วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553
เชื่อฟัง และ เชื่อฟัง
การเชื่อฟัง และ เชื่อฟัง
บทความนี้เป็นบทความแรกที่ผมไม่ได้ค้นคว้าศึกษาอะไรมากไป
อ่านแล้วบางท่านอาจจะไม่เห็นด้วย หรืออาจจะสับสนบางสิ่งที่ผมยกมา
เพราะผมเขียนจากสิ่งที่พระเจ้าให้ในเวลานั้นออกมา บวกกับความรู้สึกภายในด้วย
ระหว่างเขียนผมมีอาการเจ็บที่หัวใจอย่างมาก ถ้อยคำแห่งความรอบรู้ตามมา
คือนอกจากความเป็นหนึ่งเดียวในกายพระคริสต์แล้ว ก็คือปัญหาของสมาชิกกับ
ผู้นำซึ่งมีทั้งกลางแจ้ง และในที่ลับ ซึ่งพระเจ้าเสียพระทัยกับสิ่งนี้มาก
ผมหมายถึงคริสตจักรทั่วประเทศไทย ปัญหาผู้นำและสมาชิกด้วย
วันนี้ผมมีภาระใจบางสิ่ง พระตรัสในใจในเรื่องของการเชื่อฟัง ผมไม่ได้มาเขียนบอกให้เราเชื่อฟังผู้นำ หรือให้
ผู้นำได้รับการยอมรับเพื่อพวกเราจะได้เดินยืด และทำอะไรก็ได้แบบ เผด็จการในคริสตจักร
เจตนาผมไม่ได้หมายถึงผู้นำคริสเตียนเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงในคริสตจักรเท่านั้น แต่หมายถึงโลกด้วย และไม่
ได้หมายความให้เราสนับสนุนคนที่ทำผิด แต่หน้าที่ของเราคืออธิฐาน กับพระเจ้า ถ้าอำนาจนั้นผิด พระเจ้าจะ
เป็นผู้จัดการด้วยพระองค์เอง ผู้ใดหว่านสิ่งใด ก็ย่อมได้สิ่งนั้น
ผมมิได้มีเจตนาในการโยงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ (เมษายน53)ได้มาถึง
วิกฤติของประเทศไทยโดยกลุ่มคนบางกลุ่ม และผู้นำบริหารประเทศ (รัฐบาล)โดยมุ่งหวังจะโค่นอำนาจของ
อีกฝ่าย แน่นอนไม่มีใครถูก 100% และไม่มีใครผิด 100% เราไม่จำเป็นต้องร่วมทำผิด หรือทำในสิ่ง
ไม่ถูกต้องกับอำนาจนั้นๆ
เราอาจคิดว่ารัฐบาลทุกสมัยขี้โกง และเราก็ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีอีกเลย
เราอาจคิดว่าผู้นำคริสตจักรทำตัวไม่เหมาะสม และไม่ควรจะเป็นผู้นำอีกต่อไป แม้ในความคิดนั่นก็คือการต่อ
ต้าน
"ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเยที่มิได้มาจากพระเจ้า
และผู้ที่ทรงอำนาจนั้นพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ
ท่านจงให้แก่ทุกคนตามที่เขาตควรได้รับ จงเสียส่วยสาอากรตามที่ควรเสียภาษีตามที่ควร
ความยำเกรงควรแก่ผู้ใดจงยำเกรงผู้นั้น จงให้เกียรติแก่ผู้ที่ควรจะได้รับ
"
โรม 13:1-2 ,7
ทำไมพระเจ้าถึงอยากให้เราเชื่อฟัง?
