วิญญาณขี้บ่น

วิญญาณขี้บ่น

วิญญาณขี้บ่น รวมถึงวิญญาณที่ชอบติและใส่ร้ายมักทำงานควบคู่กันไปอย่างแยกไม่ออก

เราเคยไหมที่เอาแต่บ่นโดยที่บางทีไม่รู้ตัว ผมเคยฟังคนคนหนึ่งบ่น เมื่อเขาเจอใครสักคนเป็นคนแรก ก็จะเหมือนอัดอั้นตันใจอะไรมา เขาจะบ่นๆๆ โหย รถโครตติดเลยว่ะ รถอะไรเยอะจริงๆ อากาศก็โครตร้อนเลยแอร์อะไรเย็นก็ไม่เย็น ที่จอดรถก็ไม่มี ป๊าด..ต้องไปจอดที่โน่นแล้วเดินมานี่แหละ จะหาอะไรกินก็ไม่มีคนเยอะมาก จะออกมากินข้าวนอกบ้านอะไรกันนักหนา แล้วที่นี่มีอะไรกินบ้าง ผัดผักเหรอ ยี๊ๆๆๆ ใครเป็นแม่ครัว ทำไปได้ยังไง อมเงินหรือเปล่านี่ ใส่เห้ดมาแค่นี้เองเหรอ เนื้อล่ะมันหนีไปเที่ยวหมดเหรอ ใครจะไปกินได้ หันซ้ายไป ดูคนนั้นสิเดินผ่นฉันยังไม่ทักทายเลย โครตหยิ่งเลยเน๊อะ อ้าวดูคนนั้นใส่เสื้อดิ บ้านนอกสุดๆทำไมกล้าใส่ได้ขนาดนั้น อ้าวแล้วนี่ใครจัดบอร์ดนี่ ไอเดียเชยเฉิ่มสุดๆ ใช้อะไรคิดน่ะ ฉอดๆๆๆๆๆ สรุปฉันดีคนเดียว
นี่เป็นวิญญาณที่เรียกว่าวิญญาณขี้บ่น เป็นหนึ่งในวิญญาณศาสนาเช่นกัน คนที่มีวิญญาณแบบนี้มักไม่รู้ตัวว่าถูกรบกวน คนแบบนี้จะชอบบ่นในทุกเรื่อง แม้กระทั่งงานรับใช้ของผู้อื่น จะวิเคราะห์ตัดสินและหาจุดที่จะจู่โจมให้ได้ ในคริสตจักรอะไรต่ออะไรที่คนอื่นทำมักไม่เป็นที่ถูกใจของเขา และเขาชอบที่จะเรียกร้องให้คนอื่นให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่า และชื่นชอบคำชื่นชมและเยินยอ เป็นคนที่ชอบบ่นในทุกเรื่อง

เช่นคริสตจักรทาสีแบบนี้ไม่สวย จัดแบบนี้ไม่ดี ดนตรีเสียงดัง คนนั้นเล่นดี คนนี้เล่นแล้วไม่ดี จืดชืดไม่ได้รับพระพรเลย เทศนาเสียงดังหนวกหู กินเวลาทำไม ทำไมไม่รู้จักเวลา วันนี้คนนั้นคนนี้รับใช้ ไม่อยากร่วมกับคนนี้เลยฉันจะไม่มา

คนนั้นคนนี้แต่งตัวไม่ถูกใจ ติการแต่งตัวคนอื่น รูปร่างแม้แต่หน้าตา หรือปมด้อย และเมื่อคนอื่นล้มลงดุเหมือนจะเห็นใจแต่ข้างในรู้สึกพอใจอย่างมาก สมน้ำหน้า

วิญญาณการบ่นก็คล้ายกับวิญญาณที่ตัดสิน คือขาดความเมตตา กรุณา วิญญาณนี้คู่กับความเย่อหยิ่งขาดใจถ่อม แม้ภายนอกจะดูถ่อม แต่สิ่งที่สำแดงแฝงด้วยความเย่อหยิ่ง คนที่มีวิญญาณขี้บ่นจะรู้ถึงปัญหาของคนอื่นได้แม่นยำ แต่ไม่ได้เอามาหนุนใจด้วยความรักหรือช่วยเสริมสร้างแต่เอาจุดเด่นในการรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงที่เขาเผชิญมาทำลาย วิญญาณขี้บ่นจะสกัดกั้นและขุดหลุมให้คนคนนั้นตกหลุมพรางและไปต่อไม่ได้ วิญญาณตัวนี้จะหว่านความท้อใจลงไปเพื่อให้คนของพระเจ้าล้มลง

