วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

งานรับใช้ไม่ใช่ภาระ แต่จะมีชัยชนะโดยพระคุณของพระเจ้า



คริสเตียนกับงานรับใช้เป็นอะไรที่คู่กัน เมื่อเป็นคริสเตียนเราต้องรับใช้ เราเองก็ต้องมีเป้าหมายในการรับใช้ตามของประทานทางใดทางหนึ่ง หลายคนไม่เข้าใจความหมายของการรับใช้ที่แท้จริง อะไรล่ะคืออุปสรรค์

ในงานคริสเตียนหลายงานบางครั้งทีมรับใช้ไม่ได้มีความแตกต่างจากโลกนี้เลย ขาดซึ่งความรักและขาดการควบคุมสภาวะทางด้านอารมณ์ บางครั้งการทุ่มเทรับใช้อย่างสุดใจ สละเวลาส่วนตัว เวลางาน ถวายสุดใจเพื่องานของพระเจ้า แต่ขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันเป็นจุดประสงค์ของการรับใช้ และเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า สาเหตุส่วนมากมาจาก ความโกรธและการขาดความควบคุมอารมณ์

งานรับใช้ของคุณอาจไม่ถูกใจใครทุกคนและถ้าเราเองต้องมานั่งอธิบายทีละคนย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อย่าได้ยึดติดกับคำพูดที่บาดใจของใคร อย่าได้เสียใจกับคำพุดที่เสียดสี อย่าได้ใส่ใจถ้าใครว่าคุณเอาเปรียบและเห็นแก่ตัว ถ้าคุณรับใช้ด้วยสุดใจแล้วคนที่รู้คือพระเจ้า อย่าคาดหวังคำชมเพื่อเป็นกำลังใจ เพราะคุณต้องเตรียมใจรับคำตำหนิและต่อว่า และอย่าหลงกับคำชมเพราะนั่นไม่ใช่รางวัลที่แท้จริงในการรับใช้

กาลาเทีย [1:10] บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังพูดเอาใจมนุษย์หรือ ข้าพเจ้าทำให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้ามิใช่หรือ ข้าพเจ้าอุตส่าห์ประจบประแจงมนุษย์หรือ ถ้าข้าพเจ้ากำลังประจบประแจงมนุษย์อยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของพระคริสต์

งานรับใช้ไม่ใช่การทำให้ทุกคนพอใจ เราต้องไม่อยู่ในแนวทางการรับใช้ที่ผิดโดยแสวงหากรายอมรับจากใคร จงแสวงหาพระเจ้ามากกว่าที่จะแสวงหารการยอมรับจากมนุษย์ บางครั้งเราไม่รู้ตัวและไม่ตั้งใจที่จะต้องการการยอมรับ แต่การพยายามทำตามคำตัดสิน ติเตียน คำพูดเสียดสี จนเหน็ดเหนื่อย งานรับใช้จะไม่มีค่าอะไรเลย

หลายคนอาจจะคิดว่าคุณทำเอาหน้า เพราะทำงานรับใช้จนมากมาย หลายคนอาจจะมองว่าคุณไม่ทำอะไรเลยทั้งที่คุณเหนื่อยจนแทบจะสลบ และหลายคนอาจจะคิดว่าคุณคือซุปเปอร์แมนหรือยอดมนุษย์จอมพลัง เพราะในขณะที่คนอื่นๆหมดเรี่ยวแรง และได้พัก แต่ส่วนคุณถ้าพักเมื่อไหร่จะกลายเป็นคนที่เอาเปรียบและไร้น้ำใจ

