คุณคือบุคคลแห่งความชื่นชมยินดี
ตอนนี้เรากำลังจะก้าวเข้าไปสู่เดือน Adar เดือนแห่งการสื่อสารที่คล่องแคล่ว
และการแสดงออกซึ่งความยินดีและเสียงหัวเราะ
พี่น้องครับการหัวเราะ เขาบอกว่าทำให้อายุยืน และสุขภาพดีใช่ไหมครับ
บางคนกลัวการหัวเราะ เพราะกลัวหน้าจะย่น หน้าจะเหี่ยว เพราะบางข้อมูล
บอกว่า การหัวเราะทำให้กล้ามเนื้อส่วนเล็กๆในบริเวณใบหน้า เกิดการเกร็งตัว
และ .. เมื่อยล้า จนเกิดอาการ มีริ้วรอยเกิดขึ้น
…. แต่เราจะไม่กลัวการหัวเราะ เราจะไม่กลัวความชื่นชมยินดี
ปฐก.49:21 "นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมียที่ถูกปล่อย ผู้ให้กำเนิดลูกกวางงดงาม"
(บางเล่มใช้คำว่า ถ้อยคำที่สวยงาม) เราต้องอยู่ใน
"อารมณ์เฉลิมฉลอง" เราต้องฉลองการจบรอบ
ประกาศว่าพระเจ้าได้นำเราออกจาก
วงจรเก่าและเข้าไปสู่ยุคแห่งความโปรดปรานมาก
ผมเชื่อว่า ความยินดีและเสียงหัวเราะ ต้อง ออกมาจากภายใน คือ
สันติสุข ความสุข และความชื่นชมยินดี
JOY มันมากกว่าความรู้สึก ความสุข ชื่นชมยินดี เกิดขึ้นหลายร้อยครั้งในพระคัมภีร์
ฟิลิปปี 4:4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่าจงชื่นชมยินดีเถิด!
* คือการให้ความสำคัญ
ในภาษา ฮีบรู gilah =
gilah: rejoicing (รีจอย'ซิง) กีลา กีลอว์
n. ความดีใจ, ความยินดี, ความปลื้มปีติยินดี, ความรื่นเริง
גִּילָה
Transliteration: gilah (ghee-law')
ถ้าคำว่า Gil = rejoice
ภาษาฮีบรู SAMEACH หรือ " Sameyakh " שמחความหมายคือ JOY และ ความสุข Happy
หรือ ชื่นชมยินดี rejoice ชา เม ย่ะ ( มีใจรื่นเริง ชื่นชมยินดี เปรมปรีดิ์ )
นี่เป็นเวลาที่เราจะลุกจากความโศกเศร้า !!
ความสุข สันติสุข หรือความชื่นชมยินดีมาจากการที่เราต้องเอาชนะ
ความอ่อนแอ ไม่ใช่โดยกำลังของเราแต่โดยอาวุธที่พระเจ้าทรงประทานให้
และเราทั้งหลายจะมีชัยชนะ คือมีความชื่นชมยินดี ท่ามกลางปัญหาและความอ่อนแอ
1.ความชื่นชมยินดี ที่แท้จริง
ต้องลุกออกมาจากสถานการณ์ที่เลวร้าย
กิจการ 9:33-34
33 ที่นั่นเขาพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัสนอนเป็นอัมพาตมาแปดปี
34 เปโตรกล่าวกับเขาว่า " ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสต์ทรงรักษาท่าน จงลุกขึ้นเก็บที่นอนเถิด " ทันใดนั้นไอเนอัสก็ลุกขึ้น "
ชื่อ ไอเนอัส ชื่อของเขาในภาษากรีกหมาย การสรรเสริญและความปิติยินดี เราเรียนรู้อะไรในชีวิตของเขาบ้าง
1. เขาเป็นง่อยมาเป็นเวลา 8 ปีและไม่สามารถเดินได้
2. เปโตรกล่าวกับเขาว่า " ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสต์ทรงรักษาท่าน จงลุกขึ้นเก็บที่นอนเถิด
3. เขาเชื่อฟังทันทีลุกขึ้นยืนและเดิน " ทันใดนั้นไอเนอัสก็ลุกขึ้น "
4. เขาเชื่อโดยไม่สงสัยและปฏิบัติตามตอบสนองทันที คือดำเนินการตอบรับในทันที
เขาไม่ได้เชื่อในสถานการณ์ที่เขาประสบอยู่ ใช่ไหม ?
