วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ที่ที่ปลอดภัยคือใต้ปีกของพระองค์

ในโลกยุคปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปด้วยเทคโนโลยี แต่ความสุขและความปลอดภัย ก็น่าจะตรงข้ามคือเหมือนจะลดน้อยถอยลงไปด้วยเช่นกัน สภาพแวดล้อมหลายสิ่งหลายอย่างไม่ว่าเราจะเดินไปที่ไหน เหมือนจะไม่มีความปลอดภัยเอาซะเลยก็ตาม ตั้งแต่บ้านของเราเองที่หลายสิ่งหลายอย่าง ความทุก การทะเลาะเบาะแว้ง การไม่เข้าใจกัน สภาพเศรษฐกิจการเงิน ค่าใช้จ่าย หลายอย่างประดังโถมเข้ามาดั่งคลื่นสึนามิ ที่พัดเข้าถล่ม
แม้จะออกมานอกบ้าน โจรผู้ร้าย ผู้ก่อการร้ายต่างๆ อุบัติเหตุบนท้องถนนและเกิดขึ้นได้ทุกที่ซึ่งเราไม่รู้เลยว่า มันจะเกิดเมื่อไหร่ แม้กระทั่งภัยธรรมชาติที่แปรปรวน และโรคภัยไข้เจ็บซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด

หลายสิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนต้องล้มลง และหลายคนก็ดิ้นรนอย่างสุดกำลังเพื่อหาตัวช่วย และเหมือนบ่วงที่คอยดักสัตว์ของนายพราน เพราะยิ่งคุณเองยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่ ดิ้นแรงแค่ไหน ก็เหมือนกับว่า มันยิ่งรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น บางครั้งคุณอาจจะหมดอาลัยตายอยาก ปล่อยเลยตามเลย ตายๆไปซะได้ก็ดี
แต่ผมขออนุญาตหนุนใจว่า ทางออกยังไม่หมดไป คุณยังมีพระเจ้า แม้เราจะลืมพระเจ้าไปในช่วงเวลาที่มีความสุข พระเจ้าก็ยังพร้อมจะช่วยคุณเสมอเมื่อคุณกลับใจมาหาพระองค์ คุณเองลืมพระเจ้าหรือยัง ?

พระเจ้าพระองค์ไม่เคยสัญญาว่า สิ่งร้ายต่างๆจะหมดไป และจะมลายหายไป จากโลกนี้ แต่พระสัญญาของพระองค์พระองค์ทรงสัญญาว่าจะช่วยคุณเมื่อใดที่ลูกของพระองค์มีอันตราย
นี่คือความจริงแท้แน่นอน พระสัญญาของพระเจ้าพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และพระองค์เป็นพระเจ้าผู้สัตย์ซื่อ ใน

สดุดี 91
ผู้ที่พำนักในที่กำบังสูงสุด จะได้พักพิงในร่มเงาขององค์ทรงฤทธิ์
ข้าพเจ้าจะทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการ
และเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ ทรงเป็นพระเจ้าผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ
แน่ทีเดียวพระองค์จะทรงช่วยท่านจากกับดักทั้งปวง และจากโรคติดต่อร้ายแรง
“พระองค์จะทรงปกป้องท่านด้วยปีกของพระองค์ ท่านจะลี้ภัยใต้ร่มปีกนั้น”
ความสัตย์ซื่อของพระองค์เป็นโล่ และเป็นปราการของท่าน
ท่านจะไม่ต้องกลัวความสยดสยองในยามค่ำคืน หรือลูกศรที่ยิงเข้าใส่ในยามกลางวัน
ไม่ต้องหวาดหวั่นโรคภัยที่คุกคามในความมืด หรือภัยพิบัติที่ทำลายยามเที่ยงวัน

คุณเองไม่ต้องกลัว เพราะพระเจ้าพระองค์ทรงเป็นที่กำบังที่เข้มแข็งและป้อมปราการ ในยามที่เรากำลังหวาดกลัวและเผชิญอันตราย ให้เราเข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์ ดั่งเพลงที่บอกว่า

เราจะไม่กลัว แม้แผ่นดินโลกจะเปลี่ยนไป แม้มีอันตรายรอบกาย เราจะไม่กลัวเพราะเราวางใจ พระเจ้าสถิตกับเรา ..อาเมน เพียงเราพึ่งพิงในองค์ทรงฤทธิ์ คุณเองต้องออกเสียงที่จะป่าวประกาศด้วยความเชื่อวางใจว่า “พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการและที่ลี้ภัยที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ” การวางใจคือ การเชื่อในพระเจ้าอย่างสุดใจ สุดใจจริงๆนะครับเชื่อว่าพระองค์เข้มแข็งจริงๆ พระองค์ยิ่งใหญ่เกินสิ่งใดๆจริงๆ และพระองค์ช่วยคุณแน่นอน

จงเปลี่ยนความกลัวเป็นความเชื่อ เข้าพักพิงในที่กำบังภายใต้ปีกร่มเงาของพระองค์คือความปลอดภัย เมื่อนั้นพระองค์จะทรงช่วยคุณจากกับดักทั้งปวงที่วางเอาไว้ที่เราอาจจะเดินไปติดกับดักนั้น หรือแม้กระทั้งเราติดกับดักนั้นและยากที่จะดิ้นให้หลุดและรอความตายอย่างเดียว พระเจ้าพระองค์สัญญาว่าจะช่วยเราจากกับดักทั้งปวงที่กักเราอยู่ บัดนนี้พระองค์ได้อ้าปีกของพระองค์ออกรอที่ลูกของพระองค์จะเข้าลี้ภัยใต้ปีกนั้น

ข้อ 17
บอกเราอีกด้วยว่า พระวจนะของพระองค์คือความจริงและสามารถป้องกันการโจมตีจากอาวุธได้ มารซาตานพยายามยิงคุณด้วยศรเพลิงตลอดเวลา แต่ความจริงของพระเจ้าเป็นดั่งยุทธภัณฑ์ที่จะปกป้องคุณจากศรเพลิงเหล่านั้น
 

สดุดี 17:8
ขอทรงปกป้องข้าพระองค์ดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์
ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์

ใต้ร่มปีกนี้คือการปกป้องจากพระเจ้า ไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้าเข้ามา ทำร้ายเราใต้ปีกของพระเจ้า พระองค์ปกป้องเรา ดั่งภาพแม่นกที่ปกป้องลุกน้อยไว้ใต้ปีก
 

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:11 บอกว่า
เหมือนนกอินทรีตะกุยรังของมันและร่อนอยู่เหนือลูกอ่อน
กางปีกออกรองรับ ประคับประคองพาลูกบินไป
พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่จะนำคุและปกป้องคุณได้
ข้อ 10 ย้อนขึ้นไปบอกว่า พระเจ้าปกป้องคุณดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์ เอเมนไหมครับ เพียงคุณวางใจ
 

สดุดี 91:14-16
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เพราะเขารักเรา เราจะช่วยเขา
เราจะปกป้องเขา เพราะเขายอมรับนามของเรา
เขาจะร้องเรียกเราและเราจะตอบเขา
เราจะอยู่กับเขาในยามเดือดร้อน
เราจะปลดปล่อยเขาและให้เขาได้รับเกียรติ
เราจะให้เขาอิ่มเอมด้วยชีวิตยืนยาว
และสำแดงความรอดของเราแก่เขา

ขอพระเจ้าอวยพระพรท่าน
ด้วยรักในพระคริสต์
Ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น