ไม่มีที่ว่างให้ซาตาน
พี่น้องครับในแต่ละวันเราต้องเจออะไรมากมาย
เราแต่ละคนล้วนมีสงครามที่แตกต่างกันไป
และหลายครั้งการจมอยู่กับความคิดบางอย่างก็คือการพ่ายแพ้
.. แต่เราต้องไม่ยอมแพ้ (อาเมน)
เราอาจจะมีปัญหากับคน ไม่ว่าจะนอกหรือในคริสตจักร (เพื่อนบ้าน)
ซึ่งไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องแบบนี้
แต่วันนี้ผมอยากหนุนใจว่าเราจะตอบสนองอย่างไร ในทุกสถานการณ์ที่เราเจอ
ศัตรูของเราคือใคร คือคนที่เปิดเพลงดังข้างบ้าน
คือหัวหน้าชุมชนที่ประกาศเสียงตามสายตอนเช้า
คือคนที่นินทา ใส่ร้ายเรา คือคนที่เราช่วยเหลือแต่กลับมาทำร้ายเรา หรือ ??
ศัตรูของเราไม่ใช้คน โดยเฉพาะพี่น้องร่วมความเชื่อ
เพราะเราจะมีศัตรูเป็นแขนเป็นขา เป็นอวัยวะเดียวกันไม่ได้
พระวจนะบางตอนบอกว่า ใครตบแก้มอีกข้าง ให้หันอีกข้างให้ตบด้วย
มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว
ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย
จากพระวจนะตอนนี้ พระคัมภีร์บันทึกว่า
อย่าต่อสู้คนชั่ว แท้จริงคำว่าชั่ว ในบริบทของฮีบรู
ก็คือ มารซาตานด้วย (evil) ฉะนั้นเราต้องยอมคนชั่วหรือ ไม่มีใครสมบูรณ์หรอกครับ
และเราต้องยอมต่อสิ่งชั่วร้ายหรือ ?
ยก. 4:7 เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า
จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป
หรือ จงต่อต้านซาตาน คือความชั่วร้าย แล้วมันจะหนีออกมาจากคุณ
เพราะฉะนั้นท่านเองจงยอมจำนนต่อพระยาห์เวห์
และจงต่อต้าน กับมารซาตาน คือความชั่ว แล้วมันจะหนีไปจากคุณ
ดังนั้นคำว่า "ไม่ได้ต่อต้านความชั่วร้าย
"หรือ"ไม่ต่อต้านคนชั่วร้าย" ที่จริงควรได้รับการแปลเป็น
อย่า…. เพราะคนชั่ว (หรือ ความชั่ว)
Fret (เฟรท) คำนี้ หมายถึง กลัดกลุ้ม ,กัลวลใจ ,ทำให้เป็นทุกข์
รู้สึกเสียใจ, เป็นทุกข์, กัดกร่อน, สึก, กร่อน, ผุ,
“อย่าไม่สบายใจเพราะผู้กระทำความชั่วร้าย
" หรือ "ไม่ต้องเดือดร้อนจากคนชั่ว” ,"ไม่หงุดหงิดเพราะคนชั่ว"
ในฉบับ การแปลฉบับหนึ่งบอกว่า “ไม่ทนต่อความชั่วร้าย”
สภษ. 24:19 อย่าฉุนเฉียวเพราะคนทำบาป และอย่าอิจฉาคนอธรรม
พระวจนะตอนนี้ให้ความหมายใกล้เคียงกับ ที่กล่าวมาคือ ไม่ต้องไป “กังวล”
ฉุนเฉียว มันเป็นภาพของการ เผา
เผานี่มันจุดด้วยความโกรธนะครับ เหมือนไฟที่ถูกจุด
สดด. 37:1 อย่าฉุนเฉียวเพราะคนทำชั่ว อย่าอิจฉาคนทำผิด
พระวจนะกำลังบอกเราว่า อย่ารุ่มร้อน และโกรธเป็นไฟ เพราะคนชั่ว
และอย่าอิจฉาผู้กระทำความชั่ว
ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกัน
เพราะพระเยซู ทรงสอนให้เรามีความรัก และให้อภัย
ไม่แก้แค้นแบบหนังจีน ที่แค้นนี้ต้องชำระ
เราจึงไม่จ่อสู้กับมนุษย์ที่เป็นคน ด้วยเนื้อหนังตอบแทนกัน
อฟ. 6:12 เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด
แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ
พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน
ในภาษาแปลจากฮีบรู วิญญาณชั่ว คือ ความชั่วร้าย
มาดูอีกสำนวนกันครับ เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์
แต่ต่อสู้กับผู้ปกครองเจ้าหน้าที่ และอำนาจการปกครองความมืด
ของจักรวาลนี้กับกองกำลังทางจิตวิญญาณของ ความชั่วร้าย
ในดินแดนสวรรค์
ผมขอนำเรามาดูคำว่า คนชั่ว หรือความชั่ว กันสักนิด
ในภาษาฮีบรูคำว่า ความชั่วร้ายคือ RA
จะแปลเป็นภาษาอังกฤษคำว่าชั่วร้าย(Evil=อี'เวิล)
และมีความหมายว่า บางอย่างที่ทำให้เกิดอาการปวดความเศร้าโศกหรือความทุกข์
นอกจากนี้ยังสามารถแปลว่า "ไม่ดี", "เกลียด", "อึมครึม", "เลวทราม" "อิจฉา"
เป็นอันตราย ร้าย, มีภัย, มีเจตนาร้าย, อันตรายมาก, ถึงตาย, มักทำให้ตายได้.
และที่สำคัญที่สุดคือ "หายนะ" ขึ้นอยู่กับบริบท
มีรากมาจาก การทำลาย
ความคิดของเราจึงเป็นสนามรบ และเป็นป้อมให้ซาตาน
ตั้งป้อมปราการอยู่เสมอ แต่ซาตานจะตั้งป้อมไม่ได้เลยถ้ามันไม่มีที่ว่าง
ซาตานที่เป็นความชั่ว มักจู่โจมเราด้วย เล่ห์กล
ใส่ความคิด จับผิด, ขี้ระแวง,ความสงสัย,ความกลัว ,ความแปลกใจ
เหตุและผล และทฤษฎีต่างๆ ตามการวิเคราะห์
ของเนื้อหนัง เพื่อให้เกิดการแตกแยก
ใน อฟ. 4:27 อย่าให้โอกาสแก่มาร
คือเราต้องไม่ให้มีพื้นที่สำหรับมารซาตาน
พี่น้องครับ ซาตานมัก ปั่นหัวผู้เชื่อ ในความคามคิด
ให้ต่อสู้กัน ให้ทำร้ายกันและกัน ไม่ว่าจะมุมใดมุมหนึ่ง
เราต้องไม่หลงกล ซาตาน
เมื่อเตรียมเทศนา ครั้งหนึ่งผมได้หยิบ มานา เฝ้าเดี่ยวเล่มเก่า
มาอ่านเล่นๆ เพราะมึนจนไม่รู้จะเตรียมเทศนาเรื่องอะไร
เพราะมีแต่เรื่องวิชาการทั้งนั้น ผมเจอเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ และแตะใจผมมาก
ครูโรงเรียนพระคริสตธรรมได้ให้นักเรียนทำข้อสอบ
โดยให้เวลาทำประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยให้เขียนเรื่อง พระวิญญาณบริสุทธิ์ และ เรื่อง มารซาตาน
โดยแบ่งเป็นครึ่งชั่วโมง 30 นาทีแรกเขียนเรื่อง “พระวิญญาณบริสุทธิ์”
แต่นักเรียนคนนี้ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ
ในการเขียนแต่เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์
เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีจะหมดเวลาสอบ
นักเรียนคนนั้นเขียนที่ ท้ายกระดาษว่า
“ผมไม่มีที่ว่างให้มารซาตาน”
หนทางเดียวที่เราจะต่อสู้และมีชัยชนะต่อมารได้
ถ้าเราเติมเต็มตัวเราด้วยพระวจนะของพระเจ้า (โทราห์)
อธิษฐานและยอมจำนนต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์
เราก็จะไม่มีที่ว่างให้ มารซาตาน
ที่ หรือพื้นที่ หมายความว่า เราจะไม่ปล่อยให้มีที่ว่างเปล่า
หรือไม่มีเจ้าของในส่วนใดๆของ ของชีวิตเรา
โดยปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
2คร. 10:4 (เพราะว่าศาสตราวุธแห่งการสงครามของเราไม่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง
แต่มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้าที่จะทลายป้อมอันแข็งแกร่งลงได้)
2คร. 10:5 คือทำลายความคิด และทิฐิมานะทุกประการ
ที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการ
ให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงเชื่อฟังพระคริสต์
ป้อม คือ ความคิดโดยวิถีของซาตานที่ก่อตัวขึ้น
ในด้านใดด้านหนึ่ง และถูกพันธนาการ ในรูปแบบความคิดมุมใดมุมหนึ่ง
พระวจนะตอนนี้ หมายถึง เพราะว่าอาวุธที่ใช้ทำสงครามไม่ได้เป็นฝ่ายเนื้อหนัง หรือ ฝ่ายโลก
แต่มีฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ เพื่อไปรื้อถอนฐานที่มั่น
คือป้อมปราการของมารซาตาน (อาเมน)
ทำลายความคิดที่ถูกคุมขังและเป็นเชลย เป็นทาส
เพื่อการเชื่อฟังพระยาห์เวห์ (อาเมน)
