พระเจ้าในคริสตจักร
อย่างพึ่งตกใจหรือเบื่อก่อนที่เกริ่นเรื่องคริสตจักรที่เราได้เรียนรู้มานานแสนนานว่าคริสตจักรคืออะไร หรือหมายความว่าอย่างไรนะครับ หลายครั้งแรกที่ผมเข้าไปที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง โดยที่ยังไม่ได้เป็นคริสเตียนในฐานะคนที่แปลกหน้า ผมต้องแปลกใจอย่างมากว่าทำไมคนที่นี่ถึงได้ยิ้มเก่งกันนัก มันน่าจะเคร่งเครียดเคร่งศาสนากันหน่อยสิ และอยู่ๆก็มีคนคนหนึ่งเดินมาทักผม อ่าว !!
เราไม่รู้จักกันเลยนะนี่ งงมาก อีกคนเดินๆจับมือพูดคุยทักทายเหมือนรู้จักกันมานานจะสิบปี นี่หรือคริสตจักรของพระเจ้า ผมคิดในตอนนั้น
เราเองในฐานะคริสเตียนและเป็นผู้แทนที่สะท้อนชีวิตและความรักของพระเจ้า พระเยซูที่มีต่อมนุษย์โลกทุกคนไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเช่นไร จะแปลกหน้าหรือไม่ บางครั้งถ้าเราไม่ระมัดระวังคริสตจักรเองก็อาจจะสะท้อนความเป็นตัวเองหรือบุคคลเนื้อหนังมากกว่าที่จะสะท้อนบุคคลิกภาพของพระเยซู และคนภายนอกก็จะไม่สัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้าในคริสตจักร ซึ่งนั่นนอกจากจะเป็นตัวอาคารแล้ว ยังรวมถึงบุคคลด้วย
คริสตจักรที่ขาดผลของพระวิญญาณ และคริสตจักรที่มีการทะเลาะกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ยังกับการเมืองที่แบ่งสีแบ่งพรรค พวกใครพวกมัน มีการนินทา อิจฉา และทำร้ายกันด้วยคำพูด นี่เป็นเพียงตัวอย่าง และมีอีกมากมาย
แล้วคริสตจัรต้องทำอย่างไร ?
คริสตจักรต้องทำให้ผู้คนสัมผัสถึงหัวใจของพระบิดา เราต้องแสดงออกถึงความถ่อมใจ ความรัก การต้อนรับทุกคนที่เข้ามา ปรนนิบัติ แสดงความรักด้วยรูปธรรม ทุกคนที่เข้ามาจะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น ไม่มีแบ่งแยกชนชั้น รู้จักอดทนซึ่งกันกัน
เราต้องใช้ชีวิตของเราให้สมกับเป็นคริสตจักรและที่ประทับของพระคริสต์ที่สถิตอยู่ในเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทุกคนที่รู้จักและสัมผัสกับเรา เขาจะรู้และสัมผัสได้ถึงบุคลิกภาพของพระเยซูคริสต์
โคโลสี 1:10
เพื่อท่านจะได้ประพฤติอย่างที่สมควรต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และทำตนให้เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เกิดผลในการดีทุกอย่าง และจำเริญขึ้นในความรู้ถึงพระเจ้า
ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ 23ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย 24ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว
กาลาเทีย 5:22-24
ขอบคุณพระเจ้า
Ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น