วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แผนซ้อนแผน

แผนซ้อนแผน

คำโกหกของซาตาน
ในบรรดากลอุบายของซาตาน มันมักใช้การโกหกและหลอกลวงคริสเตียน คริสเตียนหลายคนถูกหลอก และตกหลุมกับดักเข้าอย่างจังโดยไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคอย่างมากมายสำหรับชีวิตคริสเตียน 

คนที่พ่ายแพ้มากที่สุดคือ คนที่รับเอาข้อเสนอของวิญญาณชั่วคือซาตานมาพิจารณาและวิเคราะห์ เมื่อสมเหตุสมผลก็มีความเชื่อ ในหนังสือ ผู้หักโซ่ตรวน เขียนถึงตรงนี้ว่า ความคิดอันแยบยลที่ยิงเข้ามาในสมองของเรา ซึ่งเป็นสนามรบในความคิด มันยิงเข้ามาว่า เจ้าไม่อธิษฐาน ไม่อ่านพระคัมภีร์ ไม่นมัสการ แบบนี้พระเจ้าจะรักเจ้าได้อย่างไร เราต้องรู้ทันตรงจุดนี้ว่า นี่เป็นคำโป้ปดมดเท็จ เพราะพระเจ้าบอกว่าความรักของพระเจ้าคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไข


เมื่อเรารับเอาความคิดแบบนี้และยอมรับมันเราเองก็จะเริ่มเข้าสู่ความคิดเรื่องการล้มเหลวต่างๆของเรา ทำให้เราคิดว่าเราไม่น่ารักและพระเจ้าไม่รักเรา เพราะเราไม่อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ และทำตัวไม่น่ารักหลายอย่าง จนในที่สุดเราก็ไม่อยากลุกและขยับไปไหนและแช่อยู่อย่างนั้น


คริสเตียนอีกประเภทอาจจะดีใจและสะใจกับบทความข้างบน เพราะผมเองเขียนว่าเราต้องอ่านพระวจนะ และอธิษฐานให้มากกว่าหลายสิ่งที่เราใช้เวลาไปกับความไร้สาระของเนื้อหนัง เขาอาจจะคิดว่า เห็นไหมไม่ต้องทำอะไรแบบที่พี่บอก ฉันก็ได้รับความรักจากพระเจ้า บางคนบอกว่ารักพระเจ้าแต่ไม่เคยอธิษฐานและเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเลย บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองเข้มแข็งและเก่งโดยที่ไม่รับเอาดาบแห่งพระวจนะเลย บางคนอาจจะบอกว่าไม่ต้องมาเตือนฉันฉันรักพระเจ้า และพระเจ้ารักฉัน แต่ไม่เคยใช้เวลาเพื่อนมัสการพระเจ้าแต่ใช้เวลาไปกับการนมัสการรูปเคารพสำหรับตัวเองมากกว่า เมื่อมีปัญหาถึงวิ่งมาหาพระเจ้า นี่ไม่ใช่ความรัก เพราะนั่นเป็นการมาหาพระเจ้าเพราะอยากได้พระคุณ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่สนิทหรือพบพระพักตร์พระเจ้า นี่เป็นหลุมพรางกับดักชั้นที่สอง ที่หลายคนใช้ข้ออ้างว่าความรักพระเจ้าไม่มีเงื่อนไขและไม่จำเป็นต้องอ่านพระวจนะและอธิษฐาน อย่าติดกับดักในความโกหกนั้น


เราไม่ได้รอดด้วยการอธิษฐาน หรือการอ่านพระคัมภีร์ หรือนมัสการ เพราะซาตานก็อ่านพระคัมภีร์ ซาตานก็นมัสการได้เก่งมากๆ ในโลกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับฟาริสี แต่พระวจนะ คำอธิษฐาน และการนมัสการ เป็นอาวุธที่เราจะก้าวต่อไปข้างหน้าต่างหาก คำอธิษฐานเปรียบเสมือนลมหายใจถ้าคริสเตียนไม่อธิษฐานก็เหมือนคริสเตียนไม่หายใจ และกายภาพถ้าเราไม่หายใจก็เสมือนกับการที่ไม่มีลมหายใจนั่นคือคริสเตียนก็จะตาย


พระวจนะเปรียบเสมือนอาหารฝ่ายวิญญาณ เมื่อเราเป็นเด็กและไม่ทานอาหารเราก็จะไม่มีสารอาหารและไม่มีภูมิต้านทาน พระวจนะเป็นสารอาหารเพื่อให้เราเติบโต และเป็นภูมิต้านทานเมื่อมีไวรัส หรือเชื้อโรคเข้าสู่ความคิดและร่างกายพระวจนะที่เราสะสมไว้ก็จะช่วยเป็นตัวจับว่าอันไหนเป็นเชื้อโรคและต้องกำจัดเสีย เพราะพระวจนะเป็นอาวุธและดาบของเราเพราะนี่คือพระวจนะของพระเจ้าและเป็นความจริง


แน่นอนความรักของพระเจ้าไม่มีเงื่อนไข พระเจ้ารักเราแบบที่เรายังแบกความบาปอันหนักอึ้งอยู่แทบจะไม่ไหว และพระองค์รักเราแม้กระทั่งยอมพลีพระชนม์เพื่อที่จะตายแทนเรา เพื่อเราจะไม่ต้องจ่ายราคาที่หมายถึงชีวิต