สิ่งที่เป็นผลของการกระทำนี้?
กิจการ 9:35
35 คนทั้งปวงในเมืองลิดดาและในที่ราบชาโรนเห็นแล้วก็กลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
นี่เป็นเวลาที่เราต้องลุกออกจากสถานการณ์ ลุกออกจากภาพลวงตาของซาตาน
การที่เราจะกลับไปหาพระบิดาได้ เราต้องลุกออกจากสิ่งเดิม
โครงสร้างเก่าๆ และพร้อมจะก้าวเข้าไปสู่สิ่งใหม่
เมื่อเราลุกออกจากความขมขื่น ความเศร้า ผมเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตัวเรา
ได้รับความชื่นชมยินดีและเปลี่ยนแปลง
แต่สถานการณ์ตลอดจนสิ่งรอบข้างเราจะไม่เหมือนเดิม
บุตรน้อยที่หลงหายไป เขาก็ลุกออกจากความซึมเศร้า
ลุกออกจากอดีต และวิ่งกลับไปหาพ่อของเขา
เพราะเขารู้ว่าที่บ้านนั้นมีความสุข และเขาจะได้พบกับความชื่นชมยินดี และไม่เคยหันกลับไปมอง สถานการณ์ข้างหลังอีก
2. ความชื่นชมยินดี ที่แท้จริงผ่านมาทางความเชื่อของเรา
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าความเชื่อคืออะไร
ความเชื่อ ภาษาฮีบรู คือ อีมูน่า คือเชื่อในถ้อยคำของพระยาห์เวห์
เชื่อในคำสอนของพระองค์
ฉะนั้นความสุข และความชื่นชมยินดี
จะมาได้โดยคำสอนหรือพระวจนะของพระเจ้า หรือโทราห์นั่นเอง
(สดุดี 1:2 ,119:97) แต่พวกเขาปีติยินดีในบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า
และใคร่ครวญบทบัญญัตินั้นทั้งกลางวันและกลางคืน
(สดุดี 119:92) หากบทบัญญัติของพระองค์ไม่ได้เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์
ข้าพระองค์คงมอดม้วยในความทุกข์ยากไปแล้ว
(หรือฉันจะต้องเสียชีวิตในความทุกข์ของฉันไปแล้ว)
ความทุกข์คือความตาย ตายทั้งฝ่ายจิตวิญญาณ และกายภาพทรุดโทรมด้วย
ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ (พระวจนะ หรือโทราห์) = จะปลดเราจากความทุกข์
ความเศร้า และนำเราเข้าสู่ความชื่นชมยินดี
ใครอ่านพระวจนะแล้วยังง่วงและเป็นยานอนหลับอยู่ ..เราต้องปรับยาใหม่
เรามาดูความเชื่อของคนคนหนึ่ง
1 ซามูเอล 1:5-6
5 แต่สำหรับนางฮันนาห์เขาจะมอบให้ถึงสองส่วนเพราะเขารักนาง
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้า + ทรงปิดครรภ์ของนางไว้
6 และเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า + ทรงปิดครรภ์ของนาง
เปนินนาห์คู่แข่งของฮันนาห์ก็ยิ่งซ้ำเติมให้นางขุ่นเคืองใจ
นางฮันนาห์ ผู้ที่ได้ผ่านการทดลองที่ยากลำบากได้
1. เอลคานาห์สามีของนางตำหนินาง (ข้อ8)
2. เปนินนาห์ (เมียคู่) ภรรยาคนที่สองของเอลคานาห์ก็ทำให้เธอเจ็บใจ (ข้อ7)
3. เอลียังกล่าวหาเธอว่าผิด ว่าเธอเมา 1 ซามูเอล 1:14
4. เธอยังเป็นคนที่หวังแสวงหาพระเจ้า : 10,11 เธอเชื่อ
5. พระเจ้าทรงตอบเธอและเธอก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์ คือถวายบุตร 27,28
ผล: ?