ในประโยตต่อมา บอกเราว่า ……
“ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย”
พี่น้องครับ ไม่มากก็น้อยที่หลายคนตีความพระวจนะตอนนี้ผิดๆ ว่า
เมื่อเขาตบก็แถมให้เขาตบอีกข้าง
จุด ประสงค์ของพระเยซูคือ พระองค์ต้องการสอนเราว่า
เราไม่ควรตบกลับ (ด่ากลับ) เมื่อใครมาด่าเรา นินทาเรา
ตรงข้ามเราควรจะอธิษฐานและอวยพรเขามากกว่าเสียอีก
ด่ามาอวยพรไป ว่ามาอวยพรไป
แช่งมาอวยพรไป นินทามา อวยพรไป
ลก. 6:28 จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเผื่อคนที่ทำร้ายท่าน
ทำร้ายแบบไหน ในภาษาเดิม ชี้ให้เห็นแคบลงมาว่า violence (ไว'อะเลินซฺ)
คือคนที่ใช้ความรุนแรง
ความรุนแรง, ความดุเดือด, การใช้กำลัง, ความพลการ, การทำลาย,
การล่วงละเมิด, การสบประมาท, การทำให้บาดเจ็บ
คำว่าอธิษฐานในภาษาฮีบรูนั้นมี 2 บริบท ใหญ่ๆ
- 1.prayer=bakashah=בקשה
หมายถึง การอธิษฐาน เพื่อขอ หรือขอร้อง ขอความกรุณา หรือความโปรดปรานวิงวอนต่อพระเจ้า
- 2.connecting=tefillah=תפלה
หมายถึง การอธิษฐาน หรือเชื่อมต่อกับพระเจ้า หรือ แนบตัวเองเข้ากับพระเจ้า
เป็นการอธิษฐานแบบอุทิศและลึกกว่า แบบแรก
รม. 12:14 จงอวยพรแก่คนที่เคี่ยวเข็ญท่าน จงอวยพร อย่าแช่งด่าเลย
ไม่ใช่ “ตาแทนตา และฟันแทนฟัน”
มนุษย์มัก ตาแทนตา ฟันแทนฟัน
แก้แค้น เอาคืน ตอบโต้ ไม่ว่าจะคำพูดและการกระทำ
(บางครั้งละครก็สอนเรา ให้ประพฤติค้านพระวจนะโดยไม่รู้ตัว)
มธ. 5:38 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน ’
ในข้อ 39 บอกว่า อย่าเลย เป็นสำนวนว่าอย่าตอบโต้
พระเจ้าไม่ต้องการให้เรา ทำการร้ายตอบแทนการร้าย
มีพระวจนะหลายตอนได้พูดถึงสิ่งนี้
1ปต. 3:9 อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า
แต่ตรงกันข้าม จงอวยพร เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านทำเช่นนั้น
เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพร
หมายถึง ไม่ต้อง “แค้นนี้ต้องชำระ” คือไม่ชำระความชั่วร้ายด้วยความชั่วร้าย
อย่าด่า บางฉบับใช้คำว่าอย่าตำหนิ ตอบแทนการตำหนิ
หรือการระบายความคับแค้นใจ ตอบแทนความคับแค้นใจ
ผมขอประยุกต์ด้วยว่า
อย่านินทาตอบแทนการนินทา
อย่าเหน็บแนมตอบแทนการเหน็บแนม
อย่าเสียดสีตอบแทนการเสียดสี
อย่ากล่าวโทษตอบแทนการกล่าวโทษ
การตอบแทนพระคัมภีร์ชี้ว่าไม่ต่างจากความโง่
สภษ. 26:4 อย่าตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา เกรงว่าเจ้าจะเป็นเหมือนเขา
สภษ. 26:5 จงตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา เกรงว่าเขาจะคิดว่าตัวเองมีปัญญา
พี่น้องครับ คนชั่วยังกลับใจได้ แต่ความชั่วยังไงก็คือความชั่ว
คือซาตานที่คอยหลอกมนุษย์ทั้งโลกให้หลง และพินาศตามมัน
ใครก็ตามที่ตกเป็นทาสมันก็ไม่ต่างจากคนโง่
ข้อ 4 ไม่มีปัญหาเราเข้าใจได้ดีว่า อย่าตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา
เพราะเราก็จะโง่ไม่ต่างจากเขา
แต่ข้อ 5 จงตอบคนโง่ ตามความโง่ของเขา ??
