พิธีมหาสนิท
พระคัมภีร์ฉบับรากของภาษาไม่มีคำว่า มหาสนิท แต่บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะโต้แย้งในเรื่อง คำว่า “มหาสนิท” ครับ
: ในภาษาเดิม พระองค์ตรัสว่าพระองค์คือ ขนมปัง (lechem= ขนมปัง) (Matzah= ขนมปังไร้เชื้อ) ที่ลงมาจากสวรรค์
(lechem) เป็นคำเดียวกับขนมปังที่พระเยซูหยิบขึ้นมาใน มธ. 26:26 ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา”
Lechem = ขนมปัง พระเยซูคือขนมปังไร้เชื้อ(Matzah) คือไม่มีเชื้อความบาปเลยแม้สักนิดเดียว พระองค์ปราศจากความบาป 1ยน. 3:5 พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และไม่มีบาปอยู่ในพระองค์เลย
Unleaven bread = matzah = ขนมปังไร้เชื้อ
Regular bread = Lechem = ขนมปังปกติ ทั่วไป
: ใน 1 โครรินธ์ ใช้คำว่าขนมปัง เป็นภาพกว้าง และรวม แต่ใน ลูกา 22:19 และ มาระโก 14:22 ใช้คำเจาะจงว่า Matzah
พระคัมภีร์อธิบายว่านี่คือ 14 อาบีบ คืนปัสกา (เข้าสู่ปัสกา)
ในการอธิบายนั้น Aviv ไม่ใช้ชื่อเดือน พระคัมภีร์ใช้คำว่า Kodesh Ha-Aviv คำว่า Ha=the จะไม่มาก่อนชื่อ แต่จะมาก่อนคำวิเศษณ์(ขยายคำนาม)
Aviv หมายความว่า ฤดูใบไม้ผลิ เวลาที่เก็บเกี่ยวข้าวบาเล่ย์ ตรงกับช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ในสมัยปัจจุบัน (แต่อาบีบเป็นช่วงที่คาบเกี่ยวกับ และอยู่ใน นิสาน เสมอ)
1คร. 11:24 เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก และตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา”
1คร. 11:25 หลังจากรับประทานอาหารแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา จงทำอย่างนี้ คือเมื่อใดที่พวกท่านดื่มจากถ้วยนี้ จงดื่มเพื่อระลึกถึงเรา”
1คร. 11:26 เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
1คร. 11:27 ฉะนั้นถ้าใครกินขนมปัง หรือดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เหมาะสม เขาก็ทำผิดต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า
: บางฉบับใช้คำว่า เขาก็ทำผิดต่อร่างกายของพระยาห์เวห์ (บ้านของพระยาห์เวห์)
Yahweh เป็นชื่อครอบครัวที่เราใช้เรียกพระกาย นั่นคือ ยาฮูชูวาห์ ผู้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อความบาปของเราทั้งหลาย
1คร. 11:28 ทุกคนจงสำรวจตัวเอง แล้วจึงกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้
1คร. 11:29 เพราะว่าคนที่กินและดื่มโดยไม่ได้ตระหนักถึงพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็กินและดื่มเป็นเหตุให้ตนเองถูกลงโทษ
: ใช้คำว่า คนที่กินแฃะดื่มอย่างไม่คู่ควร คือไม่มีท่าทีของการสำรวจตรวจสอบตัวเอง เท่ากับเป็นการสาปแช่งตนเอง (ผมตีความว่า ไม่ตรวจสอบนิ่งเฉยเท่ากับนำเชื้อเข้ามาสู่พระกายที่ ทำร่วมกัน) ไม่เป็นการสมควรเลยต่อร่างกายของพระเจ้า
1คร. 11:30 เพราะเหตุนี้พวกท่านหลายคนจึงอ่อนแอและเจ็บป่วย และบ้างก็ล่วงหลับไป
: ในมุมของปัสกา เป็นเรื่องที่จริงจังและซีเรียสมากในสมัยพระคัมภีร์เดิม พระคัมภีร์บันทึกเช่นนั้นเพราะเขาไม่จริงจัง (จริงจังในที่นี้ไม่ใช่วิญญาณศาสนา) คือเขาไม่ได้เข้าสู่ปัสกาแบบจริงจัง (ผมอาจจะใช้คำไม่ค่อนสวยนะครับ)
1คร. 11:31 แต่ถ้าเราวินิจฉัยตัวเอง เราคงไม่ต้องถูกพิพากษา
1คร. 11:32 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิพากษาเรานั้น พระองค์ทรงตีสอนเรา เพื่อไม่ให้เราถูกพิพากษาด้วยกันกับโลก