ฮันนาห์ได้ลูกเพิ่มอีกห้าคนที่ติดกับซามูเอล
และนางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชายสามหญิงสอง 1 ซามูเอล 2:21
ฮันนาห์หมายถึง "พระคุณ" "หรือความโปรดปราน" ในภาษาฮีบรู และ เลข 5 เป็นเลขสำหรับ “พระคุณ”
เธอยินดีและเริ่มที่จะร้องเพลงในพระวิญญาณ หมายความว่า เธอชื่นชมยินดี
การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่งแต่ความสุข (ยินดี)จะมาในเวลาเช้า. สดุดี. 30:5
พี่น้องครับ ..จงมีความเชื่อเถิด
“เพลง มีความเชื่อสักนิด ภูเขาก็เคลื่อนได้เปลี่ยนสิ่งร้ายหนักใจกลายเป็นดี”
และเราจะเห็นการอัศจรรย์ (อับราฮัมก็ได้หัวเราะและชื่นชมยินดีด้วยกัน เพราะความเชื่อของท่าน)
* ภูเขา ในบริบทฮีบรู หมายถึงภูเขาจริงๆ หรือเล็งถึงปัญหา หรือผู้ที่ข่มเหงเราด้วย
3. ความชื่นชมยินดีมาจากการมีความสัมพันธ์สนิทภายในกับพระเจ้า (ติดสนิท)
โรม 14:17: เพราะอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องของการกินการดื่ม แต่เป็น ความชอบธรรม สันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์
ความชื่นชมยินดีตอนนี้ คือคำว่า “Simcha” ซิมฮา รากศัพท์เดียวกับ sameyach หมายถึงความปีติยินดี หรือมีความสุขมาก
และคำๆนี้ ยังใช้ในโอกาสการเฉลิมฉลองเทศการที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีด้วย
บางครั้งใช้ในงานแต่งงานหรืองานหมั้น ไม่ใช่งานศพหรือไว้ทุกข์
และบางครั้งยังเอามาใช้ในการเฉลิมฉลองเป็นเพลงจัดงานแต่งงาน
พี่น้องครับ คริสตจักร หรือชุมชนคือเจ้าสาว เราทั้งหลายเป็นเจ้าสาว
ที่จะต้องเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี และเสียงหัวเราะ อาเมน
ความชื่นชมยินดีคืออะไร ?
เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่หลายคนต้องสูญเสียความสุขสำหรับชีวิต.
1. ความสุข (ปิติยินดี)หรือความชื่นชมยินดี
ในพระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับพระพรทั้งหมดสำหรับคุณ
สดุดี. 30:11 “พระองค์ทรงเปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นการเต้นรำ
พระองค์ทรงถอดชุดผ้ากระสอบสำหรับไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออก และสวมความชื่นบานให้แทน”
ความชื่นบานตรงนี้ใช้คำว่า simha เช่นกัน เราจะเป็นดั่งเจ้าสาวที่กำลังเต้นรำ อาเมน
สดุดี. 126:5: "บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตาจะเก็บเกี่ยวด้วยบทเพลงแห่งความยินดี.
อิสยาห์ 61:3 และมอบมงกุฎแห่งความงามแทนขี้เถ้า แก่ผู้ที่ทุกข์โศกในศิโยนมอบน้ำมันแห่งความยินดีแทนการคร่ำครวญ
และเครื่องนุ่งห่มแห่งคำสรรเสริญแทนดวงใจที่ท้อแท้สิ้นหวังพวกเขาจะได้ชื่อว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรมเป็นต้นไม้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงปลูกไว้เพื่อสำแดงความรุ่งโรจน์ของพระองค์
ดังนั้นการที่เราจะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้นั้น เราต้องใช้เวลากับพระองค์
ทิ้งสิ่งไร้สาระบางอย่างออกไป ที่ถ่วงชีวิตของเรา และดึงเราออกจากความสัมพันธ์
กับพระเจ้า
มธ. 5:3 “คนที่ยากจนด้านจิตวิญญาณก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย
ยากจน หมายถึง ถ่อมใจ ,อยากได้, หรือ ห้วกระหาย (ฝ่ายวิญญาณ)
เป็นสุข หมายถึงได้รับพระพร
