คำถามของพระเยซู
“เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่า”
บางครั้งมันน่าหงุดหงิด ใช่ไหมครับ
แต่เชื่อเลยว่า ผู้หนึ่งที่ไม่หงุดหงิดกับเรา คือพระเยซู (ยาชูวาห์)
ยกตัวอย่างว่า พี่น้องทานข้าวหรือยังครับ
โอ๊ยวันนี้กินบะมี่ไม่อร่อยเลย ? อันนี้น่าจะเกี่ยวกับหูไม่ดีด้วย
พี่น้องเฝ้าเดี่ยวหรือยังครับ
ก็อยากเฝ้า แต่พอดีมีธุระต้องออกจากบ้านไปทำธุระแต่เช้า พอเข้ามาก็ต้องมาซักผ้า ?
อันนี้เรียกว่าตอบไม่ตรงคำถามใช่ไหม ?
ใน ยอห์น 5
ยน. 5:5 ที่นั่นมีชายคนหนึ่งป่วยมาสามสิบแปดปีแล้ว
ชายคนนี้ป่วยเป็นอะไรครับ เรามาดูกัน
เขาป่วยเป็นง่อย
ยน. 5:3 ในศาลาเหล่านั้นมีคนป่วยจำนวนมาก มีทั้งคนตาบอด คนง่อย และคนเป็นอัมพาตนอนอยู่
ยน. 5:6 เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นคนนั้นนอนอยู่ และทรงทราบว่าเขาป่วยอยู่อย่างนั้นนานแล้ว พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?”
ชายคนนี้ป่วยเป็นง่อยมา 38 ปี เขามีความหวังว่าจะได้รับการรักษา ให้หาย
จากความเป็นโรคที่เขาเป็นอยู่ ญาติๆนำเขามาวางไว้ที่ริมสระน้ำที่ชื่อว่า
เบธซาธา แปลว่า “บ้านแห่งความเมตตา หรือบ้านแห่งพระคุณ”
ที่นั่นมีศาลาห้าหลัง หมายถึง สำหรับห้าหนังสือของโทราห์ สัญลักษณ์ความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่ระบุไว้ในโทราห์
โดยเป็นความเชื่อว่าจะมีทูตสวรรค์ลงมากวนน้ำในสระนั้น
ให้กระเพื่อมเป็นช่วงๆ เมื่อเกิดเกลียวคลื่นขึ้นมา และคนที่
เจ็บป่วยได้ลงไปที่สระนั้น เป็นคนแรก จะหายจากโรคที่เป็นอยู่
ลองนึกภาพคนป่วยจำนวนมากมารอคิว รอการอัศจรรย์ด้วยความหวัง
ลองนึกภาพถ้าใครไปโรงพยาบาลมหาราช … ไม่อยากจะคิดเลยใช่ไหม ?
พระวจนะตอนนี้เป็นภาพของการรักษาของพระเยซูทางกายภาพ
แต่ผมอยากจะเชื่อมโยงในภาพของ ฝ่ายจิตวิญญาณด้วย
เราหลายคนมีอาการเจ็บป่วยฝ่ายวิญญาณ ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างโรคกันไป
การเป็นง่อย หรืออัมพาต ก็หมายถึงการเคลื่อนไหวไม่ได้ หรือไม่ได้เคลื่อนไหว
มันหมายถึงอะไร ?
- ชีวิตถูกควบคุม และพันธนาการ
- มีความทุกข์ ทั้งกายและใจ
- ขาดความชื่นชมยินดี ที่พระเจ้าประสงค์ให้เราชื่นชมยินดี
- สิ้นหวัง หมดหวัง ทั้งที่พระเจ้าทรงเป็นความหวังใจ
- มองตัวเองไร้คุณค่าทั้งที่พระเจ้าไถ่เราด้วยราคาที่สูงจนประเมินค่าไม่ได้
- และอีกมากมาย
หลายคนถึงได้ป่วยฝ่ายวิญญาณ ซึ่งรักษาไม่หายแต่พระเยซูรักษาได้ พระองค์ช่วยเราได้ในทุกเหตุการณ์ ทุกสถานการณ์
กลับมาที่ชายคนนี้ ตลอด 20-30 ปีเขาไม่เคยได้รับโอกาส หรือมีความหวังที่จะหายโรคเลย
แต่วันหนึ่งเขาได้พบกับพระเยซู และ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า
“ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?”