: บางฉบับของเมสสิยานิกส์ บอกว่า ที่พระองค์พิพากษาเรานั้น เพื่อเราจะรักษาวินัย เพื่อที่เราจะไม่ถูกสาปแช่งหรือถูกลงโทษ เหมือนคนทั้งโลก
1คร. 11:33 ฉะนั้นพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายมาชุมนุมกันเพื่อรับประทานอาหารนั้น จงรอกันและกัน
1คร. 11:34 ถ้ามีใครหิว ก็ให้กินที่บ้านก่อน เพื่อว่าเมื่อมาชุมนุมกัน พวกท่านจะไม่ถูกลงโทษ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ข้าพเจ้าจะสั่งสอนเมื่อข้าพเจ้ามา
: บริบทนี้ก็ยังเป็นปัสกา ผู้เขียน บอกว่าถ้าหิวให้กินที่บ้านมาก่อน เพื่อเมื่อเขามารวมตัวกัน ไม่ใช่สำหรับการลงโทษพวกเขา
และส่วนที่เหลือของลำดับขั้นตอนของปัสกานั้น (เรื่องอื่นๆ) ข้าพเจ้าจะสั่งสอนเมื่อจ้าพเจ้ามา
: 1คร. 11:21 เพราะว่าในการกินอาหารนั้น แต่ละคนต่างกินอาหารของตนก่อน บ้างก็ยังหิวอยู่ และบ้างก็เมา
ในข้อ 23 ในภาษาเดิมคือขนมปัง แต่เป็นขนมปังไร้เชื้อ สิ่งที่พระเยซูทรงหยิบขึ้นมาคือขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งในบริบทนี้ ขนมปังไร้เชื้อใช้ในเทศกาลปัสกา
“1คร. 11:23 เพราะว่าเรื่องซึ่ง ข้าพเจ้ามอบไว้กับพวกท่านนั้น ข้าพเจ้าได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือในคืนที่เขาทรยศพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงหยิบขนมปัง
1คร. 11:24 เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก และตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา”
พระ เยซูพระองค์ทรงเป็นลูกแกะปัสกา สิ่งที่เรียกว่า มหาสนิทนี้ถูกทำในช่วงเทศกาลปัสกา กายที่ต้องแตกหักของพระองค์เล็งถึงลูกแกะที่ต้องถูกฆ่า เพื่อรับเอาบาปของเราไป ทุกอย่างสำเร็จและเติมเต็มในปัสกา ในพันธสัญญาเดิม ยอห์นเองก็ได้บอกว่า พระองค์คือ แกะของเอโลฮิม ผู้ที่จะมาแบกบาปของคนทั้งโลกไป นี่คือแกะปัสกา (พระเมษโปดก)”
ยน. 6:35 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิว และคนที่วางใจในเราจะไม่กระหายอีกเลย
ยน. 6:41 พวกยิวจึงซุบซิบกันเรื่องพระองค์เพราะพระองค์ตรัสว่า “เราเป็นอาหารซึ่งลงมาจากสวรรค์”
ในภาษาเดิม พระองค์ตรัสว่าพระองค์คือ ขนมปัง (lechem) ที่ลงมาจากสวรรค์
(lechem) เป็นคำเดียวกับขนมปังที่พระเยซูหยิบขึ้นมาใน มธ. 26:26 ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา”
เช่นเดียวกับในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาได้รับกระยาทิพย์คือมานาจากสวรรค์ 1,500 ปีต่อมาพวกเขายังคงก็ยังคงบ่นเกี่ยวกับขนมปังสวรรค์ พระองค์คือขนมปังและมีเชื้อสายจากสวรรค์ พระองค์คือมานาที่มีชีวิต
ยน. 6:47 เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจก็มีชีวิตนิรันดร์
ยน. 6:48 เราเป็นอาหารแห่งชีวิต
ยน. 6:49 บรรพบุรุษของพวกท่านได้กินมานาในถิ่นทุรกันดารแล้วก็ยังเสียชีวิต
ยน. 6:50 แต่นี่เป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์เพื่อให้คนที่ได้กินแล้วไม่ตาย
ยน. 6:51 เราเป็นอาหารดำรงชีวิตซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าใครกินอาหารนี้ คนนั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ และอาหารที่เราจะให้เพื่อชีวิตของโลกนั้นก็คือเลือดเนื้อของเรา”
ยน. 6:52 แล้วพวกยิวก็ทุ่มเถียงกันว่า “คนนี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร?”