แผ่นดินสวรรค์ หมายถึง เราจะเป็นประชากรของพระเจ้า
"คนที่หิวกระหายฝ่ายวิญญาณก็เป้นสุข คือได้รับพระพร เพราะเขาจะเป็นประชากรของพระองค์"
ถ้าสามีภรรยาแต่งงานกัน แต่สามีเอาแต่เล่นเกม ดูกีฬาทั้งคืน วันหยุดก็ไปตีกอฟ
โดยไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย ความสัมพันธ์ย่อมไม่เกิด จริงไหมครับ
ความจริง เราไม่ได้เป็นคนพิเศษที่ปราศจาก ความทุกข์ หรือความเลวร้าย แต่ความรักและความสนิทสนม ระหว่างเรากับพระเจ้าจะนำเราผ่านทุกสิ่งไปได้แน่นอน
4. ความชื่นชมยินดีเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในตัวเรา
ผลฝ่ายวิญญาณ คือ อุปนิสัยซึ่งเป็นบุคลิกภาพของคริสเตียนในด้านส่วนตัวและด้าน
สังคม และเป็นผลผลิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งทำงานในชีวิตของคุณ
เช่นเดียวกับผลไม้ซึ่งใช้เวลาในการที่จะพัฒนาเติบโตในโลกธรรมชาติ ผลฝ่ายวิญญาณก็
กินเวลาในการพัฒนาเช่นกัน นั่นคือผลผลิตของการเติบโตตามธรรมชาติในชีวิตของพระวิญญาณ
กาลาเทีย 5:22: ส่วนผลของพระวิญญาณนั้นคือ ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ความอดทน ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ
เป็นความยินดีภายในที่ไม่เกี่ยวกับหรือไม่ขึ้นกับสภาพการณ์แวดล้อมภายนอก
เป็นลักษณะนิสัยมากกว่าเป็นอารมณ์ที่เกิดชั่วครู่เมื่อได้รับจาก พระวิญญาณบริสุทธิ์
พวกสาวกก็มีความชื่นชมยินดีแม้จะถูกต่อต้านข่มเหง
ความชื่นชมยินดี (ความปลาบปลื้มใจ)
ความชื่นชมยินดีคือ คุณสมบัติของความดีใจ ความชื่นชม ความยินดีปรีดา
ผลฝ่ายวิญญาณของความชื่นชมยินดีและอารมณ์แห่งความสุขนั้นไม่เหมือนกัน แต่ละ
อย่างก็เกิดมาจากที่ต่างชนิดกัน ความสุขเกิดจากโลกรอบๆ ตัวคุณและจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ต่างๆ ของคุณด้วย ความชื่นชมยินดีมีต้นกำเนิดจากพระวิญญาณของพระเจ้าและไม่ขึ้นอยู่กับ
สถานการณ์ภายนอก
ความชื่นชมยินดีและพระวิญญาณบริสุทธิ์ คู่กันเสมอ
กจ. 13:52 ส่วนพวกสาวกเต็มด้วยความชื่นชมยินดีและเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
เพราะว่าความชื่นชมยินดีของคุณเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณและไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ภายนอก ฉะนั้นคุณจึงมีความสามารถชื่นชมยินดีแม้ในการถูกทดลอง
ยก. 1:2 พี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อพวกท่านพบกับการทดลองใจต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง
จงจำไว้ว่าความชื่นชมยินดีเป็นผลแห่งการสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ให้เราทูลขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้เรามองข้ามสถานการณ์ที่โศกเศร้า
และหนุนจิตใจเราด้วยภาพแห่งความรื่นเริงยินดีที่รอคอยเราอยู่
คำเผยพระวจนะจาก ไมค์ บาร์เชลเดอร์
ด้วยว่าความชื่นชมยินดีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมรดกของพวกเราจากพระเจ้าในฐานะ ที่เป็นผู้เชื่อถือในพระองค์อยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความชื่นชมยินดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ การมีความชื่นชมยินดี ไม่เหมือนกับการมีความสุข เพราะว่าการมีความสุขนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความชื่นชมยินดีเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยว่าความชื่นชมยินดีนั้นเป็นของประทานฝ่ายวิญญาณจากสวรรค์ และเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