เกรงว่าเขาจะคิดว่าตัวเองมีปัญญา
พระคัมภีร์ข้อนี้ทำให้เราเข้าใจผิดว่า เราต้องตอบคนโง่ คำพูดโง่ๆ
เพื่อให้เรื่องจบๆ เพื่อให้เขารู้สึกดี และหยุดพูดและเรื่องจบๆไป
พระเยซูไม่เคยตอบฟาริสีที่ใช้ความโง่จับผิดพระองค์
พวกเขานิ่งในสติปัญญาของพระองค์แทบทุกครั้ง
แท้จริงพระวจนะหมายถึงว่า…
ข้อ 4 ไม่โต้ตอบคนโง่ (fool) ที่หมายถึง (คนไม่มีหัวคิด , คนทึ่ม,คนเขลา, คนเซ่อ, คนเบาปัญญา ยอมรับหรือเห็นด้วย ตาม ความเขลาของเขา (folly)
หมายถึง การกระทำที่โง่เง่า, ความโง่, การกระทำที่โง่ ๆ ,
เรื่องที่สิ้นเปลืองมากแต่ไร้ประโยชน์ เพราะเกรงว่าคุณจะเป็นเหมือนเขา
ข้อ 5 จงโต้ตอบคนโง่ตาม (Chokhmah= Wisdom= สติปัญญา) ภูมิปัญญาของคุณ เกรงว่าเขาจะ คิดว่าตัวเองฉลาดในความคิด (conceit) ของเขาเอง
หมายถึง (ความคิดของเขาเองที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า
อาจจะเป็นความคิดที่ เป็น ความหยิ่ง, ความทะนง, ความถือดี,
ความคิด, จินตนาการ, ความเพ้อฝัน)
จงตอบด้วยสติปัญญาจากพระเจ้าไม่ใช่ของตัวเอง
อสย. 11:2 และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะทรงอยู่บนท่าน
คือพระวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ
พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ
พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระยาห์เวห์
กจ. 6:10 คนเหล่านั้นไม่สามารถต่อสู้ถ้อยคำที่ท่านกล่าว
โดยสติปัญญาและพระวิญญาณบริสุทธิ์
อฟ. 4:31 จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ
และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี
กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง อยู่ห่างไกลจากท่านเถิด
(บางฉบับ บอกว่าการพูดจาดูหมิ่น)
1ธส. 5:15 อย่าให้คนใดทำชั่วตอบแทนการชั่ว
แต่จงหาทางทำดีเสมอต่อพวกท่านเอง และต่อคนทั่วไปด้วย
รม. 12:17 อย่าทำชั่วตอบแทนชั่วแก่ใครเลย แต่จงมุ่งทำสิ่งที่ใครๆ ก็เห็นว่าดี
อย่าชำระ (ชำระ= ชำระแค้น) ความชั่วร้าย แต่จงทำในสิ่งที่
ตรงไปตรงมา และถูกต้องในสายตาของทุกคน
หรือ พยายามที่จะทำสิ่งที่ทุกคนนับถือเป็นสิ่งที่ดี
คำว่าตรงไปตรงมาคือการ ใช้ความจริง และความจริง
มันคือ ทางแห่งความจริง
ในภาษาฮีบรูคือ อีเม็ท และ อีเม็ท คือ โทราห์
โทราห์คือพระวจนะคำสอน ถ้อยคำของพระเจ้า
emet (אמת) ความจริง eh-met ตัวอักษรในภาษาฮีบรู
ตัวแรกคือ อเลฟ และ ทัฟ คือตัวสุดท้าย
เป็นความหมายของ พระวจนะที่บอกว่า
พระองค์ทรงเป็นปฐมและอวสาน เบื้องต้นและเบื้องปลาย
ในภาษาเดิมจะใช้คำว่า (Aleph/Tav)
พระเยซู พระองค์ทรงเป็น (Aleph/Tav) ด้วย
א Alef อาเล็ฟ เป็นตัวอักษรตัวแรกของอักษรฮีบรูและ
เป็นสัญญลักษณ์ของ พระเจ้า ความเป็นหนึ่ง หนึ่งเดียว ความยิ่งใหญ่