ฉบับแปลฮีบรูบางฉบับ บอกว่า และตรัสกับเขาว่า
“เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่า” หรือ “เจ้าต้องการได้รับการเยียวยาหรือเปล่า”
ยน. 5:7 คนป่วยคนนั้นทูลตอบพระองค์ว่า “ท่านเจ้าข้า เมื่อน้ำกำลังกระเพื่อมนั้น ไม่มีใครเอาตัวข้าพเจ้าลงไปในสระ แล้วพอจะลงไปเอง คนอื่นก็ลงไปก่อนแล้ว”
ชายคนนี้ช่างตอบไม่ตรงคำถามเอาเสียเลย พระเยซูถามเขาว่า “เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่า”
มันหมายความว่า พระเยซูต้องการรักษาเขาโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ถึงกระนั้นในข้อต่อมา พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ลุกขึ้นเถิด จงยกแคร่ของท่านเดินไป”
ยน. 5:8 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ลุกขึ้นเถิด จงยกแคร่ของท่านเดินไป”
ยน. 5:9 ทันใดนั้นเขาก็หายเป็นปกติและยกแคร่ของเขาเดินไป แต่วันนั้นเป็นวันสะบาโต
ประเด็นของสะบาโต เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคืออะไร พระเยซูทำการอัศจรรย์ในวันสะบาโตไม่ได้ผิดแต่อย่างใด ซึ่งผมเคยแบ่งปันในมุมนี้ไปบ้างแล้ว
พระเยซูประสงค์ที่จะรักษาและเยียวยาผู้คนมากมาย แต่ขอเพียงเราจงเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ เชื่อในความรักของพระองค์ที่ประสงค์จะรักษาเราทั้งหลายให้หายดี
หลายครั้งไม่ว่าจะป่วยทางกายภาพ หรือจิตใจ ถ้าเรามีเหตุผลมากมาย ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ เราคงหายป่วยได้ยาก พระเยซูทำอะไรที่ง่ายๆ ไม่ใช่ให้เขาเดินไปที่สระน้ำนั้นอีก หรือลัดคิวให้เขา แต่เพียงพระองค์สั่งด้วยสิทธิอำนาจ แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องร่วมด้วยคือ “เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่า” นี่คือคำถามของพระเยซู
เต็มใจ คือการทิ้งและปฏิเสธ สิ่งที่รับรู้ หรือตาเห็น สิ่งที่ศัตรูพยายาม ยัดใส่ในเรา
- ชีวิตถูกควบคุม และพันธนาการ = จะถูกปลดปล่อย โซ่ตรวนจะถูกหัก
- มีความทุกข์ ทั้งกายและใจ = จะหมดไป
- ขาดความชื่นชมยินดี ที่พระเจ้าประสงค์ให้เราชื่นชมยินดี = สิ่งนี้จะกลับคืนมา คือความชื่นชมยินดี
- สิ้นหวัง หมดหวัง ทั้งที่พระเจ้าทรงเป็นความหวังใจ = บัดนี้พระองค์คือความหวังใจของเรา
- มองตัวเองไร้คุณค่าทั้งที่พระเจ้าไถ่เราด้วยราคาที่สูงจนประเมินค่าไม่ได้
= เรามีคุณค่าเพราะพระองค์ไถ่เราด้วยราคาที่สูง เรามีค่าในสายพระเนตรพระเจ้า เราไม่ใช่คนไร้ค่า
อีกครั้งสำหรับคำถามสำหรับทุกคน “เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่า”
บทความนี้ อาจจะไม่ลงลึกในรายละเอียด ในเรื่องการเยียวยา ขอพระเจ้าทรงนำเรา ที่เราจะผ่านกระบวนการ ตามที่พระองค์เห็นสมควรในแต่ล่ะคน หรือตามแต่กระบวนการของแต่ละคริสตจักร และการนำของ ผู้นำ ขอบคุณพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาเมน
ชาโลม
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
Ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น