วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พูดเล่นเองน่า..ล้อเล่น

การพูดเล่น พูดแซว นินทา พูดส่อเสียดหรือเสียดสี ใครเคยประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้บ้าง ผมได้เขียนบทความเรื่องแบบนี้มามากพอสมควร แต่วันนี้อยากจะกล่าวถึงคำว่า “พูดเล่น” เป็นพิเศษ คำพูดเล่น ไม่ใช่หมายความว่า ชีวิตเราต้องจริงจังซีเรียสจนพูดอะไรแบบผ่อนคลายไม่ได้ แต่การพูดก็ต้องอยู่ภายในขอบเขต ตัวผมเองเคยพูดเล่นจนสนุกปาก โดยเรื่องที่พูดเล่นนั้น เป็นปมด้อยของคนอื่น เช่นความเตี้ย หรือความไม่สมประกอบของร่างกาย ตัวผมเองในอดีตก็บาดเจ็บกับคำพูดแบบนี้มานานแม้ภายนอกจะไม่แสดงออกและทำตัวว่าเข้มแข็ง ผมเองเป็นคนมีสีผิวที่คล้ำ หรือดำนั่นแหละ และมักถูกเอามาล้อเลียนสมัยเด็ก จนเป็นที่สนุกสนาน บางคนอาจจะพูดว่า เป็นเงาบ้าง ดำเมี่ยมบ้าง และอีกมากมาย และตบท้ายด้วยคำพูดว่า “ฉันพูดเล่น” คำคำนี้ก็เหมือนการแก้ตัวในความบาปที่ตัวเองทำออกไป มันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่นั่นคือการที่เค้ากำลังพูดถึงการทรงสร้างจากพระเจ้าที่ปั้นแต่งสร้างเราขึ้นมาด้วยความรัก พระเจ้ามีแผนการและยุตธรรมเสมอ โลกนี้มองที่ภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ หัวใจของพระเจ้า ผิวดำหรือขาวก็เท่ากัน สูงหรือเตี้ยก็เท่ากัน ฉะนั้นใครล่ะเป็นคนกำหนดว่า คนดำต้องเป็นที่เหยียดผิวไปทั่วโลก ทำไมถึงมีการดูถูกชาติกำเนิดกันว่า “ไอ้บ้านนอก” ไอ้จมูกบานมั่ง หัวเถิกหัวล้านบ้าง เคยเห็นคนประเภทนี้ที่เอาปมด้อยคนอื่นมาพูดแล้วก็ขำกันจนสนุกสนานไหม นั่นไม่ใช่เป็นหัวใจของพระเจ้า เขาเองก็เหมือนทำตัวเป็นศาลเตี้ยพิพากษาเองว่า เขาไม่โกรธหรอก มันร้ายแรงมากเลยหรือ

เอเฟซัส 5:4
ทั้งอย่าพูดหยาบคาย พูดเล่นไม่เป็นเรื่อง และพูดตลกหยาบโลนเกเร ซึ่งเป็นการไม่สมควร แต่ให้ขอบพระคุณดีกว่า

มันอาจจะรู้สึกสนุกและขำที่เราได้หัวเราะและพูดถึงปมด้อยของอื่นอย่างโจ่งแจ้ง และเราก็จะแก้ตัวด้วยคำว่า พูดเล่นนนน น่า ขำขำ ถ้าเราเคยสร้างอะไรสักอย่างขึ้นมาด้วยความตั้งใจและทุ่มเทสุดกำลัง เราตั้งใจจะให้มันดี และอยากอวดต่อคนอื่นด้วย แต่เมื่อบางคนได้เห็นและหัวเราะเยาะและขำกับงานที่เราสร้างขึ้นด้วยความจริงใจและจริงจัง ด้วยการทุ่มเท เราก็คงไม่สบอารมณ์นักหรอก พระเองก็เช่นเดียวกัน พระองค์สร้างเรามาไม่ใช่ด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่ใช่แบบนิทานที่สร้างไม่สมประกอบ แต่พระเจ้าใส่ใจในทุกอย่างที่เรามี เส้นผมทุกเส้นพระเจ้าก็นับไว้แล้วทุกเส้น พระเจ้าใส่ใจในการทรงสร้างเราขนาดนั้นเลย เราเกิดมาจากความรักของพระเจ้า พระเจ้าไม่ชอบพระทัยแน่ถ้าใครมาดูถูกการทรงสร้างของพระองค์
เอเฟซัส 2:10
เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ประกอบการดี ซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรากระทำ
สุภาษิต 18:8
ถ้อยคำของผู้กระซิบนินทาก็เหมือนชิ้นอาหารอร่อยมันล่วงเข้าไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย

มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่นิสัยเก่าๆของเราที่ติดตัวมามันยากที่เราจะดึงตัวออกมาจากการล้อเลียน
การนินทา ซุบซิบ มันเหมือนกับการอดอาหารที่เราเดินผ่านอาหารที่แสนอร่อยแล้วอยากจะลองลิ้มชิมรสของมัน เราอาจจะคิดว่าแค่ชิมนิดหน่อย แต่เมื่อชิมแล้วก็อยากจะกินมันทั้งหมด เราอดอาหารอธิษฐานมาเยอะแล้ว และเราลองถืออดอาหารคือการพูดที่ไม่ควรจะพูด ถ้าเราลองชิมมันแค่คำแรกมันก็จะพูดต่อไปเรื่อยๆ เราต้องตัดสินใจตั้งแต่ว่า จะไม่เปิดตู้กับข้าวด้วยซ้ำ

