการ ร้องเพลง และมีบันทึกการสนทนาที่ไม่เป็นทางการระหว่าง ตนเองและผู้อื่น โดยใช้พระนามที่ถูกต้องของพระยาห์เวห์ "YHWH" บริบทนี้คือ พระยาห์เวห์จะฟังแม่กระทั่งการสนทนาระหว่างผู้เชื่อ ผู้ศรัทธา โดยใช้พระนาม และออกพระนามที่แท้จริงของพระองค์ บทกวีนี้พูดต่อบรรดาผู้ที่เรียกร้อง ว่าเราจะไม่ใช้ชื่อ "YHWH" ในการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ หรือ เป็นบางครั้งบางคราว
มลค. 3:17 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า “เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะเมตตาคนเหล่านี้ดังชายที่เมตตา บุตรผู้ปรนนิบัติเขา
ในสำนวนของ ThaiKJV มลค. 3:17 พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า "เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นเพชรพลอยของเราในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังชายที่ไว้ชีวิตบุตรชายของเขาผู้ปรนนิบัติเขา
: ในภาษาเดิมใช้คำว่า หมายถึง ชื่อที่แท้จริงของผู้เชื่อจะถูกเรียกว่า เพชรพลอยท่ามกลางประชาชาติ (ประเทศชาติ) พุดแบบสรุปคือ ผู้ที่ออกพระนามอย่างถูกต้องจะได้รับเกียรติ ดุจอัญมณี ท่ามกลางคนทั้งหลายเลย
: ในบริบทต่อมา บันทึกว่า พระองค์จะสงวนเราไว้ เมื่อบุตรชายนั้นได้รับใช้และปรนนิบัติตามหน้าที่ (ในข้อ 16)
และยังหมายถึง “รอดจากพระพิโรธของพระยาห์เวห์”
มลค. 3:18 แล้วเจ้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมและคนอธรรม ระหว่างคนที่ปรนนิบัติพระเจ้ากับคนที่ไม่ปรนนิบัติพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง
: ในฉบับ ThaiKJV บันทึกว่า “มลค. 3:18 แล้วเจ้าจะกลับมาและสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมกับคนชั่ว ระหว่างคนที่ปรนนิบัติพระเจ้ากับคนที่ไม่ปรนนิบัติพระองค์"
: ในภาษาเดิมใช้คำว่า “Teshuva หรือ Teshuvah” หมายถึง การเสียใจ และหันหลังกลับ
ซึ่งมี 4 ขั้นตอนของ “teshuvah” ซึ่งผมจะไม่ไดลงรายละเอียดตรงนี้นะครับ
1.เสียใจ
2.ละทิ้ง
3.สารภาพ
4.แก้ไข
: พระวจนะตอนนี้ จึงหมายถึง จากนั้นเจ้าจะ(เสียใจ และ) หันหลักลับ และแยกแยะระหว่างความชอบธรรมและคนชั่วร้าย ระหว่างคนที่ทำหน้าที่ปรนนิบัติพระยาห์เวห์ และคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการปรนนิบัติพระยาห์เวห์
ในบริบทนี้คือผู้ที่ออกพระนามใช้อย่างถูกต้อง ปรนนิบัติพระองค์ และผู้ที่ไม่ได้ปฏิเสธแบบหัวชนฝา ที่จะใช้พระนามที่ถูกต้องอันเนื่องมาจากประเพณีทางศาสนา ความเชื่อหรือ อื่นๆ แม้กระทั้ง การยึดติดคำสอนดั้งเดิม ทำให้ไม่ได้ปรนนิบัติพระองค์ เหล่านี้เป็นถ้อยคำของพระเจ้าไม่ใช่ความคิดเห็นของมนุษย์
นี่เป็นหนังสือเล่มพิเศษที่จะจดชื่อผู้ที่เอ่ยพระนามอย่างถูกต้อง และพระองค์จะฟังแม้กระทั่งบทสนทนาที่เราคุยกันเอง คนที่ไม่ได้เอ่ยพระนามที่แท้จริง นี่เป็นหนังสือพิเศษสำหรับผู้เชื่อในโทราห์ และและผู้ที่ออกเสียงนมัสการ ร้องเพลง ใช้พระนามที่ถูกต้อง และมีการสนทนาระหว่างเราและคนอื่นๆแบบไม่เป็นทางการ โดยออกพระนามของพระยาห์เวห์