มัทธิว [5:41] ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร

พระเจ้าให้เราตอบสนองในสถานการณ์ต่างๆในแบบที่เราไว้วางใจในพระองค์
เมื่อคำพูดที่ทำให้เราโกรธจู่โจมเข้ามาและเราโกรธ ความบาปไม่ได้อยู่ที่ความโกรธแต่อยู่ที่เราสานต่อจากจุดนั้น เมื่อเริ่มที่จะบ่น และต่อว่าซึ่งกันและกันตัดสินกันและรับใช้ด้วยการขาดสันติสุข
เราเองก็จะตกในหลุมพรางของซาตาน เพราะมันได้ทำให้เกิดรอยร้าวในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว พระเยซูเองพร้อมจะฉุดเราขึ้นจากปากหลุม เมื่อใดที่เราฝากภาระอันหนักอึ้งไว้ที่กางเขนของพระองค์ พระองค์ทรงรับความเจ็บปวด ความโกรธ ความน้อยใจ ความคับแค้นใจ โดยรอยแผลเฆี่ยนของพระองค์ พระเจ้าทรงรับทุกอย่างที่เป็นความเจ็บปวดไปหมดแล้ว

งานรับใช้ ถ้าทำแล้วขาดสันติสุข ก็จะกลายเป็นแค่งานกรรมกรใช้แรงงานธรรมดา แต่เมื่อใดที่งานรับใช้ออกมาจากหัวใจ ไม่ขึ้นตรงต่อความรู้สึกที่มีต่อคนรอบข้าง ไม่สนใจว่าจะเหนื่อยแค่ไหน และทำด้วยหัวใจเพื่อแผ่นดินของพระเจ้าจะได้รับการพลิกฟื้น และมีส่วนต่อการกลับใจใหม่ของคนมากมาย เมื่อนั้นงานรับใช้จึงจะไม่มีคำว่าเหนื่อยใจ หรือท้อใจ

อย่าให้งานรับใช้เป็นภาระ  เมื่อเรารับใช้จงรับใช้ด้วยสันติสุข และชื่นชมยินดี ไม่เอาตัวเองเป็นมาตรฐานและพิพากษาคนอื่น

ซาตานเหมือนสิงห์ที่คอยตะปบเราเมื่อใดที่เหยื่อเหน็ดเหนื่อยจนอ่อนแรง เมื่อนั้นสิงโตก็จะเข้าจู่โจมเหยื่อ ซาตานสามารถจู่โจมความคิดได้ง่ายดายมากในความคิดและมันสามารถตั้งป้อมปราการในความคิดเราได้ บางครั้งในสภาพความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอ เราโกรธง่าย โมโหง่าย หงุดหงิดง่าย ทั้งที่พระเจ้าบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ไร้สาระ แต่ซาตานทำให้มันเป็นเรื่องสำคัญ ความคิดที่ว่าตัวเองทำอยู่คนเดียว หรือทำไมคนนั้นทำ คนนี้ไม่ทำ ทำไมคนนี้อู้ ทำไมคนนี้ไม่เป็นแบบที่เราคิด และเราจะสงสารตัวเอง และบ่นๆ นินทาๆ หรืออาจจะตะบะแตก ระเบิดอารมณ์ออกมา เมื่อนั้นจะมีผลต่อฝ่ายวิญญาณและกายภาพทันที
ผมหนุนใจว่าเราต้องไม่เป็นมาธาที่เอาแต่รับใช้และทำงาน แต่ขาดความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าพระบิดา เมื่อเราเข้าเฝ้าพระเจ้าในตอนเช้าพระองค์จะบอกเราถึงอาวุธที่จะใช้จัดการและพระวจนะของพระเจ้าจะหนุนใจเรา แม้เราจะไม่เข้าใจ แต่เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ พระคำและถ้อยคำหนุนใจจะชูใจเราขึ้น
อาวุธต่อกรของเราในการรับใช้

กาลาเทีย [5:22] ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ

ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย


ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว
เมื่อเราสวมผลของพระวิญญาณคือมี

ความรัก แค่ความรักอย่างเดียว 1โครินธ์ 13.4-7  “ความรักนั้น อดทนนาน กระทำคุณให้ ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด ทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น เชื่อในส่วนดี มีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”

ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตามถ้ารู้จักที่จะบังคับตนและทุบตีเนื้อหนังให้อยู่หมัดแล้ว แทนที่เราเองจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าและยั่วภายนอก การตอบโต้ไม่ใช้ตาต่อตาฟันต่อฟัน 