พวก เขายังไม่เข้าใจสิ่งที่พระเยซูตรัส เราไม่ได้กินเนื้อและเลือดของพระเยซูจริงๆและเราไม่คิดหรือจินตนาการแบบนั้น ด้วยเพราะพวกยิวถือว่าการกินเนื้อของมนุษย์ด้วยกันเป็นสิ่งต้องห้ามในโทราห์
ตำว่าจงทำเพื่อระลึกถึง หรือในความทรงจำนั้น ไม่ได้หมายความว่าทำบ่อยตามต้องการ (ทุกเดือน) เราจดจำสิ่งที่ ยาฮูชูวาห์ทำ ไม่ใช่คริสตจักรที่สถาปนาขึ้น แท้จริงทำกันปีล่ะครั้ง
ส่วนใน กจ. 20:7 ในวันอาทิตย์เมื่อเราประชุมกันทำพิธีหักขนมปัง เปาโลก็กล่าวสั่งสอนเขาทั้งหลาย และเพราะท่านตั้งใจจะจากไปในวันรุ่งขึ้น ท่านจึงกล่าวยืดยาวไปจนถึงเที่ยงคืน
: ภาษาเดิมใช้คำว่า ชับบาท ไม่ใช่วันอาทิตย์ “นี่เป็นช่วงบ่ายสะบาโต เปาโลกำลังจะออกเดินทางในวันถัดไป เขาเทศนาสอนจนถึงเที่ยงคืน ความจริงที่ว่า เขาจะออกในวันแรกของสัปดาห์ = วันอาทิตย์ จึงแสดงให้เห็นว่า วันนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางความเชื่อ (ศาสนา) ของเขา”
จึงพอจะสรุปได้ว่า ไม่ใช่แค่ในปัจจุบันจากคำสอนเท่านั้น แต่พระคัมภีร์ก็บอกเราว่า ใน ชับบาท เราสามารถทำพิธีหักขนมปัง ซึ่งไม่ใช่ขนมปัง ไร้เชื้อ แต่จะใช้ไร้เชื้อได้ไหม อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ Lechem คือขนมปังทั่วไปครับ
ในสะบาโต เขาจะกินขนมปังที่ชื่อว่า Challah เป็น Lechem
Challah (plural: challot/challos) (Hebrew: חלה) is a special Jewish braided bread eaten on Sabbath and holidays
เป็นขนมปังถัก หรือ ขนมปังเปีย กินวันสะบาโต และวันหยุดครับ
ส่วนเรื่องการประยุกต์ในบริบทอื่น ข้อนี้ไม่ทราบครับ
ขออภัยครับถ้าพิมพ์มาเยอะเกินและถ้าไม่ตรงประเด็น
ถ้าคุณอ่านบทความนี้ในวัน ชับบาท (สะบาโต)
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
Baruch atah Adonai, eloheinu melech ha'olam, hamotzi lechem min ha'aretz
Blessed are you, LORD, King of the Universe, who brings forth bread from the earth
บารุค อทา อาโดนาย, เอโลเฮนู เมเล็ก ฮา’โอลาม, ฮาโมทซี เลเค็ม มิน ฮา’อาเร็ทส์
ถวายพรแด่องค์อาโดนาย เอโลฮิม กษัตริย์แห่งจักรวาล ผู้ประทานขนมปังจากแผ่นดินโลก
Blessed are you, LORD, King of the Universe, who brings forth bread from the earth
บารุค อทา อาโดนาย, เอโลเฮนู เมเล็ก ฮา’โอลาม, ฮาโมทซี เลเค็ม มิน ฮา’อาเร็ทส์
ถวายพรแด่องค์อาโดนาย เอโลฮิม กษัตริย์แห่งจักรวาล ผู้ประทานขนมปังจากแผ่นดินโลก
ชาโลม
Ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น