นี่เป็นหนึ่งในสิ่งแรกเริ่มที่ได้รับการยอมรับ ด้วยการออกพระนามอย่างถูกต้อง เราจึงต้องรับรู้พระนามที่แท้จริงของพระยาห์เวห์ หนังสือแห่งความทรงจำ และหนังสือแห่งชีวิต สำหรับหนังสือแห่งความทรงจำ ถือเป็นหนังสือที่บันทึกการรับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่ทำและปรนนิบัติ เพื่อพระยาห์เวห์
ทุกคำหนุนใจ ทุกการกระทำที่เห็นแก่ตัว ทุกการถวายบูชา พระยาห์เวห์ได้ทรงวางไว้อย่างระมัดระวังในฐานะพยาน หนังสือเล่มนี้มีความสำคัญเชื่อมต่อกับหนังสืออีกเล่มหนึ่งคือ หนังสือแห่งชีวิต ถ้าถูกลบชื่ออกจากหนังสือแห่งชีวิต คนที่ทำความดีก็จะถูกลบชื่อ ออกจากหนังสือแห่งความทรงจำ
หนังสือทั้งสองเล่มมีบทบาทที่สำคัญของช่วงเวลาในการตัดสินว่า "สำหรับพระเจ้าจะทรงนำการงานทุกอย่างเข้าสู่การพิพากษากับสิ่งที่เป็นความลับ ทุกคนไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ว่าจะเป็นความชั่วร้าย"
ปญจ. 12:14 เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเอาการงานทุกอย่างเข้าสู่การพิพากษาพร้อมด้วยสิ่งเร้นลับทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่ว (ความชั่วร้าย)
ซาตาน จะยืนกล่าวหาเราก่อน ว่าเราไม่มีค่าที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์ มันจะชี้ไปที่ทั้งหมดของความผิดบาป ของเรา และวางความผิดพลาดของเราในแง่ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ และประกาศว่า เราไม่สมควรได้รับการใดๆ เพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เรามีชื่อที่ถูกบันทึก
วว. 12:10 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์กล่าวว่า “บัดนี้ความรอดและฤทธิ์เดช และอาณาจักรของพระเจ้าของเรา และสิทธิอำนาจของพระคริสต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะว่าผู้กล่าวหาพี่น้องของเรา ถูกโยนลงไปแล้ว คือผู้ที่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของเราทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น
วิวรณ์ เรียก ซาตานว่า ผู้กล่าวหาพี่น้องของเรา
วว. 12:11 พวกเขาชนะมารด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และด้วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย
ในฉบับ Hebreic : และพวกเขาก็เอาชนะมารเพราะในโลหิตของพระเมษโปดก และเพราะคำพูดของพยานหลักฐานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักในชีวิตของตัวเองแม้จะต้องตาย
เมื่อเขาสารภาพ และได้รับการให้อภัย โลหิตอันทรงฤทธิ์ของพระองค์ได้ ครอบคลุมพวกเขา และยังมีการกระทำดีของเราที่ยังคงอยู่
วว. 12:12 เพราะเหตุนี้จงรื่นเริงยินดีเถิด สวรรค์และบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์ แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าทั้งหลาย ด้วยความเดือดดาลอย่างยิ่ง เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย”
