ชีวิตของนกอินทรี เมื่ออายุ 40 ปี
ถ้ายอมตายสามารถทำได้โดยใช้กรงเล็บปาดคอตัวเอง แต่หากเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ต้องเผชิญความเจ็บปวดเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ในช่วงเวลา 150 วัน ต้องใช้จงอยปากกระเทาะก้อนหินจนจงอยปากหลุดออกมา จนกว่าจงอยปากอันใหม่จะงอกออกมา และทำกับกรงเล็บด้วยโดยการเคาะเล็บกับพื้นหินแข็ง ๆ จนหลุดออกมา จากนั้นจิกขนหนาตรงปีกออกไปจนขนหนาเหล่านั้นหมดไป โดยกระบวนการเหล่านี้กินเวลา 150 วัน
เมื่อมันผ่านไปได้ รางวัลของมัน คือ ปากที่จะงอกออกมาใหม่และสวยงามกว่าเดิม เล็บที่จะงอกออกมาใหม่ เล็บคม อย่างสวยงาม เหมาะแก่ การล่าสัตว์หาอาหาร และดำรงชีวิต
ของขวัญล้ำค่าอีกอย่าง คือ ชีวิตที่จะมีต่อไปได้อีก 30 ปี เป็นชีวิตที่สง่างามและมีเกียรติ มันจะบินขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง ด้วยปีกที่ทรงพลังกว่าเดิม แต่ถ้าหากว่ามันไม่ผ่านบททดสอบ มันไม่ยอมทนทุกข์ และไม่ยอมเจ็บทนเอาปากออก และไม่ยอมเจ็บเพื่อจะเอาเล็บตนเองออก และไม่ยอมอดทนที่จะจิกเอาขนที่มีจำนวนมากมายและหนาเตอะออกมันจะต้องตายในที่สุด
มีนกอินทรีย์หลายตัวมาก ที่ผ่านบททดสอบนี้ และก็มีจำนวนมหาศาลมากเช่นกันที่ตายในบททดสอบ 150 วันนี้
คำหนุนใจจากเรื่องนี้คือ ผู้เชื่อต้องผ่านการทนทุกข์ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่เจ็บปวดต้องอดทน ๆ และ อดทน เพราะเมื่อผ่านไปได้ผู้เชื่อจะพบกับชีวิตที่พุ่งทะยานดุจดั่งนกอินทรี
เมื่อผมได้รับฟังคำสอนนี้ ซึ่งดูแล้วก็เป็นคำหนุนใจ ที่ให้กำลังใจได้ดี เพราะสังเกตได้จากเสียงร้อง
”อาเมน” แต่ประเด็นสำคัญคือถ้าผู้สอนกล่าวว่า เรื่องนกอินทรี นี้เป็นความจริงทั้งที่ความเป็นจริง เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง เรากำลังสอนอะไรแก่ผู้เรียน สอนความเท็จหรือ ในความเป็นจริงเรื่องนกอินทรีนี้ไม่มีการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด และก็ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ และการสำรวจและการศึกษาหลายแห่งก็ให้ข้อคิดว่า เรื่องนกอินทรี นี้เป็นนิทาน หรืออุปมา เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาแต่งเติมเข้าไปเพื่อให้กำลังใจผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ไม่มีทางออก และอยากตาย เสียมากกว่า
มีนิทานหลายเรื่อง เช่นนิทาน อีสป ที่ให้ข้อคิด คติ เตือนใจ แต่เราก็รู้ว่าเป็นนิทาน มีสุภาษิตไทยมากมายที่ให้คำสอนที่ดีในการดำเนินชีวิต แต่เราก็รู้ว่าเป็นสุภาษิต มีพระคัมภีร์หลายตอนที่พระเยซูยกมาสอน แต่เราก็รู้ดีว่าเป็น อุปมา