ת Tav ทัฟว์ เป็นสัญญาลักษณ์หมายถึง ความจริง (Emet) และความสมบูรณ์แบบ
(ทางแห่งความจริง)
(ทางพระเยซู)
(เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต
ทางเดียวที่ไปถึงพระบิดา)
ใน สภษ. 20:22 อย่าพูดว่า “ข้าจะแก้แค้นความชั่ว”
จงรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงช่วยเจ้า
"บางฉบับ ให้ความหมายว่า จงต่อต้านซาตาน
(คือความชั่วร้าย) แล้วมันจะหนีออกมาจากคุณ"
เราเองเลือกได้ที่จะปฏิเสธ ความชั่วร้ายในทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะในความคิดหรือที่ไหน ?
เราสามารถแยกแยะได้ว่าเราจะเลือกปฏิบัติวิธีของซาตาน
หรือวิถีทางของพระเยซู
โทราห์ที่บันทึกในหัวใจของเรา พระวิญญาณจะนำเรา
เมื่อเราถ่อมใจและเลือกที่จะเชื่อฟัง
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คารมต่อคารม ปากต่อปาก
พระคัมภีร์พูดถึงเรื่องของปากว่า
ยก. 3:10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน
พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น
พระวจนะบอกว่าจงต่อสู้กับมารซาตาน (ปฏิเสธซาตาน)
แต่ไม่ได้ให้เราต่อสู้กับมนุษย์ แบบฟันต่อฟัน
ซาตานมักชักใยอยู่เบื้องหลังของมนุษย์ ต่อมนุษย์ให้ต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน
เมื่อผู้เชื่อหลงกลต่อสู้กัน เท่ากับชุมชน (คริสตจักร) ได้ต่อสู้กันเอง
ดังนั้น “อย่าไม่สบายใจเพราะผู้กระทำความชั่วร้าย
" หรือ "ไม่ต้องเดือดร้อนจากคนชั่ว” เราต้องย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่า
“ควรจะอธิษฐานอวยพรเขา”เพราะนี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้า พระบิดา
ในพระองค์ โดยพระองค์ ยาชูวาห์ ฮามาชียาห์ เราจะมีชัยชนะ
ร่วมกันกับพระองค์ เพราะพระองค์มีชัยชนะเหนือการทดลอง
ของซาตานแล้วในทุกรุปแบบ ... เราจะมีชัยชนะ
ในสำนวน อารเมค บอกว่า ถ้าผู้ใดตบหรือทุบที่แก้มขวาของท่าน
มัทธิว 5:39 จึงหมายถึง ไม่เริ่มต้นการทะเลาะ
หรือการต่อสู้กัน แต่จงถ่อมใจ อ่อนน้อม
2ทธ. 2:21 ถ้าใครชำระตัวเองให้พ้นจากความชั่วเหล่านี้
เขาก็จะเป็นภาชนะพิเศษ ซึ่งชำระให้บริสุทธิ์แล้ว
เหมาะที่เจ้าของจะใช้เป็นประโยชน์ และพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง
1ปต. 2:1 เพราะฉะนั้น พวกท่านจงละทิ้งความชั่วทุกอย่าง
และการล่อลวงทุกรูปแบบ ความไม่จริงใจ ความอิจฉาริษยา และการใส่ร้ายทุกชนิด
1ปต. 3:11 ให้เขาละความชั่วและทำความดี ให้เขาใฝ่หาสันติสุขและดำเนินตาม
ศัตรูของเราแน่นอนคือ ซาตาน ความชั่ว
คำในภาษา กรีก ของคำว่า ซาตาน หมายถึง “ผู้กล่าวโทษ”
มันวนเวียนรอบๆ ดุจสิงคำราม และไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เราจึงต้องเตรียมพร้อม สู่สงครามอยู่เสมอ
พี่น้องครับอาวุธที่เราจะเอาชนะได้ คือการสรรเสริญนมัสการ และพระวจนะ
ถ้าเราไม่มียุทธภัณฑ์ของพระเจ้าอย่างแท้จริง เราก็อาจจะโดนจู่โจมได้ทางใดทางหนึ่ง
อฟ. 6:13 เพราะเหตุนี้จงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชั่วร้ายนั้น และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยู่ได้
อฟ. 6:14 เพราะฉะนั้นจงยืนหยัดไว้ เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก
อฟ. 6:15 และเอาความพรั่งพร้อมในการประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า
อฟ. 6:16 และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นี้พวกท่านจะสามารถดับลูกศรเพลิงทั้งหมดของมารร้าย
อฟ. 6:17 จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า
1. ความจริงคาดเอว
งานของซาตาน คือ "การหลอกลวง"
ซาตานคือพ่อของการมุสา
เราจึงต้องมีความจริง
จากที่แบ่งปันไปข้างต้น ความจริง คือ อีเม็ท
อีเม็ท คือ โทราห์
โทราห์คือพระวจนะคำสอน ถ้อยคำของพระเจ้า
emet (אמת) ความจริง eh-met ตัวอักษรในภาษาฮีบรู
ตัวแรกคือ อเลฟ และ ทัฟ คือตัวสุดท้าย
เป็นความหมายของ พระวจนะที่บอกว่า
พระองค์ทรงเป็นปฐมและอวสาน เบื้องต้นและเบื้องปลาย
2. ทับทรวงแห่งความชอบธรรม
เครื่องป้องกันอกนี้ จะปกป้องจิตใจของเราด้วยความชอบธรรมของพระเจ้า
ซาตานจะมาเล่นงานที่สนามความคิดของเราเสมอ แต่ความชอบธรรมของพระเจ้าจะป้องกันเราไว้
3. รองเท้าแห่งข่าวประเสริฐ
4. โล่แห่งความเชื่อ
เราเคยเรียนรู้ใช่ไหมว่า โล่ของทหาร ใหญ่แบบป้องกันได้ทั้งตัว โล่แห่งความเชื่อ
ความเชื่อในพระวจนะ ในแก่นสารของโทราห์
ความเชื่อ หรือ อีมูนาห์ คือความมั่นใจและการะทำตาม พระวจนะเท่านั้น
เราต้องใส่พระวจนะของพระเจ้า ให้เต็มเพื่อไม่มีช่องว่างให้ซาตาน (อาเมน)
5. หมวกแห่งความรอด
เมื่อมารพยายามโจมตีเรา พี่น้องมั่นใจไหมว่าเรามีหมวกเหล็ก
ที่ป้องกันหัวของเรา ป้องกันการโจมตีความคิดของเรา
6. ดาบแห่งพระวิญญาณ
เราไม่เพียงเก็บพระวจนะ แต่พระวจนะโดยการทรงนำของพระวิญญาณ
โทราห์ที่จารึกในเรา คือ ดาบอันคมกริบ ที่เราจะต่อสู้กับซาตาน
และความชั่ว สิ่งนั้นคือถ้อยคำของพระยาห์เวห์
ไม่ได้หมายความว่า ความคิดชั่ว จะมีวิญญาณชั่วสิงอยู่
แต่หลายครั้งความคิดที่ชั่วร้ายมักอยู่เบื้องหลังความคิดที่ชั่วร้าย
การอธิษฐาน ด้วยความจริงแห่งพระวจนะคืออาวุธชั้นยอด ถ้าสมัยนี้ไม่ต่างกับ ขีปนาวุธ นักอธิษฐานใช้สิทธิอำนาจในการยิงขีปนาวุธ ทำลายป้อมปราการของซาตานได้ (อาเมน)
สิ่งที่ป้องกันเราจาก ซาตานดีที่สุดคือ
การรู้จักความจริงของพระเจ้า
ชาโลม
ขอพระเจ้าอวยพระพร
Ktm.Shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น