ลก. 10:20 แต่ว่าอย่าชื่นชมยินดีในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์”
: ในลูกา นี่คือหนังสือ Lamb’s Book of Life ที่อ้างอิงว่าเชื่อมโยงกัน
แต่ในขณะที่เรามีความชื่นชมยินดี เรายังจำที่จะต้องใช้ความเมตตาของพระยาห์เวห์ และพระคุณอันอ่อนโยนของพระองค์ เราต้องไม่พยายามปกปิด หรือละเลยบาปของเรา เราจึงจำเป็นต้องสารภาพกลับใจ และละทิ้ง หรือไม่ถือเอาพระคุณนำไปสู่การทำบาป
ปญจ. 11:9 โอ เยาวชน จงเปรมปรีดิ์ในวัยหนุ่มสาวของเจ้า และให้จิตใจของเจ้าทำตัวเจ้าให้ร่าเริงในวัยหนุ่มสาวของเจ้า เจ้าจงดำเนินชีวิตตามจิตใจของเจ้าและตามที่ตาของเจ้าเห็นควร แต่จงรู้เถิดว่าเพราะทุกอย่างเหล่านี้พระเจ้าจะทรงนำเจ้าเข้ามาถึงการพิพากษา
วว. 21:27 และไม่มีสิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือคนใดที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน หรือประพฤติการหลอกลวงจะเข้าไปในนครนั้นได้ นอกจากพวกที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้น
: สิ่งที่เป็นมลทิน การประพฤคิที่น่าสะอิดสะเอียน ประพฤติหลอกลวง นี่คือส่วนหนึ่ง ของคำว่า “Works Torah-less-ness” หมายถึง การกระทำ หรือการค้านโทราห์
Lessness แปลว่า ปราศจาก, ไม่, ไร้ คำอ่าน “ เล็ซเน็ซ”
คำพ้องความหมาย (Synonym) few, small
คำตรงข้าม (Antonym) big, great, large
ในฉบับคิงเจมส์บอกว่า “ชั่วช้า” แต่ในภาษากรีกคือ anomia หมายถึงผิดกฎหมาย หรือโทราห์ (คำสอน ของพระยาห์เวห์,ธรรมบัญญัติ)
anomia: lawlessness
Original Word: ἀνομία, ας, ἡ
Part of Speech: Noun, Feminine
Transliteration: anomia
Phonetic Spelling: (an-om-ee'-ah)
Short Definition: lawlessness, iniquity >> หมายถึง ความอยุติธรรม, ความชั่วช้า,
Definition: lawlessness, iniquity, disobedience, sin. หมายถึง การไม่เชื่อฟัง, บาป
ภาษาเฮ็บรูคือ הַפָּשַׁע (ha-pashah) paw-shah'
แปลว่า การกระทำที่เป็นการฝ่าฝืน (พระบัญญัติ) หรือการละเมิด
หรืออาจจะหมายถึง การกบฎ และต่อต้าน
Torahlessnes จึงหมายถึง “meaning Anti-Torah”
ต่อต้าน', สกัด, ขจัด คือคนที่ต่อต้าน คำสอน (โทราห์)
ของพระเจ้า หรือคัดค้าน หรือทำตรงกันข้ามโทราห์ นั่นเอง
หรือจะแปลว่า "against the Torah" ต่อต้านหรือสู้ และขัดแย้งกับโทราห์
** ผลคือ “วว. 20:15 และถ้าพบว่าใครไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต เขาก็จะถูกโยนลงไปในบึงไฟ”
บาปที่ยังไม่ได้สำนึกผิดและละทิ้งจะไม่ได้รับการอภัยโทษและลบล้าง ในการจดบันทึก แต่จะยืนเป็นสักขีพยานกับเราในการตัดสิน เราอาจจะค้นหาหัวใจของเราอย่างจริงใจ และทำในสิ่งที่ถูกต้องกับพระยาห์เวห์ เพื่อเรื่องราวในชีวิตของเราจะใช้ร่วมกันตลอดไปนิรันดร์