ประเด็นในบทความนี้ไม่ได้โจมตี คำสอนเรื่องนี้ แต่กำลังนำไปถึงว่า อะไรคือความจริง และอะไรเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น และเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า หากเราอยู่ในฐานะผู้สอน เราต้องระมัดระวังให้ดีว่า เรื่องใดเป็นความจริง และเรื่องใดไม่เป็นความจริง นั่นคือการวินิจฉัย และใคร่ครวญ ตลอดจนค้นคว้าข้อมูล หากแต่อย่าเอาเพียงความประทับใจส่วนตัวเพียงเท่านั้น
แท้ที่จริงการผลัดขนของนกอินทรี นกอินทรีจะผลัดขนที่ละหย่อม ใช้เวลาเกือบครึ่งปีในการเปลี่ยนขน โดยเริ่มทำจากหัวไล่ลงไป ไม่ได้เปลี่ยนขนทั้งหมดในทีเดียว และเล็บที่ยาวต่อเนื่องก็จะมีกระบวนการทางธรรมชาติในการลับเล็บอยู่แล้ว ไม่ได้เคาะออกมาทีเดียว ที่สำคัญ จงอยปากของนกอินทรี เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกะเทาะจนหลุดออกมา และงอกออกมาใหม่ และเท่าที่รู้และศึกษามาแม้ไม่มาก ไม่มีสัตว์ชนิดไหนฆ่าตัวตาย แต่ที่ชัดที่สุดคือมนุษย์ (ปล.ถ้าข้อมูลผิดพลาดขออภัยด้วย)
การเปรียบเทียบชีวิตผู้เชื่อกับนกอินทรีในพระคัมภีร์นั้นเป็นในมุมของ การบินสูง สง่างาม และเอาแต่มุมของความเข้มแข็ง แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปมีวงจรชีวิตเหมือนที่นกอินทรีมี
ชีวิตของผู้เชื่อ แน่นอนว่าเราหนีความยากลำบาก การทนทุกข์ ไม่พ้นแต่ล่ะคนย่อมเจอมาก เจอน้อยต่างกันไป การเชื่อพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะดี๊ดี และราบรื่น ดังนั้นเมื่อเราพบเจอความยากลำบากที่ขวางกั้น ชีวิตของเราที่จะทะยานต่อไป เราไม่ต้องทำร้ายตนเอง
พระเจ้าไม่ได้ส่งปัญหาเข้ามา แต่ตลอดในพระคัมภีร์พระเจ้ามีแต่จะปกป้อง ดูแล รักษา รื้อฟื้น ป้องกัน ช่วยเรา กู้เรา ยกเราขึ้น ประคอง ปลอบประโลม ฯลฯ นี่เป็นภาพของแม่นกที่กางปีกออกเพื่อคอยปกป้องลูก ๆ เอาไว้ ในพระเจ้าเราได้รับสิ่งดี พระเจ้าไม่ได้เขย่า หรือฝัดร่อนเรา
ในการที่เราจะไปถึงเป้าหมาย มันจำเป็นต้องผ่านหลายสิ่ง แต่การเติบโตไม่ใช่การพึ่งพาความเจ็บปวดหรือการทรมานตัวเอง พระประสงค์ของพระองค์คือ ขอเพียงเราเชื่อฟังพระวจนะ คำสอนของพระองค์ เดินตามและเต็มด้วยความรักในถ้อยคำแห่งชีวิต เราจะพบชัยชนะ
บางครั้งความเจ็บปวด ทุกข์ยากก็มาจากตัวเอง เพราะการไม่เชื่อฟัง เพราะโดนหลอก เพราะโลกนี้ดึงเราออกไปจากเส้นทางแห่งความจริง และจ้องทำลายเรา
การทดสอบหรือการทดลองของซาตานนั้น ผู้เชื่อไม่จำเป็นต้องอดทน อดทนและนั่งแช่อยู่อย่างนั้นและอดทน ๆ เพราะพระเจ้าให้เราอดทน เพราะนกอินทรียังอดทนถึง 150 วัน เพื่อเราจะผ่านไปได้และพุ่งทะยาน น้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
สดด. 103:5 ผู้ทรงให้ท่านอิ่มด้วยของดี ตลอดชีวิตของท่าน วัยหนุ่มของท่านจึงกลับคืนมาใหม่อย่างวัยนกอินทรี
ขอพระยาห์เวห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.Emunah
ใช่เผมเคยฟังคำเทศนาที่ยกเอาเรื่องนกอินทรีนี้มาประกอบ น่าจะตอนนั้นกลับไปโบสถ์ที่สุราษ แต่มาค้นดูไม่ใช่ข้อเท็จจริงของนกอินทรี
ตอบลบ