วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คุณจะมีการเจิมแบบอิสสาคาร์

คุณจะมีการเจิมแบบอิสสาคาร์

บทความแบ่งปัน
บทความนี้เป็นบทความที่ต่อเนื่องจากบทความเรื่อง เดือนอิยาห์ ซึ่งตรงกับปฏิทินโรมันคือ 5 พค - 2มิย 2011 อิสสาคาร์เป็นบุตรคนที่ 9 ของยาโคบในปฐมกาล 30:16-18 เย็นวันนั้นเมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งนา เลอาห์คนพี่ก็ออกไปพบยาโคบและบอกว่า ยาโคบต้องมรานอนกับนางเพราะว่า นางราเชลได้เอาดูดาอิมมาเป็นสินจ้างแลกเปลี่ยน คืนนั้นยาโคบนอนกับนาง และพระเจ้าฟังเลอาห์ นางตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรคนที่ 5 ของตนเอง เลอาห์กล่าวว่า พระเจ้าประทานรางวัลมาให้ฉันเพราะฉันได้ยกสาวใช้ให้สามี นางจึงตั้งชื่อบุตรว่า อิสสาคาร์ หมายถึงรางวัล หรือสินจ้างนั่นเอง

ใน 1 พงศาวดาร 12:32
จากเผ่าอิสสาคาร์ มีผู้รู้กาละ ทราบว่าอิสราเอลควรทำประการใด มีหัวหน้าสองร้อยคน และญาติของเขาทั้งสิ้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา

หัวหน้าตระกูลจากอิสสาคาร์ 200 คนมีความเข้าใจจังหวะของเวลา ผลที่ตามมาก็คือพวกเขาได้ใช้ความรู้เพื่อจะช่วยประเทศของตนเองโดยการตัดสินใจ อิสสาคาร์เป็นผู้ที่เข้าใจจังหวะของเวลา เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือเป็นผู้ที่มีความเข้าใจ สามารถรู้จังหวะของเวลาและการเคลื่อน เพื่อที่จะบอกแก่อิสราเอลได้
รู้ถึงเวลาและเสียงของพระเจ้าที่จะบอกเวลาว่าตอนไหนที่ควรจะไปหรือตอนไหนควรจะหยุด นี่เองจึงเป็นการเจิมและของประทานที่จะรู้และเข้าใจจังหวะเวลาของพระเจ้า

ในคริสตจักรผู้ที่มีการเจิม แบบอิสสาคาร์ เมื่ออธิษฐานจะรู้เวลาที่พระเจ้าจะเคลื่อน นี่ไม่ใช่หมอดู หรือแม่มด พ่อมดหมอผี เราต้องแยกวิญญาณเทียมเท็จให้ออกด้วย สิ่งที่ได้รับมาจะไม่ขัดแย้งกับพระวจนะ จะมีพระวจนะยืนยัน มีการรับรอง การนั่งวางแผนการรับใช้หรือการเคลื่อนไปของคริสตจักรหลายแห่งเป็นไปด้วยความรู้และความสามารถของตนเองเท่านั้น และสิ่งเหล่านั้นจะเป็นการเหนื่อยมาก เมื่อเราฟังเสียงและรับเอาการเจิมในเดือนนี้ ผู้นำจะมีความรู้และความเข้าใจในการเคลื่อน รู้จังหวะและเวลาในการวางแผน

ขอยกตัวอย่างการรู้เวลา อ.ชัค เพียซ ได้พูดไว้ในช่วงปัสกาที่ผ่านมาว่า มีฮามานอยู่ ฮามานที่ต่อต้านพระเจ้าและคริสเตียน และฮามานจะต้องถูกจัดการ (ฮามานในพระธรรมเอสเธอร์)
ซึ่งไม่กี่วันหลังจากนั้น ฮามานก็โดนกำจัดจริงๆ (บิลลาเดน)

พระเจ้าให้เราเดินแบบรู้เวลาและวาระ อิสราเอลรู้เวลาจากคนเผ่าอิสสาคาร์ว่า เวลาไหนควรไปรบ หรือไม่ควรไปรบ และถ้าไม่เชื่อฟังก็ต้องพบความพ่ายแพ้
เราทุกคนสามารถมีได้ และเราทุกคนต้องมี เราสามารถมีได้
ข้อ 32จากเผ่าอิสสาคาร์ มีผู้รู้กาละ ทราบว่าอิสราเอลควรทำประการใด มีหัวหน้าสองร้อยคน และญาติของเขาทั้งสิ้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา

พระเจ้าไม่ต้องการให้เราดำเนินชีวิตแบบไปเรื่อยๆ และรู้สึกประหลาดใจด้วยสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ดังนั้น พระเจ้าจึงสถาปนาเวลา และ ฤดูกาลต่างๆ ปัญญาจารย์บอกเราว่ามีเวลาที่กำหนดไว้สำหรับทุกสิ่ง สำหรับทุกสิ่งที่ทำ
ปัญญาจารย์ 3:1
มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์

