วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปิดโอกาสซาตาน

ปิดโอกาสซาตาน

การให้โอกาสกับผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องที่ดี การให้โอกาสผู้อื่นเป็นเหมือนการยื่นโอกาสและเป็นการสำแดงความรักและเป็นสิ่งที่คริสเตียนควรสำแดงออกไม่ว่าจะกี่ครั้งเราก็ต้องเป็นผู้ให้โอกาส

แต่มีอย่างหนึ่งที่คริสเตียนต้องไม่เปิดโอกาสให้เลยนั่นคือซาตาน เราต้องไม่เปิดโอกาสให้ซาตานแม้แต่วินาทีเดียว ด้วยความมั่นคงของเรา เราต้องไม่ใจอ่อน ไม่อ่อนข้อ ในการให้พื้นที่ซาตานเข้ามา เพราะนั่นหมายถึงมันจะขี้โกงและยึดพื้นที่ ไม่ใช่การยึดพื้นที่ทั้งหมดในครั้งเดียวซึ่งนั่นเราก็จะรู้ทัน แต่มันจะค่อยๆยึดทีละนิด เอานิดเอาหน่อยจนในที่สุดเราเองซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเราก็จะไม่มีที่ยืน

การเปิดโอกาสให้กับซาตานนั้นเท่ากับว่าเป็นการ เปิดประตูรับเอาไส้ศึกเข้ามาและเปิดพื้นที่ของตัวเองให้เป็นสนามรบ การเปิดโอกาสให้กับซาตานนั้นคือการเปิดรับเอาสิ่งต่างๆความคิดต่างๆที่ดูไร้สาระ

ซาตานมีเครื่องมือและกลอุบายมากมายเพื่อจะแย่งชิงพื้นที่นั้น เมื่อใดก็ตามที่เรามั่นใจในตัวเองและใช้กำลังของตัวเองนั่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ซาตานก็จะพยายามล่อหลอกทุกวิถีทางเพื่อจะยึดพื้นที่นั้น แต่ถ้าเราลงมากจากการเชื่อมั่นในความเก่งของตนเองและให้พระเจ้านั่งครอบครองแทน เมื่อพระเจ้าเป็นเจ้าของใครเล่าจะมีโอกาสเข้ามาเอาพื้นที่นี้ไปได้แม้แต่นิดเดียว

ทำไม่พระคัมภีร์ หรือแม้แต่คริสเตียนบางคนถึงชอบที่จะอยู่แต่กับพระวจนะ ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอธิษฐาน นมัสการเป็นการส่วนตัวกับพระเจ้า และไม่ใช้เวลาในการดูสิ่งอะไรที่บางครั้งก็ไม่มีประโยชน์อะไรจากโทรทัศน์ บางครั้งเราอาจจะคิดว่านี่เป็นการผ่อนคลายดูเพื่อความบันเทิง แต่หารู้ไม่ว่าเวลาที่ความคิดว่างเปล่าหรือเหนื่อย และไม่อยากต่อสู้อะไร นั่นคือการเปิดพื้นที่ให้ซาตานเข้ามาควบคุมได้ตามใจชอบ

มันจะยึดทีละนิดมันไม่ยึดทีเดียวทั้งหมดหลอก เพราะเหตุนี้เองคนเหล่านี้ที่ใช้เวลากับพระเจ้ามากๆ แม้บางคนอาจจะต้องทำงานแต่เราก็มีชีวิตที่นมัสการ และอธิษฐานได้ เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เราสามารถใส่พระคัมภีร์ mp3 ทั้งเล่มไว้ไอโฟนได้ เราฟังและสะสมพระวจนะได้ เราฟัง เทศนาและคำสอนได้มากมาย มีหลายวิธีที่เราจะปิดประตูรับการเยี่ยมเยียนจะผู้ไม่ประสงค์ดีในคราบผู้หวังดี

ถ้าเราถามคริสเตียนบางคน ผมไม่ได้จะมาต่อว่าใครแต่อยากยกตัวอย่างว่า เมื่อได้ยินคริสเตียนคุยกันเขาคุยกันเรื่องอะไร ส่วนมากบางครั้งผมได้ยินเขาคุยกันเรื่องละคร เรื่องหนังที่พึ่งไปดูมาในโรงหนัง เรื่องดาราและชีวิตของดารา และที่ลืมไม่ได้คือเรื่องการก้าวเดินที่ผิดพลาดหรือการตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์พี่น้องซึ่งนำเข้าสู่การนินทา

