อำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ หรือ
1คร. 15:56 เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ
1คร. 15:56 เหล็กไนของความตายนั้นคือบาป และฤทธิ์ของบาปคือพระราชบัญญัติ
พระวจนะตอนนี้ และอีกหลายข้อที่คล้ายกันถูกนำมาเป็นข้อถกเถียง ในเรื่องธรรมบัญญัติในพันธสัญญาเดิม ผมจะไม่ลงรายระเอียดมากนักเพราะในบล็อก ได้แบ่งปันไว้เยอะแล้ว แต่อยากสรุปคร่าวๆว่า เรารอดแล้วโดยพระเยซู สมัยก่อนนั้น ธรรมชาติความบาปของมนุษย์จะค้านและต่อต้านธรรมบัญญัติของพระเจ้า และมนุษย์ก็พยายามฝ่าฟันไปให้ได้ แต่หลายคนก็ไม่สามารถทำได้ ธรรมบัญญัติ คือคำสอนและคู่มือการดำเนินชีวิตของพระยาห์เวห์
พระเยซูมารื้อฟื้นธรรมบัญญัติเดิมของพระยาห์เวห์ และมาเอาธรรมชาติบาปของเราออกไปเพื่อเราจะไม่ค้านกับธรรมบัญญัติ และจารึกสิ่งนี้ที่หัวใจของเรา และพระวิญญาณจะนำเราในการเดิน
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราฟรี เสรีภาพ ไม่ต้องกลับไปสู่โทราห์ หรือธรรมบัญญัติอีก พระเยซูมาทำแทนแล้ว สิ่งนี้เป็นความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย พระเยซูมาทำแต่ไม่ได้มาทำแทนและเราไม่ต้องทำอะไรเลย และอีกมุม ไม่ใช่ให้เรากลับไปสู่ธรรมบัญญัติแบบวิญญาณศาสนาที่ผสมและกลับไปหาธรรมเนียม พิธีกรรม ของมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาให้ตนดูชอบธรรม และหลายคนตีความการกลับสู่ธรรมบัญญัติว่า ต้องไปท่องให้ได้ จำให้ได้ ทั้งบัญญัติ 10 ประการ หรือ 613 ข้อ
จุดประสงค์ของธรรมบัญญัติไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เรารอดแล้วและกระทำดีในธรรมบัญญัติแบบธรรมชาติใหม่ ไม่ใช่การประพฤติธรรมบัญญัติเพื่อจะรอด
พระวิญญาณจะนำเราและดึงเอาธรรมบัญญัติ หรือโทราห์ที่จารึกที่ใจเรา บอกเรา เตือนเรา เหมือนเราจะสอบ แต่เราไม่อ่านหนังสือเลย เราจะสอบได้หรือ และคนที่อ่านก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องอ่านและจดจำทุกถ้อยคำท่องเป็นนกแก้ว นกขุนทอง พระวิญญาณจะช่วยเรา
กลับมาที่ 1 โครินธ์ 15:56 เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ
ในฉบับ ฮีบรู อาราเมค ได้บอกว่า เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือการละเมิดธรรมบัญญัติ (ละเมิดโทราห์)
ฉบับ Messianic Scriptures และบาปดึงเอาอำนาจจากธรรมบัญญัติ
ในฉบับ The Hebraic Roots และอำนาจของบาปคือ [เรียนรู้เอง หรือ สอนตัวเอง] โทราห์
จากที่ผมแบ่งปันไปก่อนนี้ มันคือธรรมชาติบาปนั่นเอง
พระวจนะข้อนี้โดยรวมจึงหมายถึง เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือการละเมิดธรรมบัญญัติ
1ยน. 3:4 ทุกคนที่ทำบาปก็ประพฤติผิดธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ผิดธรรมบัญญัติ
รม. 7:7 ถ้าอย่างนั้นเราจะว่าอย่างไร? จะว่าธรรมบัญญัติคือบาปหรือ? เปล่าเลย แต่ว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าธรรมบัญญัติไม่ได้ห้ามว่า “ห้ามโลภ” ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
รม. 7:8 แต่ว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้ข้อบัญญัตินั้น ทำให้ความโลภทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ตายแล้ว
ในฉบับ Messianic Scriptures บอกว่า “เพราะถ้าแยกจากธรรมบัญญัติ (Torar) แล้ว บาป คือความตาย”
รม. 7:9 เมื่อก่อนข้าพเจ้าดำรงชีวิตอยู่นอกเหนือธรรมบัญญัติ แต่เมื่อบัญญัตินั้นมา บาปก็กลับมีชีวิต
แต่เมื่อธรรมบัญญัติมา บาปก็กลับมีชีวิต และฉันก็ได้ตาย
รม. 7:21 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพบว่ามีกฎธรรมดาอย่างหนึ่ง คือเมื่อไรที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะทำความดี ก็มักจะเลือกทำชั่วซึ่งอยู่ใกล้ตัว
หรือ แต่ความชั่วร้ายอยู่ใกล้เสมอและเบี่ยงเบนความสนใจของฉัน
รม. 7:25 ขอบพระคุณพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ฉะนั้นทางด้านจิตใจข้าพเจ้ารับใช้ธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่ทางฝ่ายเนื้อหนังข้าพเจ้ารับใช้กฎแห่งบาป
ในฉบับ Messianic Scriptures บอกว่า
ต้องขอบคุณพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา!