ในมิติธรรมชาติ มีฤดูกาลต่างๆทุกปี และพวกเราต้องการจะรู้ว่าเราอยู่ในฤดูกาลอะไร พระเจ้าเคลื่อนคนของพระองค์ ผ่านฤดูกาลเชิงเผยพระวจนะด้วยเพื่อให้พระประสงค์ต่างๆ ของพระองค์สำเร็จ ถ้าเราต้องการดำเนินชีวิตกับพระเจ้าและมั่งคั่งรุ่งเรือง เราจำต้องเข้าใจเวลาฤดูกาลของพระองค์

เพื่อช่วยให้เราเข้าใจเวลาและฤดูกาลต่างๆ ของพระองค์ พระเจ้าให้การสำแดงของพระองค์แก่เราในหลายๆทางด้วยกัน การสำแดงผ่านทางพระวจนะ พระเจ้าพูดกับเราผ่านทางพวกผู้เผยพระวจนะ พระเจ้าให้ความฝันและนิมิตต่างๆแก่เรา  พระองค์ใส่รหัสการสำแดงในภาษาพระวิญญาณ พระเจ้าพูดผ่านเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวเรา พระองค์ยังใส่รหัสการสำแดง ในปฏิทินของพระองค์

พระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับ อิสสาคาร์
ใน ปฐมกาล 30:18 ยาโคบผู้พ่ออวยพรอิสสาคาร์ (บรรดาลูกๆ)
ฝ่ายนางเลอาห์ว่า "พระเจ้าทรงประทานสินจ้าง {ฮีบรู ว่า ซาคาร} นั้นให้แก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ายกหญิงคนใช้ให้สามี" นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์

ปฐมกาล 49:14 ฝ่ายอิสสาคาร์เป็นตัวลามีกำลังมาก หมอบลงกลางต่างของมัน {หรือ คอกแกะ}

เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18 ท่านกล่าวถึงเศบูลุนว่า "เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน

เดือนนี้ของพี่น้องทุกคนรับเอาการการเจิมแบบอิสสาคาร์ เพราะพระเจ้าจะนำเราไปเพื่อเราจะรู้จังหวะของเวลาในวิถีชีวิตส่วนตัว ในในการรับใช้ร่วมกัน

ขอเพิ่มเติมสักหน่อยนะครับว่า เมื่ออิสราเอลที่ออกมาจากอียิปต์ในตอนนั้น เมื่อเขาตั้งค่ายและจะทำการเคลื่อนพลนั้นจะเคลื่อนพลเป็นเผ่าๆไป เมื่อใน 12 เผ่านั้นจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มล่ะ 3 เผ่า และกลุ่มแรกที่จะทำการเคลื่อนคือ ยูดาห์  อิสสาคาร์ และเศบูลุน

ยูดาห์เคลื่อนเป็นเผ่าแรกเสมอ เพราะการทรงเรียกของยูดาห์นั้นคือการเรียกให้ปกครองเมื่ออกสงครามเขาจะเป็นผู้นำ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นนักรบที่เก่งแต่เขาเป็นนักนมัสการ “ยูดาห์ต้องไปก่อน” ทุกอย่างที่ทำการนมัสการต้องนำหน้าเสมอ ไม่ว่าจะมีครูเสด งานรับใช้ หรือประกาศและทุกอย่างการนมัสการเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด แม้กระทั่งในชีวิตของเราด้วย เพราะการนมัสการคือการทำสงคราม ซาตานไม่ชอบให้คริสเตียนนมัสการ และมันรู้ว่าการนมัสการคือการเปิดฟ้าสวรรค์เพื่อการเจิมการทรงสถิตจะลงมา

อิสสาคาร์คือเผ่ากลางที่ตามมาอิสสาคาร์จะรู้เวลาและฤดูกาลและจะให้คำแนะนำว่าต้องทำอย่างไร ยูดาห์ต้องการคำแนะนำของอิสสาคาร์เพื่อจะนำการนมัสการทะลุทะลวงไป

เศบูลุน เศบูลุนมีความสามารถที่จะรุ่งเรืองในธุรกิจการค้าขาย เศบูลุนจะหาเงินเพื่อสนับสนุนกองทัพในขณะที่เคลื่อนรุดนำหน้าไป

ชีวิตคุณจะรุดหน้าไปสู่ชัยชนะ รับเอาการเจิมทั้งสามด้วยเลยตอนนี้ แต่เดือนนี้เป็นเดือนที่อิสสาคาร์ มีการเจิมพิเศษโดยเฉพาะ

คุณจะเป็นผู้นำที่ดี มีคำปรึกษาที่ดี และจะมีทรัพย์ยากรที่สนับสนุนด้วย

ขอพระเจ้าอวยพระพร
Ktm.worship

2 ความคิดเห็น: