วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โกหก และ ซื่อสัตย์


โกหก และ ซื่อสัตย์

ซื่อสัตย์ และโกหก
หลายคนอาจให้ความหมายของคำว่า ซื่อสัตย์ ได้หลายอย่าง
เช่น ตรงและจริง ไม่คดโกง ไม่หลอกลวง  ไม่นอกใจ

ครั้งหนึ่งในหลายครั้ง ผมไปทานอาหารที่สวนอาหารที่ห้าง
สรรพสินค้า และเมื่อต้องกลับไปแลกคูปองที่เหลือ เมื่อพนัก
งานทอนเงินเกินมา 10 บาทผมต้องเอาไปคืน แต่ต้องต่อคิวเกือบ
 10 คิว เพื่อรอคืนเงิน 10 บาทที่ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของ
เราเลย เมื่อผมเองต้องขึ้นรถประจำทางและอีกหลายวันต่อมา
เมื่อเจอรถคันเดิมและคืนเงินที่ทอนเกินมาเพียง 1 บาท ไม่ว่าจะ
มากหรือจะน้อย สิ่งที่ผมสังเกตุคือ ทุกคนต้องตกใจและแปลก
ประหลาดใจกับสิ่งที่เราทำกัน

นั่นก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นโชค และเป็นลาภ
โอกาสที่ไม่ใช่ความผิดของเค้าเพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้อง
สร้างภาพซะขนาดนั้นเลย ซาตานเองกำลังโกหกและหลอกลวงเรา

แน่นอนความซื่อสัตย์บางเรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้เงิน
อย่างมาก และสมมุติคุณเก็บเงินได้มากมาย คุณจะตัดสินใจเช่นไร
ในสภาวะและสถานการณ์เช่นนั้น แต่พระเจ้าทรงพอพระทัย เมื่อ
เราพยายามที่จะรักษาความซื่อสัตย์ไว้

ครั้งหนึ่งในตอนที่ยังเป็นเด็กสมัยเรียนชั้นประถม ผมมีประสบการณ์
ความซื่อสัตย์คือ เมื่อผมได้พยายามหาเหตุผลอันสมควรเพื่อขอเงิน
ในกระเป๋าสตางค์ของแม่ไป แต่ไม่ได้เอาเงินไปใช้ในสิ่งที่พูดออกไป
แต่เอาไปทำในสิ่งที่ไม่สมควร นั่นคือการไม่ซื่อสัตย์

การรักษาความซื่อสัตย์เราต้องพึ่งพระเจ้า ไม่ใช่คำสอนเดิมๆ
หรือศาสนาเดิม บัญญัติคำสอนเดิมๆ แต่เราต้องระลึกว่าพระเจ้าเป็น
พระเจ้าแห่งความจริง
การซื่อสัตย์ยังรวมถึงการโกหกด้วย แม้เพียงเล็กน้อยและเราคิดว่าไม่
ใช่เรื่องใหญ่ และเพื่อความราบรื่น เรายอมเพื่อจะโกหก
ผมจะไม่ยกตัวอย่างอะไรครับเพราะ เราย่อมรู้ดีว่าสิ่งไหนคือการโกหก

1.พระเจ้าทรงเป็นความจริง
พระเจ้าทรงเป็นความจริงตลอดกาล ไม่มีเวลาไหนเลยที่พระเจ้า
พลาดจากการเป็นความจริง ทุกสิ่งที่พระองค์กระทำก็สมบูรณ์

 พระศิลา พระราชกิจ ของ พระองค์ ก็ สมบูรณ์พระมรรคา
ทั้งหลาย ของ พระองค์ ก็ ยุติธรรม พระเจ้า ที่ เที่ยงธรรมและ    
ปราศจาก ความ ผิด พระองค์ ทรง ยุติธรรม และ เที่ยงตรง
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:4

2.พระเจ้าไม่โกหก
พระองค์เป็นพระเจ้าที่เป็นความจริงและไม่โกหก
พระสัญญาที่พระองค์ได้ลั่นวาจานั้น จะสำเร็จทุกอย่าง

19พระเจ้ามิใช่มนุษย์จึงมิได้มุสา  
  และมิได้เป็นบุตรของมนุษย์จึงไม่ต้องกลับใจ  
  ที่พระองค์ตรัสไปแล้ว  พระองค์ก็จะมิทรงกระ
  ทำตามหรือ   ที่พระองค์ทรงลั่นวาจาแล้ว  
  จะไม่ทรงกระทำให้ สำเร็จหรือ
กันดารวิถี 23:19

