วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครัสตจักรแบบอย่าง (เอเฟซัส)

ครัสตจักรแบบอย่าง (เอเฟซัส)


คริสตจักรนั้นคือตัวแทนของพระเจ้า เป็นสิ่งที่พระเจ้าสถาปนาตั้งไว้
เพื่อวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ ดำเนินแบบอย่างตามพระเจ้า คริสตจักร
เองต้องใส่ใจต่อหัวใจของพระบิดา นั่นคือลักษณะ และบุคลิกที่พระ
องค์มีและใส่ใจ
ครสิตจักรที่ใช้การได้นั้นต้องมีลักษณะต่อไปนี้ เพื่อคริสตจักรเองจะมี
ประสิทธิภาพ ถ้าคริสตจักรเองไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้หลุดจากเป้า
หมายที่มี

1.ความรัก
เอเฟซัส 3:17-19
"เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจของท่านทางความเชื่อ  
เพื่อว่าเมื่อท่านได้วางรากลงมั่นคงในความรักแล้ว
ท่านก็จะได้มีความสามารถหยั่งรู้พร้อมกับธรรมิกชนทั้งหมด  
ถึงความกว้าง   ความยาว   ความสูง   ความลึก
คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้  
เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม"

หลายคริสตจักรในปัจจุบันนั้นสิ่งที่ขาดหายไปคือความรักต่อ
กันและกันที่แท้จริง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคริสตจักรนั้นขาดความ
รัก ก็คือดูที่ภายใน ภายนอกแม้เราจะทำพันธกิจของพระเจ้าหลาย
อย่างด้วยความรัก แต่ภายในนั้นเรายังขาดความรักซึ่งกันแะกันภาย
ใน ความรักนั้นเป็นความบริบูรณ์ของพระเจ้า ความรักนี้ สูง ลึก
กว้าง ยาว เกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์ที่จะเข้าใจได้ เป็นความ
รักของพระเจ้าที่มากมายมหาศาล ที่ทรงประทานพระบุตรองค์
เดียวของพระองค์ คริสตจักรจำเป็นต้องหยั่งรากให้ลึกในความรักนนี้
เพื่อจะแสดงออกถึงความรักของพระคริสต์
คริสตจักรต้องมีความเชื่อฟัง คริสตจักรได้รับความรอดก็ผ่านการ
เชื่อฟัง
"ถ้าท่านประพฤติตามบัญญัติของเรา ท่านก็ติดสนิทอยู่กับความรักของเรา
เหมือนอย่างที่เราประพฤติตามบัญญัติของพระบิดา และติดสนิทอยู่กับ
ความรักของพระองค์"
ถ้าคริสตจักรภายในมีความรักอย่างแท้จริง เราก็กำลังสะท้อนความบริบูรณ์
และความรักของพระเจ้าและพระเยซูคริสต์
เป็นความรักเช่นเดียวกับที่พระเจ้าสร้างเรา เป็นความรักเดียวกับที่ให้บุตรองค์
เดียวเป็นผู้ไถ่เรา เป็นความรักเดียวกับที่ไม่ว่าเราจะบาปช้าแค่ไหนก็อภัยให้เรา
เป็นความรักเดียวกับที่เชื่อในส่วนดีของเรา
เป็นความรักที่อดทนนาน เมื่อคริสตจักรมีความรักเช่นนี้สะท้อนความรักนี้
ฤทธานุภาพของพระเจ้าจะถูกปดปล่อยออกมา
"ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียก
ที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ
จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก"

2.ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว

เอเฟซัส 4:1-6, 12
"เหตุฉะนั้นข้าพเจ้า   ผู้ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า  
ขอวิงวอนท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับพันธกิจอันเนื่องจากการทรงเรียก
ท่านนั้น คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง   และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน  
และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก จงเพียรพยายามให้คงความ
เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน   ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพ
เป็นพันธนะ มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว   เหมือนมีความ
หวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน 5มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว  
ความเชื่อเดียว   บัพติศมาเดียว 6พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคน
ทั้งปวงผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง   และทั่วคนทั้งปวง   และในคนทั้งปวง "

"เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้   เพื่อเสริมสร้างพระกายของ
พระคริสต์ให้จำเริญขึ้น"

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวต้องมีภายในคริสตจักรของพระคริสต์ หลายครั้ง
คริสตจักรพยายามเช่นกันที่จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว กุญแจที่สำคัญอีกอย่าง
คือการได้รับใช้และทำงานร่วมกัน
เมื่อคนมองเข้ามาคริสตจักรความมีเอกลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
กัน แบบอย่างของความเป็นหนึ่งเดียวกันแรกเริ่ม นั่นคือ พระจ้า พระบุตร
และพระวิญญษณบริสุทธิ์ คือ "ตรีเอกกานุภาพ"
มารเองชอบคนที่ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พลังของคริสตจักรจะเกิดขึ้น
เมื่อคริสจักรเลือกที่จะ เชื่อฟัง คริสตจักรจักที่รวมตัวกันและเป็นน้ำหนึ่ง
ใจเดียวกันนั้น จะเข้มแข็งและไม่มีอะไรมาทำลายได้


3.ความถ่อมใจ
เอเฟซัส 2:1-9
"ท่านตายแล้วโดยการละเมิด  และการบาป ครั้งเมื่อก่อนท่านเคยประพฤติใน
การบาปนั้นตามวิถีของโลก   ตามเจ้าแห่งย่านอากาศ   คือวิญญาณที่ครอบ
ครองอยู่ในคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อฟัง 3เมื่อก่อนเราทั้งปวงเคยประพฤติเป็นพรรค
พวกกับคนเหล่านั้น   ที่ประพฤติตามตัณหาของเนื้อหนัง   คือกระทำตามความ
ปรารถนาของเนื้อหนังและความคิดในใจ   ตามสันดานเราจึงเป็นคนควรแก่
พระอาชญาเหมือนอย่างคนอื่น 4แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา   เพราะ
เหตุความรักอันใหญ่หลวง   ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น 5ถึงแม้ว่าเมื่อเราตายไป
แล้วในการบาป   พระองค์ยังทรงกระทำให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์  
(ซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณ) และพระองค์ทรงให้เราเป็นขึ้นมากับพระองค์  
และทรงโปรดให้เรานั่งในสวรรคสถานกับพระเยซูคริสต์ เพื่อว่าในยุคต่อๆไป  
พระองค์จะได้ทรงสำแดงพระคุณของพระองค์อันอุดมเหลือล้น   ในการซึ่งพระองค์
ได้ทรงเมตตาเราในพระเยซูคริสต์ ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณ
เพราะความเชื่อ   และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง   แต่พระเจ้าทรงประทานให้
ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้   เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้"

การมีใจถ่อมจะทำให้เราไม่มองตำแหน่งผู้นำเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุด
บางครั้งเราต้องพบเจอกับความถ่อมจอมปลอม ดูเหมือนจะถ่อม
เรามีดีอะไรกว่าคนอื่นพอที่จะไปโอ้อวด การที่เรารอดนั้นก็รอดได้โดยพระคุณ
โดยความเชื่อของเรา ไม่ใช่โดยการที่เรารอดได้ด้วยตัวเอง พระคัมภีร์จึงบอกว่า
เพื่อไม่ให้ใครที่จะอวดได้

4.ความดี
เอเฟซัส 2:10, 4:11-12
"เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์   ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้
ประกอบการดี   ซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรากระทำ"

"ของประทานของพระองค์   ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต   บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ  
บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ   บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียม
ธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้   เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น"

การสร้างคริสตจักรให้มีคุณลักษณะที่ดีนั้น ไม่ใช้แค่ตัวอาคาร กลุ่มคนเท่านั้น
แต่รวมถึงร่างกายของผู้เชื่อ พระคัมภีร์เรียกคริสตจักรว่า "พระกายของพระคริสต์"
คริสตจักรคือสถานที่ที่เสริมสร้างประชากรของพระเจ้า เหมือนการเสริมสร้างร่างกาย
เส้นเอ็น อวัยวะต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นพละกำลัง

การทำดีเป็นสิ่งที่ขาดและแยกไม่ได้จากข่าวประเสริฐ ความดีจะเป็นเครื่องมือที่พระเจ้า
จะใช้ผ่านทางเรา คือคริสตจักร เพื่อทุกสรรพสิ่งจะกลับคืนดีกับพระองค์

ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น