ฉันเป็นทาสของพระเจ้า [โทราห์] แต่ด้วยธรรมชาติเก่าของฉัน ฉันเป็นทาสของบาป "[โทราห์]"
ฉะนั้น ธรรมบัญญัญญัติจึงไม่ใช่ความบาป แต่ธรรมชาติความบาปของเราต่างหากที่นำเราไปสู่ความความบาป และธรรมชาติความบาปนี่แหละคือ พลังงานและอำนาจของความบาป
รม. 7:14 เรารู้ว่าธรรมบัญญัตินั้นเป็นเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นเนื้อหนังถูกขายเป็นทาสให้อยู่ใต้บาป
Messianic Scriptures เพราะเรารู้ว่า [โทราห์] เป็นของฝ่ายวิญญาณ; แต่เป็นสำหรับฉัน ฉันผูกพันกับธรรมชาติเก่ที่ขายให้เป็นทาสของความบาป
รม. 8:3 เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ เพราะเนื้อหนังทำให้มันอ่อนกำลังไปนั้น พระเจ้าได้ทรงทำแล้ว โดยพระองค์ทรงใช้พระบุตรของพระองค์เองมา ในสภาพเสมือนเนื้อหนังที่บาป และเพื่อไถ่บาป พระบุตรในเนื้อหนังจึงได้ทรงลงโทษบาป
Messianic Scriptures เพราะว่าสิ่งที่โทราห์ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองเพราะไม่มีอำนาจที่จะทำให้ธรรมชาติเก่าร่วมมือไม่ได้ พระเจ้าจึงส่งพระบุตรมาในฐานะมนุษย์ และมีธรรมชาติดังเรา แต่พระองค์ทรงปราศจากความบาป พระเจ้าทำแบบนี้เพื่อที่จะจัดการกับความบาปและในการทำเช่นนั้นทำให้พระองค์ ดำเนินการลงโทษต่อบาปในธรรมชาติของมนุษย์
ในฉบับ อาราเมค “เพราะธรรมบัญญัติอ่อนแอ เพราะผ่านความอ่อนแอของเนื้อหนัง”
รม. 8:4 เพื่อสิ่งที่ธรรมบัญญัติสั่งไว้จะได้สำเร็จในตัวเราที่ไม่ดำเนินตามเนื้อหนัง แต่ตามพระวิญญาณ
หรือ เพื่อไม่ให้สำเร็จตามที่ธรรมชาติเก่าต้องการ แต่ตามที่พระวิญญาณต้องการ พระวิญญาณจะนำเราโดยโทราห์ หรือโดยธรรมบัญญัติ ฉบับเดิมในพันธสัญญาเก่านั่นแหละ และพระเยซูมารื้อฟื้น และพระวิญญาณจะนำเราดังที่ธรรมบัญญัติได้ถูกจารึกไว้ที่หัวใจของเรา ดังใน เยเรมีย์ 31:33
รม. 8:7 เพราะว่าการเอาใจใส่เนื้อหนังนั้นคือการเป็นศัตรูต่อพระเจ้า ไม่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้า และที่จริงไม่สามารถปฏิบัติตามได้
หรือ จิตใจที่ควบคุมโดยธรรมชาติเก่าเป็นศัตรูกับพระเจ้า * ใจตัณหาก็คือความคิดของเนื้อหนัง
ในฉบับ อาราเมค “เพราะใจของเนื้อหนังเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า”
ชาโลม
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น