เพื่อว่าโดยสองประการที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้   (พระเจ้าจะไม่ตรัสมุสา)  
เราผู้ที่ได้หนีไปยึดความหวังซึ่งมีอยู่ตรงหน้า   เราจึงจะได้รับการชูใจ
อย่างมากมาย (หรือ หนีภัย จะได้รับการชูใจอย่างมากมาย ในการที่จะยึด
ความหวังซึ่งมีอยู่ตรงหน้าเรานั้น)
ฮีบรู 6:18

3.พระเจ้าเกลียดการโกหก
 16มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด  
  มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์  
 17ตา  ยโส  ลิ้นมุสา  
  และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก  
 18จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย  
  เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว  
 19พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา  
  และคนผู้หว่านความแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง
สุภาษิต 6:16-19

เราต้องตระหนักว่าเมื่อซาตานไม่ซื่อสัตย์กับพระเจ้า
มันจึงลงมาเพื่อล่อลวงมนุษย์ด้วยคำโกหกต่างๆนานา
นั่นคือต้นเหตุและจุดเริ่มต้นของการโกหกเพื่อนำไปถึง
การที่มนุษย์กบฏต่อพระเจ้า และไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
พระเยซูเรียกมันว่า พ่อของคำโกหก

ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร   และท่านใคร่จะ
ทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน   มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้ง
แต่ปฐมกาล   และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ   เพราะมันไม่มีสัจจะ  
เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง   เพราะมัน
เป็นผู้มุสาและเป็นพ่อของการมุสา
ยอห์น 8:44

ขอบคุณพระเจ้าที่ตอนนี้เรายังมีพระองค์ ขอบคุณที่พระเจ้า
ประทานหนทางและแนวทางให้กับเราในการดำเนินชีวิต
ถ้าเราจะเป็นคนชอบธรรมที่สมบูรณ์เราต้องเกลียดความเท็จ

คนชอบธรรมเกลียดความเท็จ  
แต่คนชั่วร้ายประพฤติน่าอับอาย
และน่าอดสู
สุภาษิต 13:5

เราเลือกที่จะเป็นคนชอบธรรม หรือเลือกที่จะเป็นคนที่
ประพฤติในทางตรงกันข้าม การตัดสินใจที่ถูกต้องจะนำ
เราไปสู่หนทางที่ดีๆหนทางดีๆ แต่ถ้าเลือกในสิ่งตรงข้าม
ก็จะนำไปสู่หนทางที่ตรงข้าม การตัดสินใจที่ถูกต้องสะท้อน
ความซื่อสัตย์ ของเราเอง การซื่อสัตย์จะนำเราไปสู่
ความปลอดภัย ความไว้ใจ ความมั่นคงในหนทางที่ปลอดภัย
อย่าพูดมุสาต่อกัน   เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่า  
กับการปฏิบัติของมนุษย์นั้นเสียแล้ว   
ในโคโลสี 3:9  เราต้องปลดนิสัยเก่าๆของเราทิ้งไปนิสัยที่พระเจ้า
เกลียดไม่พใจ และเราได้สวมวิสัยใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ตาม
พระฉายาของพระเจ้าที่เป็นพระผู้สร้าง


พระคัมภีร์ทบทวน
 17บุคคลผู้พูดความจริงให้หลักฐานที่ซื่อตรง  
  แต่พยานเท็จกล่าวคำหลอกลวง  
 18มีบางคนที่คำพูดพล่อยๆของเขาเหมือนดาบแทง  
  แต่ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้  
 19ริมฝีปากที่พูดจริงทนอยู่ได้เป็นนิตย์  
  แต่ลิ้นที่พูดมุสาอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวเดียว  
 20ความหลอกลวงอยู่ในใจของบรรดาผู้คิดแผนการชั่วร้าย  
  แต่บรรดาผู้กะแผนงานที่ดี
มีความชื่นบาน  
 21ไม่มีความชั่วตกอยู่กับคนชอบธรรม  
  แต่คนชั่วร้ายเต็มด้วยความลำบาก  
 22ริมฝีปากที่พูดมุสาเป็นที่น่าเกลียดน่าชังแก่พระเจ้า  
  แต่บรรดาผู้ที่ประพฤติความซื่อสัตย์เป็นที่ปีติยินดีแด่พระองค์ 
สุภาษิต 12:17-22

ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น