พระเจ้าไม่พอพระทัยแน่นอนสำหรับวิญญาณตัวนี้ เพราะพระเจ้าเอือมระอาในการบ่นของอิสราเอล เขาคาดคั้นและจำกัดพระเจ้าโดยการบ่นและต้องการให้พระเจ้าสนองความต้องการของตนเอง เขาพึ่งพาตัวเองและคิดว่าตัวเองไม่ต้องพึ่งพระเจ้าก็ได้เพราะพระเจ้าไม่สนองตอบตามที่เขาต้องการ โดยการนมัสการรูปเคารพ

สดุดี 101:5
บุคคลที่ใส่ร้ายเพื่อนบ้านลับๆ นั้น ข้าพระองค์จะทำลายเสีย คนที่เห่อเหิมและใจที่จองหอง ข้าพระองค์จะไม่ยอมทนด้วย

การบ่นก็เหมือนการใส่ร้ายโดยเอาตัวเองเป็นจุดยืนและอยากให้ได้ดั่งใจ มันคือการพุดไม่จริง เพื่อมุ่งร้ายต่อผู้อื่น วิญญาณแบบนี้มักจะใส่ร้ายคนอื่นเป็นประจำ ทั้งในเรื่องงานรับใช้ ความพยายามแม้แต่ตัวบุคคล พระเจ้าตรัสว่าพระเจ้าไม่อดทนต่อการกระทำเช่นนี้

วิญญาณนี้จะไม่ทำงานโดดเดี่ยวแต่จะหว่านล้อมและหลอกลวงผู้อื่นให้ร่วมทำงานด้วยกัน โดยคิดว่าไม่ขัดน้ำพระทัยของพระเจ้าและแฝงมาในการหนุนใจ หรือความหวังดี คนที่โดนโจมตีด้วยคนที่มีวิญญาณตัวนี้ มักจะอ่อนแอลงไม่มากก็น้อย ถูกลดความสามารถและศักยภาพลงแม้ในการรับใช้

เราต้องไม่หลงไปกับวิธีการหว่านเมล็ดพันธ์แห่งความเกลียด ความระแวง และความไม่พอใจ ความรู้สึกที่เหนือกว่าคนอื่น หลายคนตกเป็นพวกของวิญญาณนี้และเห็นด้วยกันกับมัน เราต้องไม่เห็นด้วยกันกับคนที่มีวิญญาณแบบนี้ เพราะนี่ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าเลย

สุดท้ายนี้จงมีความรักหากเรามีความรักซึ่งกันและกันแล้ว วิญญาณตัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมเราได้ แม้เราโดนโจมตีและเป็นเหยื่อ จงตอบสนองด้วยความรักและเชื่อมั่นในพระเจ้าอย่าท้อถอย และแม้เราถูกชักจูงเราต้องไม่ร่วมวงสนทนา ยุติโดยการเดินหนีหรือ ออกห่างจากคนคนนั้นให้เร็วที่สุดเพราะมันเป็นวิญญาณที่หอมอร่อยและยั่วยวนมาที่จะบ่นหรือใส่ร้ายใคร เราต้องเป็นศัตรูกับวิญญาณนี้ แต่เรารักทุกคนแม้คนที่ถูกควบคุมด้วยวิญญาณนี้ เขาน่าสงสารมากกว่าจะน่ารังเกียจ เพราะเขาเองถูกวิญญาณนี้ควบคุมอยู่

จงระวังที่จะไม่เผลอโดนวิญญาณขี้บ่นและใส่ร้ายควบคุมและต้องไม่เห็นด้วยกับคนที่ทำเช่นนี้

ด้วยรักในพระคริสต์
ขอพระเจ้าอวยพระพร
Ktm.worship