มัทธิว 5:41 บอกว่าแม้เขาเอาเปรียบเรา ก็จงแถมให้เขาอีก คือเดินแถมไปให้อีก
สุภาษิต 15:1 บอกว่า คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ ถ้าเราตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่เผ็ดร้อน แม้อยากจะตอบโต้ใจจะขาด จงบังคับลิ้นและตนเองไว้ เพราะนั่นคือหลุมพรางที่เราจะเดินไปตก จงปราศัยกันด้วยเพลงสดุดี การบังคับตนเองจะนำเราไปสู่ชัยชนะ คนที่ควบคุมตนเองไม่ได้อาจทำให้งานรับใช้พังทลายลง
สุภาษิต 19:11 NIV ความสุขุมรอบคอบจะทำให้เราอดทน และเกียรติยศของเขาคือการให้อภัยความผิดของคนอื่น
อยากหนุนใจข้อพระคัมภีร์หลายข้อดังต่อไปนี้

ยอห์น [12:26] ถ้าผู้ใดจะรับใช้เรา ผู้นั้นก็ต้องตามเรามา และเราอยู่ที่ไหนผู้รับใช้ของเราจะอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าผู้ใดรับใช้เรา พระบิดาก็จะทรงประทานเกียรติแก่ผู้นั้น

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระวจนะข้อนี้ เราต้องตระหกนักเสมอว่าเรารับใช้ใคร มนุษย์หรือพระเจ้า เมื่อเราตามพระเจ้าเราจะเดินตามรอยเท้าของพระองค์ เดินตามทางที่ถูกต้องและไม่หลงตกในหลุมพรางขอซาตานที่ขุดดักไว้ เพราะพระองค์บอกว่าเมื่อเราตามพระองค์และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เราจะมีพระองค์อยู่เคียงข้างเราแน่อน

โรม [6:16] ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า ถ้าท่านยอมตัวรับใช้ฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น คือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรมก็ตาม

เมื่อเราอ่อนแอ ซาตานจะพูดกับเรานั่นคือ ความโกรธ ความน้อยใจ สงสารตัวเอง นำไปสู่การนินทาและตัดสิน พระวจนะในโรม ในฐานะผู้รับใช้เราต้องรับใช้พระองค์เพื่อพระประสงค์ของพระองค์ เราฝึกตนตามอย่างพระองค์ ไม่มีเจ้านายอื่นนอกจากพระเยซู นอกนั้นคือบาป ถ้าเราเป็นทาสของบาปและฝึกตัวในความบาปผลที่ได้คือความทุกข์ทรมาน บัดนี้เรามีเจ้านายคือพระเยซู

การตัดสินพี่น้องคริสเตียนในงานรับใช้เป็นเรื่องเย้ายวนชวนกระทำเมื่อเอาตัวเองเป็นมาตรฐาน หรือเอามาตรฐานการวิเคราะห์ของโลกเป็นที่ตั้ง เรามักคิดและวิจารณ์ว่าคนนั้นคนนี้เป็นผู้รับใช้ที่ดีหรือไม่ แต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทราบจิตใจของคน และพระองค์คือผู้เดียวที่มีสิทธิ์จะตัดสิน เราต้องไม่ตัดสินผู้รับใช้พี่น้องในพระคริสต์ว่าใครคือผู้รับใช้ที่ดีหรือไม่ดี เพราะเมื่อเราตัดสินเราย่อมกำลังถือว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น

2 โครินธ์ 6:4 NIV
แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้าเราพิสูจน์ตัวเองในทุกทาง ไม่ว่าในการอดทนอดกลั้น ในความทุกข์ร้อน ความยากเข็ญและความลำเค็ญ ในการถูกเฆี่ยนตี การถูกจองจำและการจลาจล ในการตรากตรำทำงาน การอดหลับอดนอน และความหิวโหย

ชีวิตของ เปาโลในงานรับใช้ต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มากมายแต่ทำไมเปาโลถึงยังคงอดทนและรับใช้ต่อไป นี่ถึงเป็นที่มาของการพิสูจน์ตัวเอง ในการเดินตามทางและรอยเท้าของพระเยซูคริสต์ ขอหนุนใจว่าไม่ว่าคุณเองจะเจอกับเหตุการณ์ใดดังที่กล่าวมา