เอเฟซัส 4:27 และอย่าให้โอกาสแก่มาร

พระวจนะตอนนี้ได้เตือนเราว่า จงอย่าให้โอกาสกับซาตาน เราต้องไม่มีที่ให้ซาตานยืน มันจะยืนที่ไหนเราไม่รู้แต่ต้องไม่ใช่พื้นที่ของเรา ที่ที่เป็นที่ประทับของพระเจ้าที่ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทับและบริสุทธิ์และสิ่งมลทินและความสกปรกที่มันพยายามป้อนเข้าสู่ความคิดของมนุษย์ เพื่อมอมเมามนุษย์ให้เมามาย และเมื่อนั้นมันก็จะจู่โจมเข้ายึดพื้นที่ มันไม่สามารถเข้ามาได้เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทับ เมื่อเรายัดใส่ถ้อยคำ การอธิษฐานไม่จนเต็ม จงประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

เอเฟซัส 5:18 และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ


เปาโลกำลังเปรียบเทียบให้เห็นว่าการเมาเหล้าองุ่นทำให้เกิดความสนุกสนาน และเป็นความสุขจอมปลอมที่ชั่วประเดี๋ยว หลายคนบอกกลุ้มใจและดื่มเหล้าเพื่อให้ลืม นั่นแหละคือแผนการที่ให้เราขาดการควบคุมและไม่สามารถดูและความคิดของตัวเองได้ ต่างกับการที่เมาพระวิญญาณหรือเปี่ยมล้นไปด้วยพระวิญญาณ ซึ่งนำมาซึ่งความยินดี

มันไม่ได้อยู่ที่เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์มากแค่ไหน แต่อยู่ที่เรายอมจำนนและยอมให้พระวิญญาณครอบครองเรามากแค่ไหนต่างหาก จงน้อมรับการทรงนำจากพระวิญญาณและพึ่งพาพระองค์ทุกเวลา

คุณล่ะกังลังดื่มอะไรและกำลังเมาอะไร

ขอพระเจ้าที่จะครอบครองเราการที่จะให้พระเจ้าครอบครองนั้น อยู่ที่เราเชิญพระองค์เข้ามาและยอมลงจากบัลลังก์ใจของตนเองและน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์ เมื่อเป็นเช่นนั้นคือพระเจ้าได้ครอบครองความคิดและจิตใจของเราแล้ว พระองค์จะไม่เปิดโอกาสให้กับซาตานอย่างเด็ดขาด และสันติสุขที่แท้จริงจะมาถึงเรา

จงรับเอายุทธภัณฑ์ของพระเจ้า


เอเฟซัส 6:11-18 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ
เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้ เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง
เอาความจริงคาดเอว
เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก
และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า
และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ 


จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย
จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และ
จงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า
จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน
ฉะนั้นเราต้องไม่เปิดโอกาส มันอาจจะล่อลวงดุจหมาป่าในเรื่อง ลูกหมูสามตัว ที่เอาอุบายต่างๆมาล่อหลอกให้เราเปิดประตูและมันจะยึดเอาพื้นที่ของเรา พระวจนะตอนนี้ได้ให้เราสวมเอายุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า


1.เข็มขัดความจริง
ซาตานต้องการขอโอกาสที่จะใช้คำมุสาโกหก ซึ่งฟังดูเหมือนความจริง แต่เมื่อพระเจ้าอยู่ในเราพระองค์เป็นความจริงแท้ เราจะมีชัยชนะ เราอาจจะรับคำโกหกมากมาย และคิดว่าตัวเองแยกแยะได้จากสื่อต่างๆของโลกนี้ เราจะมีชัยชนะโดยความจริงจากพระเจ้า

2.เกราะกำบังอกความชอบธรรม
หัวใจของเราเป็นที่ที่ซาตานต้องการโอกาสที่จะเข้ามายึดครองด้วย เพราะหัวใจซาตานสามารถควบคุมอารมณ์ทั้งหมดของเราได้ ความชอบธรรมของพระเจ้าจะเป็นตัวปิดโอกาสแก่ซาตาน พระองค์ทำให้เราชอบธรรมโดยพระองค์แล้ว เพราะความรักของพระองค์ที่ส่งพระบุตรของพระองค์ลงมาเพื่อเรานั่นเอง