5. เมื่อเราอยู่ในสถานที่แห้งแล้ง
พระเจ้าจะให้คู่มือสำหรับความชื่นชมยินดีแก่เรา
อิสยาห์ 52: 9 จงร่วมกันเปล่งเสียงร้องเพลงเบิกบานเถิด ซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มเอ๋ย
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์แล้ว พระองค์ได้ทรงไถ่เยรูซาเล็มแล้ว
อิสยาห์ 55:12 เจ้าจะออกไปด้วยความชื่นชมยินดี และถูกนำออกไปด้วยสันติสุข ภูเขาและเนินเขาจะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าเจ้าบรรดาต้นไม้ในทุ่งนาจะปรบมือ
ความชื่มยินดี ในบริบทของคนฮีบรู คือคำว่าสรรเสริญด้วย
บ่อยครั้งที่เราพูดคาว่าสรรเสริญ แต่คำสรรเสริญในพระคัมภีร์
นั้นภาษาอังกฤษใช้คาว่า Praise ซึ่งแปลได้ว่า สรรเสริญ, ยกย่อง, ชม,
สดุดี, เชิดชู, ยกย่องชมเชย ภาษาไทยก็ใช้คาว่า สรรเสริญ
ในทุกครั้งไป แต่ก็มีพระคัมภีร์บางตอนที่พูดถึง จงโห่ร้อง
จงชื่นชมยินดี หมอบกราบ ปรบมือ เครื่องสาย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นท่าทีความหมายในการสรรเสริญด้วยเช่นกัน
แม้พระคัมภีร์จะไม่เขียนตรงๆว่า สรรเสริญ ภาษาฮีบรูนั้นใช้หลายคำ
ที่เป็นท่าทีของการสรรเสริญ ไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็นภาษากายที่แสดงออกด้วย
สดุดี 16:11 พระองค์ได้ทรงสำแดง หนทางแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ มีความชื่นบานอยู่ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์เป็นนิตย์
ฉบับฮีบรู มีคำว่า จะไม่ทรงปล่อยเราไว้ในแดนคนตาย และมีความชื่นชมยินดีและชัยชนะ
เราจะมั่นใจว่า เราจะมีชัยชนะ อาเมน
คำหนึ่งในคำสรรเสริญภาษาฮีบรูคือคำว่า
alaz (aw-laz') עָלַז อา ลาส…ส
exult อิก'ซัลลท
ปลื้มปีติ
become jubilant หมายถึง กลายเป็นความปีติยินดี
rejoice หมายถึง เปรมปรีดิ์ ชื่นชมยินดี
Alaz จึงหมายความว่า "จะชื่นชมยินดีเพื่อหฤหรรษ์และการ กระโดดเพื่อความชื่นชมยินดี" ส่วนใหญ่มักจะแปล "หฤหรรษ์" หรือ "ดีใจ" ก็ได้
หรือ ความชื่นชมยินดีที่แสดงออกมาด้วยความดีใจ หรือ หฤหรรษ์
ในไทยคิงเจมส์ สดด. 149:5 ให้วิสุทธิชนลิงโลดในสง่าราศี ให้เขาร้องเพลงบนที่นอนของเขา
เดือนนี้เป็นเดือนที่เราจะกระโดด
6. เราจะชื่นชมยินดี ร่วมกับฟ้าสวรรค์
อธิษฐานขอให้คนบาปหนึ่งกลับใจและหันไปหาพระเจ้า.
ลูกา 15:7 เราบอกท่านว่าทำนองเดียวกัน ในสวรรค์จะมีความชื่นชมยินดีในคนบาปคนหนึ่งซึ่งกลับใจใหม่ มากยิ่งกว่าในคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนซึ่งไม่ต้องการกลับใจใหม่ "
ใน ทำนองเดียวกัน เมื่อมีคนบาปคนหนึ่งกลับใจ
ในสวรรค์ก็จะมีความชื่นชมยินดีด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้กล่าวถึงพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้ามีความชื่นชมยินดีเมื่อมีคนบาปคน
หนึ่งกลับใจ เพราะทูตสวรรค์อยู่ในโลกนี้เพื่อดูความเป็นไปของโลก
และทูตสวรรค์รู้ว่าพระประสงค์ของพระเจ้าคือการทรงช่วยมนุษย์
ให้รอดโดยทางพระ โลหิตของพระบุตร ดังนั้น เมื่อมีคนบาปกลับใจ
แม้แต่คนเดียว พวกทูตสวรรค์จึงชื่นชมยินดีเพราะเกิดความสำเร็จตามพระประสงค์