เราเชื่อว่าพระธรรมข้างต้นมาจากพระเจ้า พระเจ้าบอกเราว่า
"ถ้าผู้ใดรักเราเขาจะเชื่อฟังคำสอนของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดากับเราจะมาหาเขาและอยู่กับ
เขา"
ยอห์น 14:23
การเชื่อฟังเป็นการแสดงความรักของเราที่มีต่อพระเจ้า และผลของการเชื่อฟังและประพฤษติตามก็คือ
เราได้รับความรักของพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตต่อเราด้วย
"หากท่านเอาใจใส่บทบัญญัติเหล่านี้และใส่ใจที่จะปฏิบัติตาม พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงรักษาพันธ
สัญญาแห่งความรักกับท่านตามที่ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน
พระองค์จะทรงรักและอวยพรท่านและทำให้ท่านทวีจำนวนขึ้น พระองค์จะทรงอวยพรลูกหลานของท่านและ
พืชผลจากแผ่นดินของท่านทั้งข้าวเหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมัน ลูกวัวและลูกแกะจากฝูงสัตว์ของท่าน ในดินแดน
ซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะประทานแก่ท่าน
ท่านจะได้รับพระพรเหนือกว่าชนชาติอื่นใดจะไม่มีชายหญิงคนใดในพวกท่านที่เป็นหมัน และฝูสัตว์ของท่านก็
เช่นกัน
องค์พระผู้เป็นเจ้า จะทรงปกป้องท่านจากความเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งสิ้น และพระองค์จะไม่ทรงทรมานท่านด้วยโรค
ร้ายใดๆ เหมือนที่ท่านได้เห็นในอียิปต์ แต่จะให้โรคร้ายนั้นเกิดแก่คนทั้งปวงที่เกลียดชังท่าน"
เฉลยธรรมบัญญัติ 7:12-15
"แล้วทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ร้องเรียกอับราฮัมจากฟ้าสวรรค์เป็นครั้งที่สอง
และกล่าวว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า เราปฏิญาณโดยตัวของเราเองว่า ด้วยเหตุที่เจ้าทำเช่นนี้ และไม่
ได้หวงแม้กระทั่งลูกชายของเจ้าคือเจ้านายเพียงคนเดียวของเจ้า
เราจะอวยพรเจ้าแน่นอนและจะทำให้ลูกหลานของเจ้ามีจำนวนมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าเหมือนเม็ด
ทรายที่ชายทะเล ลูกหลานของเจ้าจะครอบครองเมืองต่างๆ ของเหล่าศัตรูของพวกเขา
และทุกประชาชาติทั่วโลกจะได้รับพรผ่านทางเชื้อสาย ของเจ้า เพราะเจ้าได้เชื่อฟังเรา"
ปฐมกาล 22:15-18
บางครั้งเราเจ็บกับผู้นำในคริสตจักร เราต้องสูญเสียสิ่งใดไป เราต้องรู้สึกเสียหน้า หรือมีความคิดที่ไม่ตรงกัน
อย่างแรง หรือรับในบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ ผมไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้ผิด
แต่มาตรฐานของโลกนี้ต่างกันกับของพระเจ้า
อับราฮัมเองไม่เสียดายลูกชายที่พระเจ้าขอเป็นเครื่องบูชา มาตรฐานโลกนี้ ความคิดโลกนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเอา
ลูกเป็นเครื่องบูชา แต่อับราฮัมเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าให้เราเชื่อฟัง
1.เชื่อฟังพระเจ้า
คือเชื่อฟังพระเจ้า
เชื่อฟังพระคริสต์
เชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวเรา
2.เชื่อฟังพระวจนะ พระคริสต์ธรรมคัมภีร์
3.เชื่อฟังผู้ที่พระเจ้าสถาปนาไว้
คือ เชื่อฟังผู้นำ
วันนี้ผมอยากแบ่งปันในข้อ 3 คือเชื่อฟังผู้นำ
"ทุกคนต้องยอมตนเชื่อฟังผู้มีอำนาจปกครอง เพราะไม่มีผู้ใดมีอำนาจเว้นแต่พระเจ้าได้ทรงสถาปนา ผู้มี
อำนาจต่างๆที่มีอยู่ล้วนได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้า
ฉะนั้นผู้ที่กบฏต่อผู้มีอำนาจก็กำลังกบฏต่อผู้ที่พระเจ้าได้ทรงสถาปนาและผู้ที่ทำเช่นนั้นจะนำโทษมาสู่ตัวเอง"
โรม 13:1-2
พระเจ้าย้ำในพระธรรมตอนนี้ให้เราเชื่อฟังผู้นำด้วย เพราะผู้นำคือผู้ที่พระเจ้าแต่งตั้ง เจิมตั้งไว้
ถ้าเราได้อ่านในพระคัมภีร์ เราก็จะเห็นพระเจ้าสร้างผู้นำในทุกๆยุคทุกสมัย และผู้นำแต่ละคนก็ล้วนไม่สมบูรณ์