ประมาณว่า หนังสือแห่งความจำเป็นหนังสือที่จดความประพฤติทุกอย่างที่เราทำ การรับใช้ การนมัสการ พระยาห์เวห์จะจดไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราเป็นลูกของพระองค์
หนังสือนี้จะเชื่อมกับหนังสือแห่งชีวิต ถ้าชื่อถูกลบจากหนังสือแห่งชีวิตก็จะถูกลบจากหนังสือแห่งความจำเช่นเดียวกัน
หนังสือทั้งสองเล่มจะแสดงบทบาทในชีวิตของเราเพื่อการพิพากษา ทุกการกระทำทั้งดีและชั่ว ซาตานพยายามหาเหตุฟ้องและปรับโทษเราว่าเราไม่สมควรได้รับการอภัยโทษและได้ชีวิตนิรันดร์ แต่ยาชัวร์ไม่ได้ปรับโทษเราเพราะว่าพระองค์ได้ทรงลบล้างบาปของเราแล้ว และโลหิตของพระองค์ได้ลบบาปทั้งหมดเหลือแต่การกระทำดีไว้ นี่เป็นข่าวดี
แต่ว่า เมื่อเราชื่นชมยินดีในสิ่งนี้ เราต้องระลึกว่าต้องไม่นำพระคุณของพระองค์ไปสู่การทำบาป ต้องมีการสารภาพบาปกลับใจและละทิ้งบาปด้วย
บาปที่ไม่ได้กลับใจและละทิ้งจะไม่ได้รับการอภัยและจะถูกลบจากบันทึก และจะเป็นพยานต่อต้านเราในวันพิพากษา ให้เราสำรวจจิตใจของเราว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องเฉพาะพระพักตร์พระองค์และสมควรแก่การถูกบันทึกไว้ชั่วนิรันดร์หรือเปล่า
จากข้างต้นของการแบ่งปัน ผมแบ่งปันในเรื่องความสำคัญของการออกพระนามด้วย ผมเองจะไม่ลงรายละเอียดว่าที่มาที่ไป ของภาษาฮีบรู อะไรแต่อย่างใด แต่เพียงแต่ว่า คำว่าออกพระนามที่ถูกสำหรับผมแล้ว “YHWH” นั้นเป็นพระนามของพระองค์ แม้ไม่มีสระ แต่เราใช้คำว่า “ยาห์เวห์” บางท่านอาจจะใช้ “ยาฮูวาห์” ซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับ ยะโฮวาห์ หรือ เยโฮวาห์ แม้กระทั้ง เจโฮวาห์ มีข้อมูลเชิงลึกมากมายที่บ่งบอกว่าพระนามเหล่านี้ เป็นคำพ้องและมีที่มาจากชื่อพระอื่น แม้แต่พระนามของพระบุตร Jesus ก็มีที่มาจากเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งผมจะไม่ลงรายละเอียด แต่ เราใช้คำว่า “เยซู , ยาชูวาห์ , ยาฮูชูวาห์ “ เพื่อพระนามที่ถูกต้อง แน่นอนครับ เราเป็นคนไทย สำเนียง เสียงเรียกอาจจะเพี๊ยนไม่เป๊ะ แต่ขอพระองค์นำพาเรา พระองค์ทรงทอดพระเนตรที่จิตใจของเรา เมื่อเราประสงค์ที่จะเอ่ย และร้องออกพระนามของพระองค์อย่างถุกต้อง และไม่ใช่นามที่มีที่มาที่ไปที่บิดเบือน และเป็นพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ เป็นพระเจ้าของ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เป็นพระเจ้าของเราทั้งหลาย (อิสราเอล) ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรครับ
ชื่อเป็นเอกลักษณ์และแสดงถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริง ถ้าเรารู้จักใครสักคนแต่เราไม่รู้ชื่อของเขา เท่ากับเราไม่รู้จักเขาคนนั้นอย่างแท้จริง
สดด. 9:10 ผู้ที่รู้จักพระนามของพระองค์ก็วางใจในพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์มิได้ทรงทอดทิ้งผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์
