วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย

พระเจ้าของข้าพระองค์ 
ไฉนทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย


มธ. 27:46 พอ เวลาประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามาสะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย?”
 
47 บาง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นั่น เมื่อ​ได้​ยิน​ก็​พูด​ว่า “คน​นี้​เรียก​เอลี​ยาห์”

มก. 15:34 พอถึงบ่ายสามโมง พระเยซูก็ทรงร้องเสียงดังว่า“เอโลอี เอโลอี ลามา สะบักธานี”  แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์?”

เอลียาห์ในภาษาฮีบรู คือ Eli-Yahu คนที่นั่นจึงคิดว่าพระองค์เรียกหาเอลียาห์

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

พวกเขาจะจับงูได้ด้วยมือเปล่า มาระโก 16:18

 พวกเขาจะจับงูได้ด้วยมือเปล่า
มาระโก 16:18


มก. 16:18 พวกเขาจะจับงูได้ด้วยมือเปล่า ถ้าพวกเขากินยาพิษใดๆ มันจะไม่ทำอันตรายแก่พวกเขา และพวกเขาจะวางมือบนคนเจ็บคนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค”

เมื่อผมอ่านพระวจนะข้อนี้ผมเคยแบ่งปันไปแล้วใน
http://missionkorat.blogspot.com/2012/09/1618.html

เมื่อผมเจอคำว่าจับงูด้วยมือเปล่า ผมนึกภาพของ อ.เปาโลที่ถูกงูกัด และสลัดทิ้งและท่านไม่เป็นอันตราย แต่นั่น ไม่ได้บอกว่า อ.เปาโลตั้งใจจับงู ถ้าสมมุติเราจับงูได้จริงๆ เราคงเย่อหยิ่ง คนหนุ่มบางคนอาจจะเอาไปจับงูอวดสาว (หมายถึงใช้ในทางที่ผิด)

แท้จริงพระวจนะตอนนี้ การจับงู งูเล็งถึง ซาตาน หรือศัตรู หมายถึง ผู้เชื่อและศรัทธาสามารถจัดการกับศัตรูของพวกเขา ในพระนามของพระเยซู ผู้ทรงฤทธิ์อำนาจ

พวกเขาสิ่งใดที่ร้ายแรง สิ่งนั้นจะทำอันตรายเขาไม่ได้ (ผมตีความว่า ดื่มโดยไม่รู้ตัว หรือโดนวางยา) และเมื่อเราวางมือคนเจ็บป่วย พวกเขาจะได้รับการเยียวยา หรือได้รับการกู้คืน

ชาโลม
ktm.shachah

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

คำเทศนา พระเยซูผู้มารื้อฟื้นธรรมบัญญัติ

คำเทศนา พระเยซูผู้มารื้อฟื้นธรรมบัญญัติ


คัมภีร์ ทองมาก เทศนาเรื่อง "พระเยซูผู้มารื้อฟื้นธรรมบัญญัติ"
เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2013 ณ คริสตจักรธารพระพร
Kumpee Alex Thongmak Preached about "Yashua, who renew the Torah"
in Sunday Morning service, on March 17, 2012, @Stream of Blessing church.

http://www.4windsprayer.com << ฟังคำแบ่งปัน
เอกสารประกอบการแบ่งปัน << ดาวน์โหลด

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

มนุษย์จะดำรงชีวิต ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้

มนุษย์จะดำรงชีวิต
ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้


มธ. 4:1 ครั้งนั้น พระวิญญาณทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อมารจะได้มาทดลอง
มธ. 4:2 และพระองค์ทรงอดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงหิว
มธ. 4:3 ส่วนผู้ทดลองมาหาพระองค์ทูลว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปัง”

มธ. 4:4 พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

รม. 8:3 เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้

โรม 8:3 
เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ 

รม. 8:3 เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ เพราะเนื้อหนังทำให้มันอ่อนกำลังไปนั้น พระเจ้าได้ทรงทำแล้ว โดยพระองค์ทรงใช้พระบุตรของพระองค์เองมา ในสภาพเสมือนเนื้อหนังที่บาป และเพื่อไถ่บาป พระบุตรในเนื้อหนังจึงได้ทรงลงโทษบาป