3.รองเท้าแห่งข่าวประเสริฐ
หลายคนมีความคิดว่าการประกาศข่าวประเสริฐดูยากเย็นและเป็นภาระแม้จะทำก็ทำด้วยหน้าที่หรือภาระ เราอาจจะไม่อยากรับมือกับคนที่ต่อต้าน แต่พระเจ้ามอบรองเท้านี้ให้กับเราเป็นพลังใจในการที่จะออกประกาศข่าวประเสริฐแก่บรรดาประชาชาติ

4.โล่แห่งความเชื่อ
ซาตานดูหมิ่นเราทุกๆรูปแบบ และเราก็อาจจะตกเป็นเป้านิ่งให้มันส่องยิง มันโจมตีเราด้วยการดูถูกเยาะเย้ย ดูหมิ่นเหยียดหยาม ความล้มเหลว และการทดลองต่างๆ แต่พระเจ้ามอบโล่อันแข็งแกร่งให้กับเรา เพื่อป้องกันลูกศร หรือลูกปืนก็ได้ครับ ที่มันยิงเข้ามา โล่นี้คือการที่เราจะมีมุมมองแบบพระเจ้า มีสายตาที่มองแบบพระเจ้าที่พระเจ้าจะประทานสายตาการมองให้กับเรา ชัยชนะนั้นจะเป็นของเราเพียงแต่เรารับเอาโล่และยกเพื่อป้องกัน ชัยชนะจะเป็นของเรา

5.หมวกเหล็กความรอด
ความสงสัยคือสิ่งที่ซาตานพยายามจะยัดเข้ามาในเรา ความสงสัยเป็นเชื้อร้ายอันร้ายกาจที่มันต้องการใส่เข้ามาเพื่อจะยึดพื้นที่ให้กับเรา เราต้องไม่เปิดโอกาสรับเอาความสงสัยที่มันเองพยายามจะยัดเยียดให้เรา ความสงสัยนี้คืออะไร ความสงสัยนี้คือ สงสัยพระเจ้า สงสัยพระเยซูพระบุตรและไม่มั่นใจในความรอดของตัวเอง เมื่อมันพยายามยิงความคิดหมวกเหล็กนี้จะป้องกันหัวของเราที่มันจะยัดความสงสัยเข้ามา พระเยซูคือพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

6.ดาบแห่งพระวจนะ
ในยุทธภัณฑ์ชุดนี้ดาบเป็นอาวุธเดียวในการที่เราจะใช้รุกไล่ศัตรู บางครั้งเราก็ต้องรุกไล่ซาตานเมื่อมันพยายามจะเข้ามาให้ได้ โดยที่ไม่ได้รับเชิญ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันและปกป้องพื้นที่ของเราเพื่อไม่ให้ใครมารุกราน เมื่อเราถูกทดลอง เราต้องเชื่อและไว้วางใจในสิทธิอำนาจของพระวจนะ เหตุนี้เองถ้าในแต่ละวันเราไม่รับพระวจนะของพระเจ้าเลยในหลายรูปแบบ แต่รับเอาแต่คำล่อลวงต่างๆ เราจะเอาอาวุธอะไรไปสู้กับซาตาน

ขอพระเจ้าอวยพระพรพี่น้องที่รักในพระคริสต์ทุกๆท่านที่จะหวงแหนพื้นที่ของเราเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้ามารุกรานและยึดเอาพื้นที่ของเราไป เมื่อใดที่มันยึดเอาพื้นที่ของเราไปเราก็กลายเป็นเชลยและเป็นทาสของมัน และมันจะควบคุมเรา อย่าเห็นแก่ความสุขชั่วประเดี๋ยวแต่เมื่อเรามั่นคงความสุขแท้นั้นมีอยู่ในพระเจ้าของเรา




ยากอบ 4:7 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีท่านไป

เราไม่ต้องดูตอนจบว่าฝ่ายชนะคือฝ่ายไหน พระเจ้ายิ่งใหญ่และเป็นผู้ชนะ และเราเองก็จะชนะด้วย เราไม่จำเป้นต้องเข้าสู่ความชั่วร้ายของมัน แต่โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในเรา เราสามารถมีชัยชนะได้ มันจะหนีเราไป

ถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นและไล่ศัตรูที่กำลังคืบคลานเข้ามา 
"ไม่มีพื้นที่ว่างและโอกาสสำหรับเจ้า ซาตานเอ๋ย"

ด้วยรักในพระคริสต์
ขอพระเจ้าอวยพระพร
Ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น