คงไม่มีใครเชื่อ ใครคนหนึ่งได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่รู้จักชื่อของเขา คงไม่มีใครกล้าร่วมทำสัญญา ถ้าเราไม่รู้ชื่อของผู้ร่วมทำสัญญา
สภษ. 18:10 พระนามของพระยาห์เวห์เป็นหอรบแข็งแกร่ง คนชอบธรรมวิ่งเข้าไปในนั้นและปลอดภัย
: หรือเป็นป้อมเข้มแข็ง นี่เป็นคำสั่งที่ชัดเจนเลยว่า บรรดาผู้ที่ไม่ออกพระนาม และไม่ได้ใช้พระนามที่ถูกต้อง จะไม่ได้รับความปลอดภัย
ศฟย. 3:9 “ในเวลานั้น เราจะเปลี่ยนริมฝีปากของประชากรทั้งหลาย (อิสราเอล) ให้เป็นริมฝีปากที่บริสุทธิ์ เพื่อว่าทุกคนจะร้องทูลออกพระนามพระยาห์เวห์ และปรนนิบัติพระองค์เป็นใจเดียวกัน
: ถ้าเราบอกว่าเรายืนเคียงข้างอิสราเอล
พระเจ้าเป็นพระเจ้าของอิสราเอล
และเราคืออิสราเอล เราก็ต้องเป็นประชากรที่ออกพระนามอย่างถูกต้อง
ในสำนวนเดิมมีคำว่า เพื่อประชากรทุกชาติทุกภาษา : หมายถึง ภาษาฮีบรูจะกลับคืนสู่ประชากรทั้งหมดของพระยาห์เวห์ เพื่อทำให้กลับสู้สภาพเดิม (รื้อฟื้น) ไปยัง การกู้คืนอิสราเอล เพื่อจะนำความสามัคคี (การรวมกัน) ความบริสุทธิ์ , การบูรณะเพื่อกลับสู่สภาพเดิม และมีเพียงชื่อนิรันดร์กาลที่แท้จริงของพระยาห์เวห์
สรุปคือ พระองค์จะรื้อฟื้นชนชาติของพระองค์ให้พูดภาษาเดียวกัน และสรรเสริญพระนามที่ถูกต้องนามเดียว Yahuwah เป็นนามนิรันดร์ ถ้าเราคือ เอฟราอิม และเราต้องกลับสู่บ้านอิสราเอล และยูดาห์ ทั้งสองจะพูดภาษาเดียวกัน
รม. 10:13 เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด
: นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญของพระนาม ครอบครัวพระยาห์เวห์ วึ่งในเวลาสิ้นสุดจะนำมาซึ่งความรอด ถ้าเราเชื่อว่าเราเป็นครอบครัวที่อยู่ในบ้านของพระยาห์เวห์ เราจำต้องรู้จักชื่อเจ้าของบ้าน คือพ่อของเรา
ยอล. 2:32 แล้วจะเป็นอย่างนี้ คือทุกคนที่ร้องทูลออกพระนามของพระยาห์เวห์จะรอด เพราะว่าจะมีคนรอดบนภูเขาศิโยนและในกรุงเยรูซาเล็มตามที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้ และในบรรดาคนที่เหลืออยู่นั้นจะมีคนที่พระยาห์เวห์ทรงเรียก
สรุปครับ ผมต้องขออภัยที่อาจจะนอกเรื่องจากหัวข้อไป และผมไม่มีจุดประสงค์จะเป็นวิญญาณศาสนามาโจมตีท่านใดในเรื่องการออกพระนาม และต้องขออภัยอย่างสูง แต่อย่างน้อยผมเพียงหนุนใจท่าน ว่า
ไม่ว่าท่านจะเรียกพระบิดาว่า พระยาห์เวห์ Yahweh หรือ ยาฮูวาห์ Yahuwah
พระบุตรว่า พระเยซู หรือ ยาชูวาห์ Yeshua หรือ ยาฮูชูวาห์ Yahushua ก็ล้วนเป็นพระนามที่มีที่มาเดียวกันและใกล้เคียงในภาษาเดิมที่ไม่มีสระมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ Jesus จีซัส ยะโฮวาห์ หรือ ยาโฮวาห์ เจโฮวาห์ ที่มีที่มาจากเทพเจ้าอื่นๆ
ส่วนเรื่องข้อมูลพระนามที่บิดเบือนนั้น เช่นที่มาของ Jesus ผมขอติดค้างไว้ก่อน และถ้าค้นหาก็มีผู้เขียนบางท่านได้แบ่งปันไว้บ้างแล้วครับ
