วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิญญาณเยเซเบล หรือวิญญาณควบคุม

วิญญาณเยเซเบล หรือวิญญาณควบคุม

เยเซเบลนั้นเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหญิงที่ชั่วร้าย (ตามคำแปลก็แปลว่า หญิงชั่วร้าย) ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมได้บันทึกไว้ ว่า เธอเป็นภรรยาของอาหับ

(1 พกษ. 16:30–31) ซึ่งอาหับนั้นเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งของอิสราเอล ในสมัยเดียวกันกับเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะ

1พกษ. 16:31 และต่อมา ดูเหมือนว่า การที่พระองค์ทรงดำเนินตามบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทนั้นเป็นสิ่งเล็กน้อย พระองค์จึงทรงรับเยเซเบลพระราชธิดาของเอ็ทบาอัลพระราชาของชาวไซดอนมาเป็นมเหสี และไปปรนนิบัติพระบาอัล และนมัสการพระนั้น
เยเซเบลมเหสีที่ชั่วร้ายของอาหับมาจากเมืองไทระของชาวฟีนิเซีย ราชบิดาของเยเซเบลเคยเป็นมหาปุโรหิตและต่อมาก็ได้เป็นกษัตริย์ นางเยเซเบลนั้นนมัสการพระบาอัล และอาหับก็ได้สร้างวิหารเพื่อนมัสการพระบาอัล และได้นำอาณาจักรจมลงสู่ความบาปที่พระยาห์เวห์เกลียดชัง

การสมรสของเยเซเบลกับอาหับ ก่อให้เกิดการล่มสลายและเสื่อมลงของอาณาจักรตอนเหนือของอิสราเอล และเยเซเบลยังนำรูปแบบอันเลวร้ายที่สุดของการนมัสการรูปเคารพจากแผ่น ดินของนางเข้ามาในดินแดน
อิสราเอลแทนการนมัสการพระยาห์เวห์ (1 พกษ 18:13, 19)

1พกษ. 18:19 เพราะฉะนั้น ขอทรงสั่งให้รวบรวมชนอิสราเอลทั้งสิ้น มาพบข้าพระบาทที่ภูเขาคารเมล ทั้งผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล 450 คนกับผู้เผยพระวจนะของพระอาเช-ราห์ 400 คนนั้น ผู้รับประทานที่โต๊ะเสวยของพระนางเยเซเบล”

แทนที่จะนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าองค์เที่ยงแท้ อาหับและเยเซเบล กราบไหว้พระบาอัล โดยทำเป็นรูปวัวตัวผู้เป็นการแสดงถึง ความกระหายอำนาจ และเรื่องเพศ

ไม่เพียงแค่นั้น เยเซเบลยังได้กำจัดผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าเป็นจำนวนมากด้วย 1 พกษ 18:4.
และเยเซเบลได้พยายามที่จะฆ่าเอลียาห์เสียให้ตาย 1 พกษ. 19:1–3
แต่สุดท้ายแล้วความชั่วของเยเซเบลจบลงด้วยความตายอันน่าสยดสยองของนาง 2 พกษ. 9:30–37

"วิญญาณเยเซเบล” เป็นวิญญาณที่เด่นในการควบคม (Controlling Spirit) คำว่า “เยเซเบล” ในภาษาฮีบรูคือ “Isavel” ซึ่งเป็นสตรีที่มีความชั่วร้ายมาก “เยเซเบล” มีความหมายว่า "ไม่มีผู้ร่วมอาศัยด้วย"  ดังนั้นวิญญาณเยเซเบลหรือวิญญาณการควบคุมนั้นจึงเป็นวิญญาณที่มีท่าทีปฏิเสธที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และจะควบคุมผู้ที่มีใจขมขื่น

วิญญาณนี้จึงมักจะควบคุมและบังคับคนอื่น เพราะความรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มั่นคง หรือโดยการจะหาทางแทรกซึมเข้ามาในตำแหน่งของผู้นำ เพื่อจะใช้สิทธิ์อำนาจในการควบคุม และเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางทำหน้าที่แทนพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระวจนะของพระเจ้าใน วว 2:20-21 ได้กล่าวว่า

วว. 2:20 แต่เรามีข้อที่จะต่อว่าเจ้าบ้าง คือเจ้าทนฟังเยเซเบล ผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ นางสอนและล่อลวงบรรดาผู้รับใช้ของเราให้ล่วงประเวณีและกินอาหารที่บูชารูปเคารพ
วว. 2:21 เราให้โอกาสนางเพื่อจะได้กลับใจใหม่ แต่นางก็ไม่ประสงค์จะกลับใจจากการล่วงประเวณี

ดัง นั้นเราจึงต้องตระหนักถึงวิญญาณเหล่านี้ที่เข้ามาครอบครองหรือควบคุมอยู่ใน ชีวิตของเรา ควบคุมอยู่ในครอบครัวของเรา ควบคุมอยู่ในคนรอบข้างของเรา หรือแม้แต่ในคริสตจักร