ชื่อของเราถูกรับและเขียนขึ้นในหนังสือแห่งชีวิต
ลูกา 10:20 อย่างไรก็ตาม อย่าชื่นชมยินดีที่วิญญาณต่างๆ ยอมสยบให้พวกท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของพวกท่านถูกจดไว้ในสวรรค์ "
พระเยซูพูดประโยคนี้ เพราะว่าพวกสาวกทั้งหลายที่ถูกส่งออกไปรับใช้
กลับมาทูลพระองค์ รู้สึกทุกคนชื่นชมยินดีเหลือเกิน
เพราะได้ไปขับผีออก ก็ชื่นชมยินดีว่ามีฤทธิ์เดชอำนาจ
แต่พระเยซูกลับบอกว่า “อย่าชื่นชมยินดีที่วิญญาณต่างๆ
ยอมสยบต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์”
นั่นคือสิ่งจริงที่ คริสเตียนทุกคนต้องพึงสังวรไว้ จ
ริงอยู่เรามีกิจการงานที่เจริญรุ่งเรือง เราสามารถทำการอัศจรรย์ได้
… ไม่ใช่โดยเราแต่โดยพระนามของพระเยซู
วิวรณ์.3:5 ผู้ใดมีชัยชนะจะได้สวมชุดสีขาวเช่นเดียวกับพวก เขา เราจะไม่ลบชื่อผู้นั้นจากหนังสือแห่งชีวิตเลย แต่จะรับรองชื่อผู้นั้นต่อหน้าพระบิดาของเราและต่อหน้าเหล่าทูตสวรรค์ของ พระองค์
7. ความชื่นชมยินดี ไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึก
แต่ได้มาโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์
ความชื่นชมยินดี ในพระเจ้าคือกำลังของฉัน
เนหะมีย์ 8:10 เนหะมีย์กล่าวว่า " จงไปกินและดื่มให้อิ่มหนำสำราญ และแบ่งปันแก่ผู้ที่ไม่ได้เตรียมอะไรมาเถิด วันนี้เป็นวันบริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อย่าโศกเศร้าหม่นหมอง เพราะความชื่นบานในองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นกำลังของท่าน "
ลูกา 6: 21-24
21 ความสุขมีแก่ท่านผู้หิวโหยอยู่ในขณะนี้
เพราะท่านจะได้อิ่มเอม
ความสุขมีแก่ท่านผู้ร่ำไห้อยู่ในขณะนี้
เพราะท่านจะได้หัวเราะ
พระวจนะตอนนี้กำลังพูดถึงการให้ การช่วยเหลือ
ในขณะที่เรากำลังแบ่งปัน ให้ผู้อื่น
เราก็จะได้รับกำลังด้านจิตวิญญาณ และเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีด้วย
“แบ่งปันแก่ผู้ที่ไม่ได้เตรียมอะไรมาเถิด” เป็นประเพณีที่ประชากรของพระเจ้า
จะระลึกถึงผู้ที่ด้อยโอกาส ในเทศกาลฉลองต่างๆ
2คร. 12:9 แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วว่า
“การมีพระคุณของเราก็เพียงพอกับเจ้า เพราะว่าความอ่อนแอมีที่ไหน
ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น”
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะอวดบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า
มากขึ้นด้วยความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อว่าฤทธานุภาพของพระคริสต์จะอยู่ในข้าพเจ้า
ฉบับฮีบรู …”แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วว่า เราให้พระคุณความโปรดปราน
ที่เพียงพอสำหรับเราโดยที่เราไม่ต้องออกแรง
เพราะสำหรับการใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์คือทำความสมบูรณ์ในความอ่อนแอของเรา
ด้วยความปลื้มปีติยินดี หรือชื่นชมยินดี เราจึงอวดในความอ่อนแอของเรา”
พระองค์อยู่ในสถานการณ์ของชีวิตของคุณทุกๆสถานการณ์
พระเยชูวาห์ทรงเป็นแหล่งที่มาของความสุขที่แท้จริงของคุณ
สำหรับผู้ที่มีการสูญเสียความสุขในการดำรงชีวิต
พระองค์มาเพื่อจะแลกเปลี่ยน สำหรับผู้ที่เป็นผู้เชื่อที่จะมาและ
ล้มตัวลงนอนวางภาระของพวกเขาและเขาจะเต็มไปด้วย
