วิญญาณการควบคุม
วันนี้พระเจ้าเร้าใจบางสิ่ง และมีความรู้สึกข้างในว่า นี่เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเลยสำหรับบางคน คุณเองเคยรู้สึกว่าตัวเองถูกควบคุมหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน คำว่าควบคุมคือการรู้สึกอึดอัด ถูกกำกับดูแลให้อยู่ในขอบเขตโดยการใช้อำนาจบีบบังคับ หรือการจำกัด กำหนดให้อยู่ในขอบเขตที่ตั้งไว้ ผมเองก็เคยมีคนว่าผมว่ากำลังโดนควบคุมโดยใครคนหนึ่งที่ผมไม่รู้ตัว และมันจริงไหมที่เราโดนควบคุม และเมื่อโดนควบคุมแล้วจะเป็นเช่นไร
ถ้าเราเห็นภาพนักโทษหรือผู้ต้องหาสักคนที่โดนตำรวจควบคุมตัว แน่นอนมันตรงกับความหมายที่กล่าวมาอย่าแท้จริง คือจะรู้สึกอึดอัด ขาดอิสรภาพ โดนบีบบังคับให้ทำตามใจของผู้ควบคุมโดยไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ แน่นอนเพราะนี่คือการควบคุมก็เหมือนการจำกัดให้อยู่ในกรอบ เช่นผู้นำคริสตจักรคนนี้สามารถควบคุมสมาชิกได้ทั้งหมด ผู้นำคนนี้มีวิญญาณแห่งการควบคุมนะ การควบคุมแตกต่างจาก ความเป็นผู้นำนะครับ
ควบคุมอาจจะหมายถึงการครอบงำก็ได้เช่นเดียวกัน หรือแม้กระทั่งผีเข้า คนคนนั้นก็อยู่ภายใต้การควบคุมด้วยเช่นเดียวกัน คนที่ติดบุหรี่ ติดการพนันก็มักถูกเรียกว่า ผีพนันเข้าสิง ในพระคัมภีร์
มาระโก [5:2] พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ มีคนหนึ่งออกจากอุโมงค์ฝังศพ มีผีโสโครกสิงได้มาพบพระองค์ คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และไม่มีผู้ใดจะผูกมัดตัวเขาอีกได้ แม้จะล่ามด้วยโซ่ตรวนก็ไม่อยู่
ซาตานมักใช้ร่างกายมนุษย์ในทางที่เสียหาย เพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า หรือทำลายพระลักษณะของพระเจ้าในเราให้หายไป มันพยายามลบภาพลักษณ์ของพระเจ้าออกไปจากตัวของคริสเตียน
ถ้าเมื่อใดก็ตามที่อาการนินทาชาวบ้าน ปากสวะ จ้องจับผิด ขาดซึ่งความรักการให้อภัย และไม่เชื่อในส่วนดีของกันและกัน จ้องมองแต่การผิดพลาดของคนอื่น คนเหล่านี้ก็โดนควบคุมด้วยวิญญาณชั่วต่างๆโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว
คุณล่ะเคยโดนกล่าวหาว่าถูกควบคุมไหม ผมอยากหนุนใจว่า ถ้าเราฟังเสียงเหล่านั้นเราเองก็จะถูกควบคุมตามที่เขาบอก เราอาจจะฟังคำเตือนนี้ได้ถ้าเตือนด้วยความรัก แต่ถ้ามาจากคำนินทาล่ะ?
สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราถูกวิญญาณการควบคุมควบคุมหรือไม่นั้น เราดูได้จากการติดสนิทและความสัมพันธ์กับพระเจ้าพระบิดานั่นเอง วิญญาณการควบคุมอย่างที่บอกแล้ว จุดประสงค์ของมันคือทำให้คนที่ถูกควบคุมอยู่ใต้อำนาจและบงการชีวิตของคนคนนั้นให้หันเหออกจากวิถีทางของพระเจ้า เสียความเป็นตัวของตัวเองไป สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่าง ของประทานถูกจำกัดและไม่ได้ถูกนำมาใช้ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าขาดสะบั้น และติดในบ่วงพันธนาการ ขาดจุดยืนและความมั่นของความเชื่อ
อาการทางกายภาพอาจจะขาดคริสตจักรทั้งที่ไม่เคยขาด อาจจะหายหน้าหายตาไปจากงานรับใช้ทั้งที่เคยรับใช้มาตลอด เพราะโดนควบคุมจากบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจที่จะพันธนาการ ชีวิตฝ่ายวิญญาณตกต่ำลง (ชีวิตฝ่ายวิญญาณที่เติบโตนี้ไม่ได้หมายถึงความรู้พระคัมภีร์ หรือการอธิษฐานเป็นไฟในที่ประชุม หรือการเห็นนิมิตจนเกลื่อนนะครับ) ขาดการอธิษฐาน ขาดการนมัสการ มีสิ่งอื่นเป็นรูปเคารพ รูปเคารพของแต่ละคนก็จะเป็นตัวควบคุมคนคนนั้น บางคนเห่อโทรศัพท์ไอโฟน ยี่ห้อไหนก็ช่างมันเถอะ ก็จะนั่งเล่นแต่ไอ้นี่ แม้แต่ในคริสตจักร บางคนระหว่างฟังเทศนานมัสการก็ยังนั่งดาวน์โหลดหนัง ฟังเพลงชาวโลก ..เห็นไหมการควบคุมคือการบังคับให้หันเหและเบี่ยงออกจากจุดที่เราควรจะอยู่ ไปสู่อีกจุดหนึ่ง