นอกจากนั้นนางเป็นจอมเผด็จการที่คอยควบคุมกษัตริย์อาหับให้ทำตามวิธีการของนาง โดยตัวนางเป็นดั่งศูนย์กลางของตัวเอง เหมือนดั่งการใส่แอกเพื่อควบคุมผู้อื่น โดยอาศัยอำนาจและอยู่เบื้องหลังของกษัตริย์
วิญญาณ เยเซเบลไม่มีเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็จะถูกครอบงำจากวิญญาณนี้ได้ แต่วิญญาณนี้จะสนใจผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ทำบทบาทผู้ที่ควบคุมสิทธิอำนาจ ของผู้ชายโดยเฉพาะผู้ที่เป็นสามี

จากตอนนี้วิญญาณเยเซเบล ที่เด่นในการควบคุม เมื่อควบคุมตัวเองและคนรอบข้างมากเท่าไร พระเจ้าก็ทรงควบคุมสถานการณ์เพื่อช่วยเราไม่ได้ และเมื่อใดก็ตามที่วิญญาณนี้คอยควบคุมผู้อื่น หรือควบคุมอารมณ์ของผู้อื่นมากเพียงใด นี่เป็นแนวทางเดียวกับเวทมนต์คาถา เพราะเวทมนต์คาถามีความเกี่ยวข้องกับการควบคุม

ในยุคนี้วิญญาณอย่างเยเซเบลทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งในและนอกคริสตจักร ควบคุมผู้มีอำนาจ คริสตจักรเป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้น การต่อสู้กับวิญญาณประเภทนี้ คงไม่ได้เขียนลงรายละเอียด เพราะไม่ได้ชำนาญในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เชื่อมั่นคือ เราไม่ได้ต่อสู้กับคนแต่ต่อสู้กับวิญญาณเบื้องหลังที่ต้องอธิษฐาน หรือแม้แต่ต้องอดอาหารอธิษฐาน

จากพระธรรมวิวรณ์ เราเห็นได้ว่า กษัตริย์อาหับ ไม่ได้ตั้งใจนำ พระบาอัลมานมัสการแทนพระยาห์เวห์ แต่จงใจนมัสการผสมผสานกันไปทั้งคู่ เมื่อเป็นแบบนี้หลายคนในยุคนั้นจึงหลงผิดไป เพราะมุมหนึ่งก็นมัสการพระยาห์เวห์ด้วย ในปัจจุบันคำสอนบางอย่างก็ถูกผสมผสานมีทั้งถูกทั้งผิด ทำให้คริสตจักรหลงผิดไปตามคำสอนเหล่านั้น การนมัสการแบบนี้ อาหับได้นำมาจาก เยเซเบล เพื่อจะเอาใจนาง
อฟ. 6:12 เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน

บาดแผล

การรับใช้หรือการนำ ผู้ที่เป็นผู้นำหลายคนไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเองกำลังพยายามอย่างที่สุด เพื่อกลบเกลื่อนหรือชดเชยสิ่งที่ตัวเองกลัวหรือขาดในวัยเด็กและเป็นปมด้อย บางอย่างที่ผูกเป็นปมมานาน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ติดตามต้องตกเป็นเครื่องมือในความสำเร็จของตัวเอง ดังนั้นท่าที แรงจูงใจและความรักจึงมีความสำคัญมากในการนำ พระเยซูเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด วิญญาณควบคุมจะกดดันคนเป็นอันมากและนำผู้ที่ติดตามเราให้กระทำตามตัวเองที่เป็นศูนย์กลางแทนพระเจ้า เพื่อที่จะตอบสนองต่อบาดแผลหรือการอยากเอาชนะของ

บางครั้งก็มีปมของการต้องการแข่งขันกับผู้อื่นเพราะความกลัวว่าคนจะไม่ยอมรับและ รับบางอย่างในชีวิตเราไม่ได้ เหล่านั้นไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าเลย พระเจ้าก็ให้เราเด่นในบางเรื่อง ของประทานที่แตกต่างกัน แต่ด้วยบาดแผลทำให้เราคิดว่าเราจะต้องเด่นกว่าทุกเรื่องเสมอ และพยายามใช้อำนาจเพื่อการควบคุมทุกของประทานให้อยู่ภายใต้การควบคุม และได้สร้างวิถีแห่งความกลัวและกดดัน หรือแม้แต่การข่มขู่ และลงมือเพื่อความต้องการเอาชนะและเริ่มตำหนิคริสตจักรอื่น  และคนอื่นๆ สร้างการแข่งขันและคอยเปรียบเทียบกับผู้อื่นตลอดเวลา ดูหมิ่นผู้อื่นเพื่อเราจะได้ไม่เป็นรองใคร ผู้ที่มีบาดแผลแบบนี้ จะยอมไม่ได้ เมื่อใครก็ตามที่เติบโตขึ้นในความจริงของพระเจ้าเที่ยงแท้


ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น