และสรุปท้ายนี้ ผมขออนุญาติในการ นำคำช้แจงเรื่องพระนามของสมาคมพระคริสตธรรมไทย ที่เปลี่ยนแปลงพระนาม มาเป็น พระยาห์เวห์ ในฉบับปัจจุบัน ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ครับ
คำชี้แจงเรื่องการแปลพระนามพระเจ้า โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
*คำชี้แจงจากสมาคมพระคริสตธรรมไทยเรื่องพระนามของพระเจ้า*
โดย ศจ. ดร. เสรี หล่อกัณภัย เลขาธิการสมาคมพระคริสตธรรมไทย
สืบเนื่องมาจากในเวลานี้มีคริสตจักรหลายแห่งถูกเผาในประเทศมาเลเซีย เพราะความเข้าใจผิดของชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งว่า คำว่า "อัลเลาะห์" หรือ Allah นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกพระเจ้าของศาสนาอิสลามเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ใช้พระนามนี้ สิ่งนี้เป็นความเข้าใจไม่ถูกต้อง
เพราะคำนี้เป็นภาษาอารบิคแปลว่า "พระเจ้า" ซึ่งเป็นคำที่คริสเตียนชาวอาหรับ และยิวอาหรับได้ใช้คำนี้มานานมากก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเกิดเสียอีก และปัจจุบัน คริสเตียนอาหรับก็ยังคงใช้คำนี้อยู่ คำนี้เป็นตำแหน่ง ไม่ใช่พระนามของพระเจ้า
พี่น้องคริสเตียนไทยเองก็ยังมีความสับสนอยู่ระหว่างพระนามกับตำแหน่ง ขอเรียนชี้แจงว่า "พระเจ้า" เป็นตำแหน่ง ส่วน
"พระยาห์เวห์" คือพระนามเฉพาะที่พระเจ้าได้เปิดเผยให้โมเสสรู้ พระคัมภีร์ภาษาไทยที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยได้แปลมานั้น
ไม่ได้เอาคำว่าพระเจ้าออก หรือ แทนคำว่า พระเจ้าด้วยพระยาห์เวห์
คำว่า "พระเจ้า" ในภาษาไทยแปลมาจากคำในภาษาฮีบรูหลายคำด้วยกัน ได้แก่ เอโลฮิม เอโลอาห์ เอล คำเหล่านี้เป็นคำรวมๆ
ที่ใช้เรียกพระของคนต่างชาติด้วย
นอกจากนั้นยังมีสมญานามของพระเจ้าอีกคือ "อโดนาย" ที่แปลว่า "เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า" และพระเจ้ายังถูกเรียกว่า กษัตริย์ หรือ ผู้เลี้ยงแกะในฐานะผู้ปกครองดูแล และยังมีสมญานามที่แสดงถึงความเป็นบุคคลในครอบครัวเช่น พระบิดา ญาติสนิท
หรือ พระผู้ไถ่นั้นเอง เพราะในสังคมของคนอิสราเอลนั้น คนที่จะมีสิทธิ์ไถ่คนอิสราเอลที่เป็นทาส จะต้องเป็นญาติสนิทเท่านั้น
การที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยในพระธรรมเบญจบรรณเปลี่ยนแปลง "พระเยโฮวาห์" มาเป็น "พระยาห์เวห์"
ที่จริงไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงพระนาม แต่เป็นการปรับปรุงแก้ไขความเข้าใจผิดของคริสเตียนในอดีตคือ คนยิวพยายามรักษาบัญญัติสิบประการในข้อที่ว่า "ห้ามใช้พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าในทางที่ผิด เพราะผู้ที่ใช้พระนามของพระองค์ไปในทางที่ผิดนั้น พระยาห์เวห์จะทรงลงโทษ" คนยิวกลัวว่าจะทำผิดบัญญัติข้อนี้ ก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะออกพระนามพระเจ้าว่า "พระยาห์เวห์" แต่เมื่อเห็นคำว่า "ยาห์เวห์" ก็จะออกเสียงว่า "อาโดนาย" ภาษาฮีบรูโบราณ และ ภาษาฮีบรูสมัยปัจจุบันมีแต่พยัญชนะ ไม่มีสระ คนที่รู้จักภาษาดีก็ไม่ต้องอาศัยสระในการอ่าน