แม้เราจะหยุดเพราะว่าเบื่อมันเต็มที และพยายามหาเหตุผลต่างๆ การวิเคราะห์ต่างๆไปโต้เถียงกับซาตาน บอกกับมันว่า แกไม่มีทางชนะฉันได้หรอก ฉันไม่ได้เป้นอย่างที่แกพูดหรอก นั่นเท่ากับว่าเราอาจจะติดกับดักชั้นที่สาม เพราะมันสามารถควบคุมเราชีวิตเราได้อยู่ดี เพราะเรามัวแต่หยุดคุยและโต้เถียงกับมัน คุณเคยโต้เถียงกับลัทธิบางลัทธิไหม ไม่ว่าจะเป็นมอร์มอน พยานพระเยโฮวาห์ คนพวกนี้พูดได้หูดับตับไหม้ แต่เป็นแต่ถ้อยคำที่ล้วนโกหก เราไม่สามารถโต้เถียงและเอาชนะเขาได้ด้วยการวิเคราะห์และเหตุผล ผลสุดท้ายเราจะพบว่ามันเสียเวลาจริงๆ ซาตานต้องการให้เราเสียเวลาด้วยเช่นเดียวกัน จะเดินไปข้างหน้าสู่จุดหมายดีกว่าแทนที่จะเสียเวลาเจรจาอันไร้สาระ


จงมีท่าทีที่ปฏิเสธเสียงของซาตาน ไม่เชื่อไม่รับ ไม่ฟัง และไม่แยแสกับมัน จงสวมยุทธภัณฑ์และเดินหน้าต่อไป


เอเฟซัส 6:11 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้


สุดท้ายแผนการของพระเจ้าต่างหากที่เป็นแผนซ้อนแผนซาตาน มันเองเคยโดนซ้อนแผนมาแล้ว เมื่อครั้งพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มันคิดว่ามันได้รับชัยชนะ มันมองไม่เห็นความพ่ายแพ้ของตนเอง และเมื่อพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์นั่นคือชัยชนะของมัน แต่แผนการของพระเจ้านั้นซับซ้อนยิ่งนักสุดที่เราจะคาดการณ์ เมื่อการสิ้นพระชนม์คือการนำเอาการไถ่ความตายมาสู่มนุษย์ทั้งโลกนี้ทุกคน ง่ายมากกว่าก่อนนี้ที่มนุษย์ต้องทำตามบทบัญญัติ เพียงเราเชื่อและไว้วางใจพระเจ้า และเข้าลี้ภัยในพระองค์ซาตานเองจะเจอแผนการซ้อนแผนการอีกรอบ เลิกใส่ใจสิ่งรอบข้างระหว่างทาง


เมื่อเราดำเนินไปตามเส้นทางชีวิต และเดินตามพระเยซูซาตานมักซุ่มอยู่ข้างทางหลอกล่อเราสารพัด หาหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อยื้อเวลาของเราให้ช้าลง และถ้าเป็นไปตามแผนเราก็จะหยุดอยู่ที่จุดนั้นและไปไหนไม่ได้อีกเลย


2 โครินธ์ 10:3-5 เพราะว่า ถึงแม้ว่าเราอยู่ในโลกก็จริง แต่เราก็มิได้สู้รบตามโลกียวิสัย
เพราะว่าศาสตราวุธของเราไม่เป็นฝ่ายโลกียวิสัย แต่มีฤทธิ์เดชจากพระเจ้า อาจทำลายป้อมได้
คือทำลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์



คริสเตียนคือพระเยซูน้อยๆ พระเจ้าเป็นแบบอย่างของการเอาชนะในความเป็นมนุษย์ พระองค์ไม้ได้ยิงลำแสง หรือปล่อยพลัง พระองค์ไม่ได้ใช้แผนการของโลกนี้ที่มนุษย์ใช้เพื่อจะเอาชนะคู่ต่อสู้ เราต้องเลือกว่าจะใช้อาวุธของพระเจ้าหรือของโลกในการต่อสู้  อาวุธอันทรงพลานุภาพของพระเจ้าคือ การอธิษฐาน พระวจนะ และการนมัสการ ไม่ว่าจะอยู่ไหนจะทำอะไรก็จงนมัสการ การนมัสการเป็นอาวุธที่ซาตานกลัวมากที่สุด


เมื่อคุณเองเดินตามพระเจ้า แผนการของพระองค์ดูเหมือนว่าเราจะพ่ายแพ้ในโลกนี้ คนรอบข้างและซาตานอาจจะนั่งหัวเราะชอบใจที่เราดูเหมือนจะพ่ายแพ้ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเราไม่หลงเดินตามแผนการล่อลวงของมัน ฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายพระเจ้า เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขนคนที่จ้องทำร้ายพระองค์สะใจกับการที่พระองค์ถูกตรึง เขาสมหวังกับคำว่าตรึงเขาเสีย เขามีความคิดแบบมารคือกำจัดพระองค์ไป แต่แผนการของพระเจ้าสำเร็จเมื่อพระองค์ตายเพราะนั่นคือการกู้โลกและมนุษย์ให้ได้รับความรอดและพบแสงสว่าง และพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมาในสามวัน แผนการของซาตานที่คิดว่าตัวเองฉลาด หรือจะดีไปกว่าพระปัญญาของพระเจ้า


ขอพระเจ้าอวยพระพร
ด้วยรักในพระคริสต์
Ktm.worship

2 ความคิดเห็น:

  1. แผนการณ์ ทั้งสามขั้น ต้องเท่าทันจริงๆ
    ขอบคุณที่ทำให้การจดจ่อของเราชัดเจนมากขึ้น

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณพระเจ้าครับ

    ตอบลบ