วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สินบนเหมือนแก้ววิเศษ

สินบนเหมือนแก้ววิเศษ
สุภาษิต 17:8


สภษ. 17:8 สินบนเหมือนแก้ววิเศษในสายตาของผู้ให้ เขาจะหันไปทางไหนก็เจริญรุ่งเรืองทางนั้น

: จากพระวจนะตอนนี้ ผมเองก็เคยสงสัยว่า หมายถึงอะไร ทำไมสินบน ถึงได้เปรียบเหมือนแก้ววิเศษ หรือเพชรพลอยอันมีค่า เพราะในพระวจนะหลายตอนก็บอกว่า ความหมายของสินบนเป็นมุมที่ไม่ค่อยดีนัก
สินบน : bribe
หรืออาจจะเรียกว่าเงินใต้โต๊ะ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ให้แก่บุคคลเพื่อให้ผู้นั้นกระทำหรือไม่กระทำในตำแหน่ง ไม่ว่าการกระทำนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ หรือ ทรัพย์หรือสิ่งของที่จะให้เป็นเครื่องบูชาคุณหรือตอบแทนผู้ที่จะช่วยให้สำเร็จตามประสงค์

ในภาษาฮีบรู สินบน คือคำว่า shochad שֹׁ֫חַד
หมายถึง สินบน การติดสินบน การทุจริต และอาจจะหมายถึงของขวัญ การนำเสนอ และการให้รางวัล แต่ในบริบทนี้ เป็นคำว่า สินบน

‘bribe,สินบน’  คำสะกด ในภาษาฮีบรู  ‘shakh’-ad’ ซึ่งบางฉบับตีความตามตัวอักษรจะหมายถึง “ของขวัญ”
ความหมายของภาษาฮีบรู คำว่า ‘khane’ (Chen) คือ “charm’ หมายความว่า “เสน่ห์”
และ ‘eh’-ben’ (eben) ซึ่งในภาษาอังกฤษหมายถึง “เพชรพลอยอันล้ำค่า”

อพย. 23:8 ห้ามรับสินบน เพราะว่าสินบนทำให้คนตาดีกลายเป็นคนตาบอดไป และทำให้คดีของคนชอบธรรมพลิกผันได้

2พศด. 19:7 ฉะนั้นจงให้ความยำเกรงพระยาห์เวห์อยู่ในตัวท่านทั้งหลาย จงระมัดระวังสิ่งที่พวกท่านทำ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราไม่มีความอยุติธรรม ไม่มีความลำเอียง และไม่มีการรับสินบน”
โยบ 15:34 เพราะพวกพ้องคนอธรรมนั้นเป็นหมัน และไฟเผาผลาญเต็นท์ที่ได้จากสินบน


สภษ. 17:23 คนอธรรมรับสินบนเป็นการลับ เพื่อผันแปรวิถีแห่งความยุติธรรม

ปญจ. 7:7 แท้จริงการกดขี่ข่มเหงทำให้ผู้มีปัญญาโง่ไป และสินบนก็ทำลายสามัญสำนึกเสีย

นี่เป็นเพียงบางส่วนบางตอนที่หยิบยกมา ว่า พระยาห์เวห์ทรงเกลียดชัง พวกที่ติดส้นบน และรับสินบน ซึ่ง สินบนในพระธรรมสุภาษิต ตอนนี้เราอาจจะหยุดมองลึกลงไปกว่ามากกว่าเดิม


ในคิงเจม บันทึกว่า สภษ. 17:8 ของกำนัลก็เป็นเหมือนเพชรพลอยในสายตาของเจ้าของ ไม่ว่ามันจะหันไปทางไหนก็เจริญรุ่งเรืองทางนั้น

จากพระวจนะตอนนี้ ทำให้หลายคนหยุดที่ตะคิดตามไม่ได้ว่า พระวจนะตอนนี้สอนเราในเรื่องอะไร คำว่า สินบนนั้น บางครั้งก็ถูกใช้ในทางที่ดูเหมือนจะไม่ผิดและ เป็นไปอย่างถูกต้อง แต่ก็มีการโต้แย้ง ว่ามันคือ “การชักชวนให้ทุจริต”  หรือการชักชวนด้วยของขวัญ หรือของกำนัล หรือเงินทอง

ใน NIV บันทึกว่า สินบนเป็นแก้วสารพัดนึกของผู้ให้ ไม่ว่าจะหันไปหาใครเขาก็คิดว่าจะสำเร็จ

อีกฉบับบันทึกว่า ของขวัญเป็นเพชรพลอย (หิน) ที่มีค่าในสายตาของเขาเลยก็ว่าได้ เมื่อเขาหันไปทางไหนก็ตาม เขาจะเจริญ

Hebraic : รางวัล (หรือ สิ่งตอบแทน) เป็นเป็นเพชรพลอยที่มีค่าในสายตาของเจ้าของ
ในฉบับ ทานัค ก็บันทึกเช่นเดียวกัน ว่า ของขวัญหรือของกำนัลที่นำมา