แต่ภาษาฮีบรูเป็นภาษาที่มีการวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนมีช่วงหนึ่งที่คนรุ่นหลังที่อ่านข้อความในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูไม่เข้าใจ จึงได้มีอาลักษณ์กลุ่มที่ทำหน้าที่คัดลอกพระคัมภีร์ได้คิดค้นสระของภาษาฮีบรูขึ้น และเติมเข้าไปในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู เพื่อช่วยผู้อ่านได้อ่านอย่างถูกต้อง
พระคัมภีร์ที่มีสระนี้เรียกว่า มาโซเรติก (Masoretic Text) ซึ่งเป็นต่อมากลายมาเป็นพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูฉบับมาตราฐานที่คนทั่วไปยอมรับความถูกต้องในการคัดลอกว่า ใกล้เคียงกับฉบับดั้งเดิมมากที่สุด
ในพระคัมภีร์ฉบับนี้ในส่วนของพระนามพระเจ้า แทนที่จะใช้สระของ "พระยาห์เวห์" กลับใส่สระของ "อโดนาย" แทน
เพื่อให้ผู้อ่านอ่านว่า "อโดนาย" แต่มีผู้แปลภาษาอังกฤษในอดีตเข้าใจผิดเลยแปลว่า "Jehovah" ต่อมาพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษได้มีการปรับปรุงและแปลคำว่า "เอโลฮิม" ว่า "GOD" เมื่อหมายถึงพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และ "gods" เมื่อหมายถึงพระอื่นๆ
ของคนต่างชาติ ส่วน "ยาห์เวห์" จะแปลว่า "LORD" และคำว่า "อโดนาย" จะถูกแปลเป็น "Lord" ในกรณีที่หมายถึงพระเจ้าซึ่งภาษาไทยจะแปลว่า "องค์เจ้านาย" และ "lord" ในกรณีที่หมายถึงมนุษย์ และภาษาไทยจะแปลว่า "เจ้านาย"
ต่อมามีนักวิชาการทางพระคริสตธรรมคัมภีร์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า พระนามของพระเจ้าในภาษาอังกฤษควรสะกดว่า "Yahweh"
ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษหลายเล่มเริ่มใช้คำว่า Yahweh มากขึ้นเช่น ฉบับ Jerusalem Bible, Christian Standard Bible ถึงแม้ฉบับหลังจะยังคงรักษาคำว่า LORD ไว้ด้วยก็ตาม
การที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยแก้ไขคำแปลจาก "พระเยโฮวาห์" มาเป็น "พระยาห์เวห์" ไม่ได้กระทำโดยพลการ แต่กระทำโดยการศึกษาค้นคว้า และทำการปรึกษาผู้ใหญ่ในวงการคริสเตียน มีการออกแบบสำรวจ และจัดสัมมนาชี้แจง
อีกทั้งเขียนบทความอธิบายให้คนเข้าใจ
การที่พระคริสตธรรมคัมภีร์ต้องมีการระบุพระนามเฉพาะของพระเจ้าให้ชัดเจน ก็เพื่อไม่ให้ผู้อ่านสับสนว่า พระเจ้าองค์ไหนก็เหมือนกัน
เราต้องยอมรับว่าคนไทยทั่วไปถึงแม้จะนับถือศาสนาพุทธก็ยังนับถือพระเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดก่อนการออกหวยว่า
คนไทยจะไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมท่านสามารถหาอ่านได้จากภาคผนวกของฉบับศึกษา ในหัวข้อ "พระนามของพระเจ้า" ซึ่งจัดพิมพ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย**
ชาโลม
ขอพระ יהוה อวยพระพร
Ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น