เราไม่สามารถประพฤติตามธรรมบัญญัติเพื่อจะรอดได้ เนื้อหนังความบาปของเรา ธรรมชาติบาปที่ต่อต้านคำสอนของพระเจ้า ทำให้ธรรมบัญญัติ อ่อนกำลังไป ธรรมบัญญัติในม้วนกระดาษ จึงอ่อนกำลังและพังลงไป พระบิดาจึงทำแล้ว โดยการรื้อฟื้นธรรมบัญญัติ ของพระองค์เองที่อ่อนกำลังและพังลง โดยการส่งพระเยซู (ยาชูวาห์) มาในสภาพเนื้อหนังที่บาป (แต่ในพระองค์ไม่มีบาป) เพื่อเอาชนะความบาปและเนื้อหนัง บัดนี้พระองค์ (ยาชูวาห์) จึงเป็นโทราห์ (ธรรมบัญญัติ) ที่มีชีวิต แม้เนื้อหนังเราจะอ่อนแอสักเพียงใด ก็ไม่มีวันทำให้ ธรรมบัญญัติ ยาชูวาห์ อ่อนกำลังไปด้วย ในพระองค์มีความมั่นคง
และพระองค์ได้ตัดสินลงโทษความบาป

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

พระวิญญาณช่วยเราเมื่ออธิษฐาน

พระวิญญาณช่วยเราเมื่ออธิษฐาน


รม. 8:26 ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าควรจะอธิษฐานขออะไรอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทน ด้วยการคร่ำครวญซึ่งไม่อาจกล่าวเป็นถ้อยคำ

หลายครั้งเลยที่เรา หมดคำพูดในการอธิษฐาน ไม่รู้จะอธิษฐานอะไร หรือฝืนอธิษฐานก็วนเป็นเขาวงกต หรือบินวนในสภาพอากาศที่เลวร้ายและหาทางลงไม่เจอ

ถ้าเราจะร่วมสามัคคีธรรมแต่ดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา

ถ้าเราจะร่วมสามัคคีธรรม
แต่ดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา 


1ยน. 1:6 ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์และยังดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง
1ยน. 1:7 แต่ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น


ถ้าเราจะร่วมสามัคคีธรรม คำว่า สามัคคัธรรม คำว่า “สามัคคีธรรม” มาจากคำในภาษากรีก koinonia แปลได้ว่า “หุ้นส่วนกัน” “ติดต่อกัน” หรือมี “สามัคคีธรรมกัน”
koinonia จึงเป็น anglicisation ของ กรีก คำ (κοινωνία) นั่นหมายความว่าการมีส่วนร่วมการสนทนาอย่างใกล้ชิด

พระเยซูผู้มารื้อฟื้น ธรรมบัญญัติ

พระเยซูผู้มารื้อฟื้น
ธรรมบัญญัติ


วันนี้ผมอยากแบ่งปันเราในเรื่องของธรรมบัญญัติ
จะเป็นมุมกว้างๆที่เราจะประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของเรา

วันนี้เราจะแยก ธรรมบัญญัติ หรือที่เราเรียกว่า โทราห์ และ
บัญญัติ ฟาริสีที่เราเรียกว่า บัญญัติ ธรรมเนียมนิยม ประเพณี รูปแบบ พิธีกรรมของมนุษย์

หลายครั้งที่เราเองอาจจะตัดสินคนอื่น หรือ คนอื่นอาจจะตัดสินเราว่า ไอ้พวกบ้ายิว
ไอ้พวกไปเอาแอกมาแบก พระเยซูมาแล้ว พระคุณล้วนๆ

เราเลยจะมาดูกันว่า ไอ้ที่เขาว่า เราเป็นแบบนั้นจริงไหม ?