พระวิญญาณบริสุทธิ์.ความสุข สันติสุข
ความปีติยินดี ความชื่นชมยินดี ได้เคลื่อนเข้ามาแล้ว
หลายครั้งเราอาจจะ เชื่อในความชื่นชมยินดี
และหลายครั้งเราไม่รู้จะก้าวเข้าไปสู่ความชื่นชมยินดีและสันติสุขได้อย่างไร
มันไม่ใช่มาจากการชอปปิ้ง การดูทีวี การปาร์ตี้สังสรรค์ ไปไปเที่ยวพักผ่อน
แต่มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ตอนต้นของคำเผยได้บันทึกว่า
พวกเราจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้ความชื่นชมยินดีภายใน
ซึ่งมาจากสวรรค์นั้นท่วม ท้นพวกเราอย่างสมบูรณ์
และปลดชนวนการมองสิ่งต่างๆ ในแง่ลบ อีกทั้งแรงกดดัน
ของความยากลำบากที่อยู่รอบๆ ตัวของพวกเรานั้นได้
วันนี้เราจึงเริ่มต้นที่จะกล่าวว่า ใช่เลย พระองค์คือความชื่นชมยินดีของฉัน
และฉันจะแลกพวกมันไป และรับเอาความชื่นชมยินดีกลับคือมา
เพราะนี่คือธรรมชาติ ที่พระองค์ได้ประทานให้กับเราแล้ว
แลกไหมครับ แลกเลย ใช่เลย
เราอาจจะไม่มีทางจะแลกได้
แต่จงเชื่อในพระเยซู ยาชูวาห์ ฮามาชียาห์
เราต้องร่วมมือ และเราต้องเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์
อัตลักษณ์ของเราที่จะปรากฎคือ "เราเป็นบุคคลแห่งความชื่นชมยินดี"
เดือนที่ผมเขียนบทความนี้ เป็นช่วงเวลาในเดือน Adar อาดาร์ เดือนที่ 12 ของฮีบรู
เดือนอาดาร์ เกี่ยวข้องกับคำว่า Shekinah หรือ Shechina (อ่านว่า เซ คิ นาห์)
เป็นคำกริยา หมายถึง ที่พัก ที่อาศัย
เราจะเจอและพบคำนี้ได้ใน ภาษา อาราเมค ซึ่งมีความหมายว่า การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางประชากรของพระองค์
1คร. 6:19 ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่า ร่างกายของพวกท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่าน ผู้ซึ่งพวกท่านได้รับจากพระเจ้า และท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง?
จงชื่นชมยินดีเถิดพระเจ้าประทับอยู่กับเรา อย่างหนักหน่วง
คำ and i will dwell และเราจะดำรงค์อยู่ (V'edor)
ก็เกี่ยวข้องกับเดือน Adar ด้วย
"พระองค์ผู้ทรงเป็นความชื่นชมยินดีประทับอยู่ภายในเรา"
เราจะต้องป่าวประกาศ เอาอิสรภาพ และเรียกเสียงหัวเราะที่หายไปกลับคืนมา
เราจะคว่ำบัลลังก์ความกลัว และกังวล ทุกปัญหาที่นั่งบนบัลลังก์ใจของเราลง
และเชิญพระองค์ครอบครอง เราจะยืนหัวเราะใส่ปัญหา
เดือนนี้เชื่อมกับ เดือนแห่งเผ่า นัฟทาลี (กลางตัวเมีย) ที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
นัฟทาลีก็เต็มไปด้วยการสรรเสริญเพราะความสมบูรณ์ของผลิตผลจากพืชของ
เผ่าของเขา พวกเขามีความรวดเร็วและคล่องตัวกว่าเผ่าอื่น ๆ
พระเจ้าจะทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนกวางตัวเมีย
เราควรพระราชกฤษฎีกาว่าเราจะข้ามและกระโดดขึ้นไปบนภูเขา
ของสถานการณ์ในชีวิตของเรา เราควรที่จะประกาศกฤษฎีกา
นี้เป็นเดือนและเป็นช่วงเวลา ที่มีความสุขต้องเพิ่มขึ้น
ความชื่นชมยินดีมาเต็มเปี่ยม เพื่อที่เราจะเข้าสู่ฤดูแห่งการปลดปล่อย
สภษ. 17:22 ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจชอกช้ำทำให้กระดูกแห้ง
บทความนี้ ต่อยอดมาจาก
http://missionkorat.blogspot.com/2012/08/blog-post_24.html
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ชาโลม
ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น