แม้ว่าจะมีหลายภาษา หลายสำนวน แต่คำยืนยันที่ค่อนข้างจะมั่นใจ จากฉบับรากของภาษาเดิม ก็คือ สินบน เพราะสินบนถูกมองมามีเสน่ห์ (เปรียบได้กับ เพชรพลอยที่น่าหลงไหล) โดยผู้หนึ่งที่ให้มัน เขาคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จ ทุกครั้งที่เขาเลี้ยวหรือหันไปทางใดก็ตาม เขาคิดว่าเขาเองจะเจริญรุ่งเรืองในทางนั้น มัน คือบริบทว่า คนรับกับคนให้ จะมองเห็นสินบน เหมือนได้เห็นเพชรพลอย และสินบนสามารถทำอะไรก็ได้ คนมักเชื่อ (คิดว่า) สินบนทำให้ตัวเองเจริญรุ่งเรือง

ไม่ต่างกับสมัยนี้ เราเห็นชัดเจนในการเมืองไทย หรือแทบทุกหน่วยงาน การรับสินบนหรือของกำนัล ล้วนเป็นใบเบิกทางการไม่ซื่อตรงหรือการคดโกงนำไปสู่การคอรับชั่น เป็นตัวอย่างมากมาย พระคัมภีร์จึงเตือนเราว่าสินบนเป็นสิ่งที่ไม่ดี
อีกข้อ สภษ. 21:14 ของกำนัลซึ่งให้ในที่ลับตาย่อมขจัดโทสะ และสินบนลับๆ ก็กำจัดความโกรธเกรี้ยวได้

พระวจนะชี้ให้เราเห็นความไม่โปร่งใส ในการกระทำที่ลับตา นั่นคือการติดสินบนนั่นเอง พระคัมภีร์ตอนนี้ อาจจะตั้งคำถามว่าผมตีความเองไหม ซึ่งผมอยากแบ่งปันว่า แม้เราดูคำต่อคำ จะไม่มีคำว่า “เขาคิดว่า” ซึ่งเราต้องดูบริบท ของคำว่า สินบน ในบริบทอื่นๆด้วย เพราะพระวจนะ จะไม่ขัดแย้งกันเองอย่างแน่นอน เมื่อ สินบนเป็นสิ่งที่ มีมุมลบ พระวจนะ ตอนนี้ไม่มีทางที่สินบน จะเหมือนแก้ววิเศษในสายตาของผู้ให้ เขาจะหันไปทางไหนก็เจริญรุ่งเรืองทางนั้น จริงๆ

แท้จริงเราเองไม่ได้มาดีเบทกันเรื่องพระคัมภีร์เพื่อหาผู้ชนะ ถ้าพระวจนะตอนนี้เป็น บริบทของ คำว่า “ของกำนัล” หรือ “ของขวัญ” จริงๆ ในยุคสมัยปัจจุบัน สิ่งนี้อาจจะเป็นสินน้ำใจ เบิกทาง
เพื่อให้งานหรือการเจรจา เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งต่างกับการติดสินบน ที่เป็นข้อผูกมัดมากกว่า สินบน อาจจะก้ำกึ่งระหว่าง ของกำนัล แต่สินบนสามารถ บิดเบือนความยุติธรรมได้

1ซมอ. 8:3 แต่พวกบุตรชายของท่านไม่ได้ดำเนินตามอย่างชีวิตของท่าน พวกเขาบิดเบือนไปหารายได้ที่ผิด รับสินบน และบิดเบือนความยุติธรรม

ไม่ว่าจะมุมใดก็ตามพระวจนะก็มีเป้าประสงค์ที่จะสอนเราให้เป็นผู้ที่สัตย์ซื่อ และดำเนินในทางอันชอบธรรมของพระองค์ ให้สมกับเป็นลูกที่รักของพระองค์

จุดประสงค์ของพระธรรมใน สุภาษิตตอนนี้ มุ่งให้เราเห็นชัดเจน และสอนเราอย่างดีว่า สินบน อาจจะมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย

เมื่อเราประสงค์จะพบความสำเร็จ ในความเจริญรุ่งเรือง พระวจนะสอนและแนะนำวิธีการเราว่า “ยชว. 1:8 อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างจากปากของเจ้า แต่จงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะทำตามข้อความทุกประการที่เขียนไว้นั้น แล้วเจ้าจะมีความเจริญ และประสบความสำเร็จ”

เราอาจจะรับของขวัญ หรือของกำนัล ในมุมของ มิตรภาพ และไม่ใช่เพื่อความอธรรม และค้านกับความยุติธรรม หรือเราอาจจะให้ของใครสักคนในทางธุรกิจ แต่ไม่ใช่เพื่อมุ่งหวังเพื่อ ให้ธุรกิจเป็นธุรกิจมืด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราอาจจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย แต่พระวิญญาณจะตรัสและเราเองก็มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่แล้ว ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้รับ หรือผู้ติดสินบน ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเรา ไม่ใช่เสน่ห์ของเพชรพลอย (เงินและทองคำ)

ดังนั้นพระวจนะใน สุภาษิต 17:8 จึงพอสรุปจากบทความนี้ได้ว่า “เพราะสินบนถูกมองว่ามีเสน่ห์น่าหลงไหล เปรียบได้กับเพชรพลอยอันล้ำค่า ผู้ที่ให้มันก็คิดว่าจะประสบความสำเร็จโดยทางลัดหรือการทุจริต ไม่ว่าเขาจะหันไปทางใดก็ตามเขาก็เชื่อว่าเขาเองจะเจริญรุ่งเรืองด้วยการติดสินบน”

ชาโลม
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ktm.shachah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น