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556

พระเยซูผู้มีชัยชนะเหนือความบาป

พระเยซูผู้มีชัยชนะเหนือความบาป

 
รม. 8:3 เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ เพราะเนื้อหนังทำให้มันอ่อนกำลังไปนั้น พระเจ้าได้ทรงทำแล้ว โดยพระองค์ทรงใช้พระบุตรของพระองค์เองมา ในสภาพเสมือนเนื้อหนังที่บาป และเพื่อไถ่บาป พระบุตรในเนื้อหนังจึงได้ทรงลงโทษบาป

เราไม่สามารถประพฤติตามธรรมบัญญัติเพื่อจะรอดได้ เนื้อหนังความบาปของเรา ธรรมชาติบาปที่ต่อต้านคำสอนของพระเจ้า ทำให้ธรรมบัญญัติ อ่อนกำลังไป ธรรมบัญญัติในม้วนกระดาษ จึงอ่อนกำลังและพังลงไป พระบิดาจึงทำแล้ว โดยการรื้อฟื้นธรรมบัญญัติ ของพระองค์เองที่อ่อนกำลังและพังลง โดยการส่งพระเยซู (ยาชูวาห์) มาในสภาพเนื้อหนังที่บาป (แต่ในพระองค์ไม่มีบาป) เพื่อเอาชนะความบาปและเนื้อหนัง บัดนี้พระองค์ (ยาชูวาห์) จึงเป็นโทราห์ (ธรรมบัญญัติ) ที่มีชีวิต แม้เนื้อหนังเราจะอ่อนแอสักเพียงใด ก็ไม่มีวันทำให้ ธรรมบัญญัติ ยาชูวาห์ อ่อนกำลังไปด้วย ในพระองค์มีความมั่นคง
และพระองค์ได้ตัดสินลงโทษความบาป

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา

 ธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา



กท. 3:23 ก่อนที่ความเชื่อมานั้น เราถูกธรรมบัญญัติจองจำไว้ ถูกกักบริเวณไว้จนความเชื่อจะปรากฏ
กท. 3:24 เพราะฉะนั้นธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา จนพระคริสต์เสด็จมา เพื่อเราจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยความเชื่อ


พระองค์กำลังรื้อฟื้นธรรมบัญญัติกลับมา

พระองค์กำลังรื้อฟื้นธรรมบัญญัติกลับมา


มธ. 5:17 “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ

อย่างพึ่งเบื่อกับพระวจนะตอนนี้นะครับ จากกระทู้ที่ผมตั้งไปให้แยกให้ออกก่อนระหว่าง บัญญัติธรรมเนียมประเพณีของมนุษย์ (ฟาริสี) กับธรรมบัญญัติ (Torah) ของพระยาห์เวห์ โทราห์ที่หลายคนบอกหมายถึงคำสอนของพระยาห์เวห์ บางครั้งหมายถึงลูกศรที่ยิงออกไป ให้ตรงเป้าหมาย

รม. 10:4 เพราะว่าพระคริสต์ทรงเป็นจุดจบของธรรมบัญญัติ เพื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรม

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

มาระโก7 ธรรมบัญญัติ หรือ บัญญัติของมนุษย์

มาระโก7
ธรรมบัญญัติ หรือ บัญญัติของมนุษย์



วันนี้ขอมาแนว สบายๆ ครับ เรื่องธรรมบัญญัติเราอาจจะพูดกันมาเยอะ วันนี้ขอแบ่งปันบางมุมในเรื่องธรรมบัญญัติที่แท้จริง

ส่วนอันไหนจริง คือบัญญัติแท้โดยพระยาห์เวห์ หรือบัญญัติที่เราไม่อยากแบกแต่กลับไปแบกหรือกลัวจนตัวสั่นว่าเราต้องกลับไปแบก หรือเป็นเดือดเป็นร้อนและ ตัดสินคนอื่นโดยเอาธรรมบัญญัติเทียมมาเป็นตัววัด วันนี้เราลองมาดูสิ่งที่พระเยซูสอนเราทุกคน

ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย

 ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย มัทธิว อย่าต่อสู้คนชั่ว มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแ...