เทศกาลปัสกา
Passover
เวลานี้ใกล้ถึงวันอีสเตอร์ ที่หลายคนรอคอยเพราะเป็นวันฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู สาระของวันอีสเตอร์นั้นคือ การที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงสละพระชนม์ของพระองค์เอง และตายบนไม้กางเขน ถูกฝังไว้และเป็นขึ้นมาจากความตาย นั่นคือชัยชนะ และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เราทั้งหลายผู้ที่เชื่อในพระองค์รอวันที่พระองค์จะเสด็จกลับมา
แม้คำว่า “อีสเตอร์” จะไม่มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ แต่บางข้อมูลอาจจะมาจากชื่อของเทพ แต่คริสเตียนทั่วโลกก็เชื่อเช่นกันว่า “อีสเตอร์” หมายถึงวันที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย
ดังนั้น อีสเตอร์ ผู้เชื่อในพระเยซูต่างเฉลิมฉลองการเป็นขึ้นมาจากความตายและการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ อีสเตอร์เกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง
- ไข่อีสเตอร์ ไข่เป็นเพียงธรรมเนียมประเพณีที่สนุกสนาน แม้ไม่มีในพระคัมภีร์ และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องอีสเตอร์เลย แต่ไข่เป็นภาพของ ชีวิตใหม่ ความอุดมสมบูรณ์ สมัยอดีต คนอียิปต์นำไข่มาระบายสีและใช้เพื่อมอบเป็นของขวัญแก่กันและกัน ทุกวันนี้มีการนำไข่มาระบายสีใช้ในการเฉลิมฉลองอีสเตอร์ บ้างก็มีการซ่อนและหาไข่กันเป็นที่สนุกสนาน
- กระต่ายอีสเตอร์ กระต่ายถูกนำมาเป็นภาพของชีวิตใหม่ เพราะกระต่ายออกลูกดก มีบางตำนานเก่าแก่ที่หญิงสาวได้นำไข่อีสเตอร์ซ่อนไว้ ในขณะที่บรรดาเด็ก ๆ หาไข่ก็ได้มีกระต่ายกระโดดออกมา ก็เลยเป็นที่มาของ กระต่ายเป็นผู้นำไข่มาให้
แต่สิ่งที่หลายคนลืมไปและเข้าใจว่า ไม่จำเป็นแล้ว เป็นพันธสัญญาเดิม พระเยซูมาทำให้สำเร็จแล้ว นั่นคือ เทศกาลปัสกา
บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อโจมตีอีสเตอร์ แต่เพียงอยากหนุนใจให้หันมามองเทศกาลที่ถูกลืม เรารู้ว่าอีสเตอร์มาจากชื่อของเทพ EOSTRE หรือ OSTARA เป็นเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ คนแองโกล-แซกซอน ในยุโรปในอดีตนมัสการเพื่อขอให้อวยพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
บางข้อมูลก็บันทึกว่า โดยการบูชาเทพธิดาอีสเตอร์คือการนำไข่หลากสี เอาไปไว้ตามทุ่งนาบ้างก็แขวนตามต้นไม้และให้เด็ก ๆ ช่วยกันหาเป็นที่สนุกสนาน
ส่วนกระต่ายก็เป็นอีกโฉมหนึ่งของเทพธิดาอีสเตอร์ เทพในสมัยก่อนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะกรีก โรมัน หรืออียิปต์ เกือบทั้งหมดหน้าตาเป็นสัตว์ทั้งนั้น กระต่ายจึงเป็นสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ความอุดมสมบูรณ์คือมีลูกดก
เราไม่ถือว่าที่มาจะเป็นอย่างไร เพราะผุ้เชื่อในพระเยซูมุ่งเน้นไปที่วันฟื้นคืนพระชนม์ที่แม้จริง หลายคนบอกว่า วันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ เดือนทั้งสิบสองเดือนก็มีที่มาจากเทพต่าง ๆ เช่นกันแต่ไม่ได้หมายความว่า คริสเตียนจะเชื่อและไปนมัสการเทพพวกนั้น ถึงอีสเตอร์ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เรื่องราวของพระเยซูที่ได้ทำ เรื่องราว ความหมายต่าง ๆ มีชัดเจนในพระคัมภีร์และเป็นความจริง
คำถาม? แล้วปัสกาล่ะ มีบันทึกในพระคัมภีร์ไหม พระเยซูมาแล้ว ปัสกาไม่จำเป็นอีกหรือ พวกเอาเทศกาลในพระคัมภีร์เป็นพวกบ้ายิวและเพี๊ยนจริง ๆ หรือ ทั้ง ๆ ที่มีบันทึกชัดเจนในพระคัมภีร์
ปัสกาคืออะไร?
ก่อนอื่นต้องบอกว่า การถือเทศกาลปัสกา ไม่ได้หมายความต้องเป็นพวกบ้ายิว ปัสกามีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ อีเตอร์เองแม้ไม่ได้มีบันทึกในพระคัมภีร์ เป็นคำที่ไม่มีสักประโยคในพระคัมภีร์แต่คริสเตียนทั่วโลกก็ยังยอมรับและถือกันด้วยความที่ตรงกับวันที่เป็นช่วงเวลาของพระเยซูในช่วงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์และเป็นขึ้นมา
ปัสกาเองก็เช่นเดียวกัน เราไม่ได้ถือปัสกาเพื่อจะทำแบบยิว เพราะมียิวมากมายที่ไม่ได้เชื่อในพระเยซู พระเมสสิยาห์ แต่ปัสกาเป็นเงา หรือภาพที่ได้พยากรณ์การเสด็จมาของพระเยซูที่ มาในโลกนี้ ถูกตรึง และเป็นขึ้นมาจากความตายเช่นเดียวกัน
การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา เทศกาลแห่งการไถ่ของพระเจ้า ฤทธานุภาพของพระเจ้า และความชื่นชมยินดี พระเจ้าไถ่อิสราเอลจากอียิปต์อย่างไร พระเยซูก็มาเพื่อไถ่เราจากแดนทาสด้วยเช่นกัน
ดังนั้นปัสกาจึงเป็นเทศกาลฉลองพระเยซู ไม่ใช่เทศการของยิว หัวใจของปัสกาไม่ใช่พิธีกรรมที่ละเอียด ไม่ใช่ประเพณีของยิวที่เพิ่มเติมสอดแทรกเข้าไป ปัสการเล็งถึงและชี้มาที่พระเยซูอยู่แล้ว ก่อนอีสเตอรืเสียอีก
ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่บันทึกว่า "พระเยซูคือลูกแกะปัสกา" เมื่อยอนห์บัพติโตได้แนะนำพระเยซู ท่านได้เรียกพระองค์ว่า “ดูเถิด พระเมษโปดก (หมายถึง ลูกแกะ)
ยน. 1:29 วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย
ยน. 1:36 และท่านมองดูพระเยซูขณะที่พระองค์ทรงดำเนินและกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า”
อาจารย์เปาโลได้กล่าวว่า พระคริสต์ทรงเป็นลูกแกะปัสกาของพระเจ้าที่ถูกประหาร การเฉลิมฉลอง เทศกาลปัสกาคือการเฉลิมฉลองพระเยซู ในฐานะลูกแกะปัสกา พระองค์ได้หลั่งโลหิตของพระองค์เพื่อไถ่เราจากศัตรู เมื่อพระโลหิตของพระองค์ทาที่วงกบประตูของชีวิตคุณ พระเจ้าทรงปลดปล่อยคุณจากทูตมรณะ ดังนั้น เมื่อคุณเข้าใจเทศกาลปัสกา คุณก็จะเข้าใจโดยอัตโนมัติว่าพระเยซูได้ทำอะไรเพื่อคุณ
ในกิจการ และ 1 เปโตร ก็บันทึกว่า พระเยซูทรงเป็นลูกแกะ
กจ. 8:32 พระคัมภีร์ตอนที่ท่านอ่านอยู่นั้น คือข้อเหล่านี้ เขาได้นำท่านเหมือนอย่างนำแกะไปฆ่า และเหมือนลูกแกะนิ่งอยู่ต่อหน้าผู้ตัดขนของมันฉันใด ท่านไม่ปริปากของท่านเลยฉันนั้น
1ปต. 1:19 แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง
ในคืนปัสกา หัวหน้าครอบครัวชาวอิสราเอล ได้นำเลือดแกะ จุ่มด้วยกิ่งหุสบและทาไปที่วงกบประตู ซึ่งเป็นลักษณะกากบาทซึ่งคล้ายกับไม้กางเขน ครอบครัวที่มีสัญลักษณ์นี้ทูตแห่งความตายได้ผ่านพ้นไป
พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน การปลดปล่อยมาทางโลหิตของพระเยซู พระเยซูสิ้นพระชนม์ในช่วงเวลาปัสกา มันไม่ใช่เหตุบังเอิญเลยที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในเวลานี้ เพราะนี่เป็นแผนการทรงไถ่ของพระองค์ เป็นน้ำพระทัยของพระบิดา
ที่มา : ข้อมูลตอนหนึ่งของ ชัค ดี เพียซ และ โรเบิร์ต ไฮเลอร์ ขอยกมาดังนี้ว่า
สิ่งที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ ตารางเวลาของการตรึงพระเยซูกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา ตามหนังสือโทราห์ ตามเวลาของเทศกาลปัสกาแล้วเหตุการณ์ต่างๆที่เฉพาะเจาะจงได้เกิดขึ้นในเวลาที่เฉพาะเจาะจงด้วย
1. ในวันที่เจาะจง ลูกแกะปัสกาจะถูกเลือก หนังสือ อพยพบทที่ 12 ให้คำแนะนำว่า ลูกแกะปัสกาจะได้รับการเลือกในวันที่ 10 ของเดือนที่1 ในสมัยของพระเยซูลูกแกะจากเมืองเบ็ธเลเฮม ได้รับการคัดเลือกเป็นลูกแกะปัสกา ลูกแกะที่เกิดเมืองเบ็ธเลเฮมได้ถูกเลือกและนำมาที่กรุงเยรูซาเล็ม มาจากทางตะวันออก (ลงมาทางภูเขามะกอกเทศ) เข้าไปในเมืองผ่านทางประตูแกะ ในวันที่ 10 ของเดือนแรก พระเยซูลูกแกะที่เกิดเมืองเบ็ธเลเฮ็มเสด็จลงมาที่ภูเขามะกอกเทศและเสด็จเข้า กรุงเยรูซาเล็มโดยผ่านทางประตูแกะ (เรียกว่า การเสด็จเข้าเมืองด้วยชัยชนะ) ขณะที่พระองค์ได้เสด็จเข้าเมือง ประชาชนโบกกิ่งใบตาลและร้องตะโกนว่า “ขอให้ผู้ที่เสด็จมาในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ บุตรดาวิด ของทรงช่วยเราให้รอด” โดยการประกาศของมวลชน พระเยซูได้ถูกกำหนดเป็นพระเมสิยาห์ของอิสราเอล ฝูงชนได้เลือกแกะปัสกาสำหรับพวกเขาเอง
2. ลูกแกะจะถูกตรวจสอบ หนังสือโทราห์ได้ให้คำแนะนำว่า เมื่อได้คัดเลือกลูกแกะแล้วจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีตำหนิหรือไม่ ลูกแกะที่สมบูรณ์และไม่มีตำหนิด่างพร้อยเท่านั้นที่เหมาะสมสำหรับปัสกา เมื่อพระองค์มาถึงเยรูซาเล็มพระองค์เสด็จไปที่พระวิหารเพื่อที่จะสอน และที่นั่นเองที่พวกฟารีสี สะดูสี พวกเฮโรดและครูสอนธรรมบัญญัติมาหาพระองค์ แล้วแต่ละกลุ่มก็ตั้งคำถามที่ยากเพื่อวางกับดักพระองค์ ที่จริงแล้วพวกเขาคาดหวังที่จะจับผิดพระองค์ เพื่อเป็นข้ออ้างว่าพระองค์ไม่สมควรเป็นพระเมสิยาห์ แต่ก็ไม่มีใครจับผิดพระองค์ได้เพราะพระองค์ทรงปราศจากตำหนิ
3. เชื้อขนมปัง (ความไม่บริสุทธิ์) ต้องถูกเอาออกไป หนังสือโทราห์ให้คำแนะนำว่า ก่อนเทศกาลทุกต้องเอาเชื้อขนมออกไปจากบ้านเรือน บรรดาคุณแม่จะใช้เทียนส่องหาและเอาเชื้อขนมออกไปจากบ้านของเธอ กฎเกณฑ์นี้ยังคงรักษาไว้จนทุกวันนี้ เทศกาลปัสกาเป็นเวลาที่จะทำความสะอาดบ้านทุกหลัง ครอบครัวชาวยิวที่อนุรักษ์นิยมจะทำความสะอาดบ้านของเขาก่อนปัสกา ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความไม่บริสุทธิ์ต้องถูกเอาออกไปจากบ้าน เมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มพระองค์ไปที่พระวิหารและขับไล่คนแลกเงินออกไป พระองค์ทรงทำตามคำสอนในพระคัมภีร์ในการเตรียมปัสกา ด้วยการชำระพระนิเวศน์ของพระบิดาของพระองค์
4. ลูกแกะถูกนำไปที่แท่นบูชาในที่สาธารณะ เช้าวันที่ 14 ของเดือนแรก เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมให้พร้อมแล้ว ลูกแกะถูกวางบนแท่นบูชา เวลา 9 โมงเช้า ลูกแกะจะถูกมัดบนแท่นบูชาซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนจะเห็น ในเช้าวันที่ 14 ของเดือนแรกเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วพระเยซูทรงถูกนำไปที่ไม้กางเขน เวลา 9 โมงเช้าวันนั้น เหมือนอย่างที่ลูกแกะถูกมัดบนแท่นบูชา พระเยซูก็ถูกตรึงบนไม้กางเขนต่อหน้าสาธารณชน
5. ลูกแกะถูกประหาร ณ เวลาที่กำหนดอย่างเจาะจง เวลาบ่ายสามโมงมหาปุโรหิตเสด็จไปที่แท่นบูชา ขณะที่ปุโรหิตอีกคนหนึ่งได้เป่าโชฟาร์ที่บนกำแพงพระวิหาร มหาปุโรหิตได้เชือดคอลูกแกะปัสกา ประกาศว่า “สำเร็จแล้ว” ตอนบ่ายสามโมง วันอันบริสุทธิ์นั้น ณ จังหวะที่ลูกแกะปัสกาถูกฆ่า พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์ ในภาษากรีก คำว่า "สำเร็จแล้ว"(เทเลลิสเทีย) หมายถึง "ได้ชำระหนี้ครบแล้ว"
การเฉลิมฉลอง ของพระเยซู
คุณเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่า วิธีการที่พระเจ้าสร้างความเชื่อมโยงพระเยซูกับเทศกาลปัสกาเข้าด้วยกันเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องประหลาดใจเลยที่ยอห์นได้กล่าวว่า “ดูเถิด พระเมษโปดกของพระเจ้า” และไม่น่าประหลาดใจเลยที่อาจารย์เปาโลเขียนว่า “ลูกแกะปัสกาที่ถูกประหาร” ความหมายของเทศกาลปัสกานั้นเกี่ยวกับพระเยซูทั้งสิ้น แล้วคุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าเทศกาลปัสกานั้นเกี่ยวกับพระเยซูทั้งสิ้น
พระองค์ ทรงเสด็จมาเป็นพระเมษโปดก/ลูกแกะของพระเจ้า
พระโลหิตของพระองค์ไถ่เรา
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. ได้ผลักการพิพาษาออกไป
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. ได้หักทำลายอำนาจของศัตรู
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. เราได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการและการกดขี่
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. เราได้รับเสรีภาพที่จะเข้าสู่พระสัญญาของพระเจ้า
ปัสกาคือการเฉลิมฉลอง “ พระเยซู” ยิ่งคุณเข้าใจความหมายของเทศกาลปัสกามากเท่าไร คุณก็ยิ่งซาบซึ้งในพระเยซูมากเท่านั้น ถ้าคุณไม่เข้าใจเทศกาลปัสกา คุณก็ยากที่จะเข้าใจว่าพระเยซูได้ทรงทำอะไร ขณะที่คุณเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา คุณกำลังประกาศถึงความเชื่อในฤทธิ์อำนาจในพระโลหิตและการไถ่ของพระองค์ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ประหลาดที่สุดในโลกที่มีการยอมรับคำหลอกลวงของซาตานว่าเทศกาลปัสกานั้นไม่ใช่ของคริสเตียน ซาตานพยายามขโมยเทศกาลปัสกาไป เพราะมันรู้ว่าการเฉลิมฉลองพระโลหิตจะปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจ เมื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาถูกเอาออกไป ฤทธิ์อำนาจก็หมดไป แต่เมื่อเทศกาลปัสกาได้รับการรื้อฟื้น ฤทธิ์อำนาจก็กลับมา
ข่าวดี ก็คือ พระเจ้ากำลังรื้อฟื้นเทศกาลปัสกา คริสตจักรทั่วโลกกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาอีกครั้งหนึ่ง และฤทธิ์อำนาจก็กำลังกลับมา พวกเราขอเชิญชวนพวกคุณเฉลิมฉลองฤทธิ์อำนาจของพระโลหิตพระเยซู พวกเราขอเชิญพวกคุณร่วมกับคริสเตียนทั่วโลกในการรื้อฟื้นเทศกาลปัสกานี้ และเชิญร่วมกับเราในการประกาศว่า เราได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดกจากมือของศัตรู
จากผู้เขียน
วันนี้อยากหนุนใจให้เรามองย้อนกลับมาที่ปัสกาสักนิดแล้วเราจะเห็นภาพความนิ่งใหญ่ของพระเจ้า แผนการไถ่ของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูผู้เป็นลูกแกะปัสกา
อ่านเรื่องเกี่ยวกับปัสกาได้ที่
เทศกาลปัสกา
http://emunahinyeshua.blogspot.com/2011/10/blog-post_4284.html
ปล่อยบารับบัส !!
http://emunahinyeshua.blogspot.com/2013/11/blog-post.html#more
แผนการไถ่ของยาชูวาห์ (ลูกแกะปัสกา)
http://emunahinyeshua.blogspot.com/2014/01/blog-post_23.html
พระเมสสิยาห์ผู้มารื้อฟื้นพันธสัญญา ในช่วงเวลาของปัสกา
http://emunahinyeshua.blogspot.com/2014/01/blog-post_27.html
ชาโลม
ktm.Emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น