บางคนถูกควบคุมลิ้นให้จับผิด นินทา คนอื่นไม่ดีไปหมดแต่ตัวเองดีคนเดียว แบบนี้ก็เรียกได้ว่าโดนควบคุมเช่นกัน
วกกลับเข้ามาว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองโดนควบคุมให้ออกห่างจากพระเจ้าไหม ผมอยากหนุนใจว่า ถ้าคุณยังรับใช้อยู่ด้วยความสัตย์ซื่อ ถ้าคุณยังมีชีวิตที่อธิษฐาน มีหัวใจนมัสการ และมีพระวจนะเป็นอาวุธ และทำทุกอย่างด้วยสันติสุข ถ้าคุณเองมีจุดยืนและเด็ดขาดว่าพระเจ้ามาก่อนเสมอ พระองค์ต้องเป็นที่หนึ่ง และไม่ให้สิ่งใดมาเป็นตัวแปรแล้วล่ะก็ คุณเองไม่ได้ถูกควบคุม ถ้าคุณมีผลของพระวิญญาณ 9 อย่าง คือ ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม และการรู้จักบังคับตน
คุณก็ไม่ได้โดนควบคุม ถ้าคุณสละเวลาและยอมแลกความสุขส่วนตัวเพื่อพระเจ้าได้ คุณก็ไม่ได้ถูกควบคุม ถ้าความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าดีเยี่ยมและยังมีความรับผิดชอบต่องานรับใช้ ไม่ใช่เพราะหน้าที่ ไม่ใช่เพราะศาสนาแต่ด้วยหัวใจที่ให้กับพระเจ้า คุณไม่ได้ถูกควบคุม
บางคนอาจจะให้ธุรกิจเป็นตัวควบคุม บางคนอาจจะให้ลิ้นเป็นตัวควบคุม บางคนอาจจะมีแฟนสามีหรือภรรยา เป็นตัวควบคุม ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ ใครจะว่าอะไรก็ตามแต่ อย่าเสียงเหล่านี้มาทำให้คุณต้องหยุดและท้อแท้ เพราะนั่นเท่ากับคุณเองก็จะโดนวิญญาณแห่งความกล่าวร้ายควบคุมด้วยเช่นกัน
ไม่มีใครควบคุมเราได้ถ้าเรามีจุดยืนที่มั่นคง รับใช้อย่างสัตย์ซื่อและให้พระเจ้าเป็นหนึ่ง และงานรับใช้มาก่อนเสมอ
เราต้องฟังเสียงของพระวิญญาณและยอมให้พระองค์ครอบครองเราทั้งความคิดและจิตใจ โดยการยอมจำนน พระวิญญาณองค์นี้ไม่ใช้การบังคับและควบคุม แต่พระองค์ทรงจะช่วยเราหนุนใจเรา เตือนเราในทางที่ไม่ถูกต้อง
จงอย่าถูกสิ่งใดควบคุม และอย่ายอมรับคำกล่าวโทษว่าถูกควบคุม เพราะนั่นเท่ากับยอมรับการถูกควบคุม
ชีวิตที่สะท้อนออกมาด้วยจุดยืนที่มั่นคงในความเชื่อ สักวันจะเอาชนะอคติและการมองด้วยสายตาที่มีไม้ทั้งท่อนจากคนที่จ้องกล่าวโทษได้ เพราะสิ่งซึ่งไม่ใช่มาจากพระเจ้าสักวันย่อมสูญสลาย แต่สิ่งซึ่งมั่นคงบนความเชื่อ ไม่มีวันมลายหายไป
ใครก็ตามที่กล่าวหาคนอื่นว่า เขาถูกควบคุมจงอย่ากล่าวโทษและหุบปากเจ้าเดี๋ยวนี้ เพราะเจ้าเองไม่ได้ดีไปกว่าใครเลยแม่แต่ยาจก ห่วงท่อนซุงในตาตัวเองก่อนดีกว่าไหม จงอย่าตอบโต้คนเหล่านี้ด้วยการชั่วและอคติอย่างที่เขาทำ แต่จงให้อภัย จงเชื่อในความยุติธรรมของพระเจ้า
ใครก็ตามที่ยอมรับว่าตอนนี้ถูกควบคุมอยู่ จงยอมจำนน และอธิษฐานกับพระเจ้าขอการทรงช่วยจากพระองค์ ยอมให้พระองค์ครองครองความคิดและจิตใจ เพราะในพระองค์มีฤทธิ์เดช
2 โครินธ์ [10:4] เพราะว่าศาสตราวุธของเราไม่เป็นฝ่ายโลกียวิสัย แต่มีฤทธิ์เดชจากพระเจ้า อาจทำลายป้อมได้
2 โครินธ์ [10:5] คือทำลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์
จงใช้อาวุธที่ไม่ใช่อาวุธของโลกนี้ต่อสู้กับวิญญาณที่ควบคุม คืออาวุธที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า สยบทุกอย่างให้ยอมจำนนต่อพระคริสต์นั่นคือคำอธิษฐาน
ขอบคุณพระเจ้า
ด้วยรักในพระคริสต์
ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น