แบบทั้งสิ้นแต่ทุกคนเชื่อฟังพระเจ้าโนอาห์ โมเสสเอง ดาวิดเองก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์ทั้งหมด
ในตอนนที่ดาวิดเต้นรำฉลองนมัสการ แบบสุดๆในตอนนั้น
โนอาห์เชื่อในพระเจ้า ซึ่งเป็นผลนำให้ท่านและครอบครัวรอดได้
"เพราะโนอาห์มีความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อพระเจ้าทรงเตือนให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่ปรากฏ ท่านจึงยำเกรงและต่อเรือใหญ่ เพื่อช่วยครอบครัวของตนให้รอดพ้นจากความตาย และด้วยเหตุนี้เองท่านจึงได้ติเตียนชาวโลก และได้เป็นทายาทแห่งความชอบธรรม ซึ่งบังเกิดมาจากความเชื่อ"
ฮีบรู 11:7
"มีคาลราชธิดาของซาอูลก็มองออกที่ช่องหน้าต่าง เห็นกษัตริย์ดาวิดกระโดดโลดเต้นรำถวายต่อพระพักตร์
พระเยโฮวาห์ และนางก็มีใจหมิ่นประมาท"
2 ซามูเอล 6:16
ผมขอยกมุมมองที่ผมมีในตอนนี้ไม่ใช่แค่การดูหมิ่นพระวิญญาณ หรือการนมัสการเท่านั้น แต่ดาวิดอยู่ใน
ฐานะของผู้นำ กษัตริย์ และนางมีคาลไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ดาวิดกระทำผลที่นางได้สุดท้ายคือนางเป็นหมันไป
ตลอดชีวิต
"ท่านทั้งหลายจงยอมเชื่อฟังเจ้านายของตนด้วยความเคารพ ไม่เฉพาะต่อเจ้านายที่ดีและเห็นอกเห็นใจเท่านั้น
แต่ต่อเจ้านายที่ร้ายกาจด้วย
เพราะผู้ที่ยอมทนทุกข์อย่างไม่เป็นธรรมเพราะตระหนักถึงพระเจ้านั้นน่ายกย่อง
หากว่าท่านถูกโบยเนื่องจากทำผิด ถึงท่านยอมทนจะนับเป็นความดีความชอบได้อย่างไร แต่ถ้าท่านต้องทุกข์
ยากเพราะทำดีและยอมทนเอา นี่เป็นสิ่งน่ายกย่องต่อหน้าพระเจ้า"
1 เปโตร 2:18
บางครั้งเราเคารพผู้นำที่ถูกใจเรา ตรงใจเรา ไม่ขัดกับเรา แต่พระคัมภีร์ได้บอกถึงผู้นำที่ร้ายกาจด้วย
ผมคงไม่ต้องอธิบายคำๆนี้เลยว่าขนาดไหน
ผมหนุนใจให้เราสวนกระแส เพราะผู้ที่ยอมทนทุกข์อย่างไม่เป็นธรรมเพราะตระหนักถึงพระเจ้านั้นน่ายกย่อง
ท่านจะได้รับการปลอบประโลมจากพระเจ้า
แต่หากว่าท่านถูกโบยเนื่องจากทำผิด ถึงท่านยอมทนจะนับเป็นความดีความชอบได้อย่างไร แต่ถ้าท่านต้อง
ทุกข์ยากเพราะทำดีและยอมทนเอา นี่เป็นสิ่งน่ายกย่องต่อหน้าพระเจ้า
ถึงแม้ผู้นำจะทำให้ท่านเจ็บ และท่านก็รู้ดีว่าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ผู้นำคนนั้นทำในสิ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งท่านคิด
ว่าไม่ควรทำ ท่านรู้สึกไม่ดีเลย แต่ให้ท่านยอมทนเอา อย่ามองที่ผิดหรือไม่ผิด ควรหรือไม่ควร ผมไม่ได้หมาย
ความว่าท่านพูดอะไรไม่ได้เลย แต่จงพูดด้วยความรักเท่านั้น ไม่ใช่อารมณ์ที่ต่อต้าน
จงยอมทนเอาเพราะ นี่เป็นสิ่งน่ายกย่องต่อหน้าพระเจ้า
ผมอยากปิดท้ายด้วย
ฮีบรู 13:17
"ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟัง และยอมอยู่ใต้บังคับบัญชา ผู้นำของท่าน ซึ่งเฝ้าดูแลท่านในฐานะเป็นผู้ที่ต้องรายงาน
จงเชื่อฟังเขาเพื่อเขาจะทำหน้าที่ด้วยความชื่นใจ ไม่จำใจรับภาระซึ่งไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่ท่าน"
นอกจากให้เราเชื่อฟังแล้ว แต่ให่เราเต็มใจไม่จำใจในการเชื่อฟัง ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าเปล่าประโยชน์อีกเช่นกัน
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
คริสเตียนกับงานรับใช้เป็นอะไรที่คู่กัน เมื่อเป็นคริสเตียนเราต้องรับใช้ เราเองก็ต้องมีเป้าหมายในการรับใช้ตามของประทานทางใดทางหนึ่ง หลายคนไม...
-
YAHWEH Rapha ยาห์เวห์ ราฟา (เราเป็นพระเจ้าแพทย์ของเจ้า) สวัสดีครับพี่น้องที่รักในพระคริสต์ วันนี้เมื่อได้เข้าสู่เดือน Iyar หรือ อิยาห์...
-
การถวายผลแรก (Bikkurim) สภษ. 3:9 จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์ด้วยทรัพย์สินของเจ้า และด้วยผลแรกแห่งผลิตผลทุกอย่างของเจ้า ผลแรกใ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น