พระธรรม 2 โครินธ์ มีจุดประสงค์เพื่อหนุนใจและปกป้องเราจากคำติเตียนทั้งหลาย หลายครั้งการทุ่มเทรับใช้ผู้รับใช้เหล่านี้กำลังตกอยู่ในการพิพากษาอย่างไม่ยุติธรรม
เปาโลเรียกได้ว่าเป็นผู้รับใช้ที่มีผลงานการรับใช้มากที่สุดก็ว่าได้ แต่ก็เป็นผู้รับใช้ที่ถูกติเตียน นินทา ใส่ร้าย มากที่สุดด้วยเช่นกัน พระคัมภีร์ 2 โครินธ์หนุนใจที่ผู้รับใช้จะพึ่งในพระคุณของพระเจ้า แม้ในยามยากลำบาก เปาโลก็ยังมีพระคุณของพระเจ้า เมื่อถุกกล่าวหาจงอย่าขาดความมั่นใจ เมื่อตัวเองหิวโหยเปาโลยังคิดถึงคนที่อดอยาก เมื่อเจอคนขี้อวดก็ถ่อมใจลง ในความอ่อนแอเปาโลเปิดโอกาสให้พระเจ้าสำแดงพระคุณและฤทธิ์เดชของพระองค์ภายในท่าน

ไม่ว่าจะเจอสถานณ์การณ์ใดจงใช้สถานการณ์ร้ายๆเหล่านั้นเปิดโอกาสให้เราเติบโตขึ้นในพระคุณของพระเจ้า จงตอบสนองสิ่งชั่วร้ายด้วยสิ่งตรงข้ามคือความดี

เมื่องานรบใช้เราถูกสงสัย และเราขาดความมั่นคง เราเองก็จะสั่นคลอนในการรับใช้ เปาหนุนใจที่เราจะถ่อมใจลง ให้หนามใหญ่ในเนื้อเป็นเครื่องเตือนถึงความถ่อมใจ
ขอให้พระคุณของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงเราให้เป็นคนที่มองข้ามคำตัดสิน ติเตียน นินทา และอื่นๆอีกมากมาย จงข้ามพ้นความอ่อนแอ และเพ่งมองที่พระเยซูคริสต์เจ้า เพราะเราต้องเดินตามพระองค์เพื่อเราจะไม่ตกหลุมพราง

2 โครินธ์ [12:9] แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั่น" เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงภูมิใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า
 
2 โครินธ์ [12:10] เหตุฉะนั้นเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า ในการประทุษร้ายต่างๆในความยากลำบาก ในการถูกข่มเหง ในความอับจน เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น

ขอพระเจ้าอวยพระพร
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

2 ความคิดเห็น:

  1. แค่รู้ว่าพระบิดา พระยาเวห์ จะเดินเคียงข้างไปกับลูก
    แม้จะต้องเจอมารซาตานที่มีฤทธิ์เดชหรือล่อลวงด้วยสิ่งเร้าเพียงใด มันก็ไม่มีผลต่อหัวใจของลูก เพราะลูกได้เกิดใหม่ในพระคริสตอย่างสมบรูณ์แบย
    บแล้ว ลูกมีหน้าที่รับใช้พระเจ้า พระยาเวห์ พระบิดาของลูก โล่กัมบังคือความรักที่ยิ่งใหญ่ และพระวจนะที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมแค่นี้ ทุกสาระพัดปัญหาก็ไม่ทำไห้ลูกท้อแล้ว ลูกสุขใจที่ได้มอบความรักไห้กับประชาชน ของพระบิดา พระยาเวห์ และลูกพร้อมช่วยเหลือเค้าไห้พ้นโทษและการจองจำ เพราะลูกคือ ลูกของพระยาเวห์ และทุกคนในแผ่นดินอิสสละเอลก็คือพี่น้องและครอบครัวลูกเหมือนกัน เพราะเรามีพระบิดา พระยาเวห์ องค์เดียวกัน
    และมีแค่องค์เดียวเท่านั้น ลูกสรรเสริญพระยาเวห์ อาเมน✝️❤

    ตอบลบ