สุภาษิต 21:23,24
บุคคลที่รักษาปากและลิ้นของตน ก็รักษาตัวเขาเองให้พ้นความลำบาก
"คนมักเยาะเย้ย" เป็นชื่อของคนเย่อหยิ่งและคนจองหอง ผู้ประพฤติตัวด้วยความเย่อหยิ่งยโส

อย่าคิดว่ามันไม่เป็นอะไรที่เราจะใช้ลิ้นยังไงก็ได้ และเราก็แค่บอกว่าพูดเล่นเพื่อให้พ้นคดีความไป พระคัมภีร์ตีหน้าไว้เลยว่าคนจำพวกนี้ เป็นคนเย่อหยิ่ง ทำไมถึงเย่อหยิ่งก็เพราะว่าเขาคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น และเพียบพร้อมกว่าคนอื่นๆ ในพระคัมภีร์พวกที่ชอบซุบซิบนินทาก็คือพวกฟาริสี ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนเย่อหยิ่งคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น

สุภาษิต  18:21

ความตายความเป็น อยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน

ชีวิตเราก็เป็นเช่นต้นไม้ที่ออกผลได้ ลิ้นที่พูดก็ออกผลได้ พระคัมภีร์บันทึกว่า ต้นดีผลก็ดี ต้นเลวผลก็เลว เราก็ดูได้จากผลและต้นของมันนี่แหละว่าดีหรือไม่ดี ถ้าต้นไม่ดีก็ควรจะโดนโค่นลงเสียเพราะออกผลที่ไม่ดีไม่มีประโยชน์ NIV บอกเราว่า ลิ้นมีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย คนที่รักการพูด….จะได้กินผลของมัน

สดุดี 15:3
ผู้ซึ่งไม่ใช้ลิ้นของตนในการนินทาว่าร้าย ไม่กระทำชั่วต่อเพื่อน และไม่ด่าเพื่อนบ้านของตน
คำพูดมันก็สะท้อนถึงความสัมพันธ์ของเราเองกับพระเจ้าของเรา สิ่งที่บ่งบอกความเป็นคริสเตียนได้ดีที่สุดคือผลของชีวิต คำพูดก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่ไม่สามารถใช้ผลของการบังคับตนในเรื่องพูดได้ ไม่ระมัดระวังในการพูด พระคัมภีร์ข้างต้นบอกว่า ไม่กระทำชั่วต่อเพื่อบ้าน
กาลาเทีย 5:22-26
ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย

ผลของพระวิญญาณจะวัดความเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณของเราได้เป็นอย่างดี เรารักแต่เราทำให้เพื่อนบ้านพี่น้องเราเจ็บด้วยคำพูดเพียงความสนุกของเราและเหมาเอาเองว่า เขาไม่โกรธ มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเราไม่ได้พยายามมองหาส่วนดีของกันและกัน แต่มองหาจุดที่จะสังเวชบูชายัน ความสนุกปากของตัวเอง เราไม่รู้หรอกว่าเขามีบาดแผลอะไรมาบ้าง หรือไม่ การพูดเล่นไม่เป็นเรื่องเท่ากับเป็นการเปิดบาดแผลนั้นให้กว้างมากขึ้นไปอีก

สุภาษิต 25:23
ลมเหนือนำฝนมาฉันใด ลิ้นที่ส่อเสียด ก็นำหน้าความโกรธฉันนั้น
สิ่งที่เราพูดอาจจะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างจำนวนมาก ทำไมพระคัมภีร์เน้นเรื่องการพูดไว้มากมาย การพูด 4 ประเภทในพระคัมภีร์ สุภาษิตคือ
- ลิ้นที่สามารถควบคุมได้
คือคิดก่อนจะพูด ขอสติปัญญาจากพระเจ้าก่อนจะพูด ด้วยสติปัญญา
- ลิ้นที่มีความระมัดระวัง
พูดความจริงและระวังในการพูด พร้อมให้คำแนะนำด้วย
- ลิ้นที่มุ่งประสงค์ร้าย
คนที่พูดด้วยแรงจูงใจที่ผิด บิดเบือนความจริง เช่น ล้อเลียนปมด้อยของผู้อื่น ความจริงคือพระเจ้าสร้างเราด้วยความรัก ไม่ใช่สร้างเราผิดพลาดแล้วเหวี่ยงมาในโลก
จำงู ซานตานที่ล่อลวงเอวาได้หรือไม่ งูใช้คำพูดที่บิดเบือนความจริงไปจากสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ ลิ้นแบบนี้มัก นินทา ซุบซิบ ใส่ร้ายป้ายสี ไม่รู้ความจริงทั้งหมดก็คิดในมุมร้ายและออกผลด้วยการพูด
- ลิ้นที่ขาดความระมัดระวัง
คือ ลิ้นที่มีแต่คำโกหก คำสาปแช่ง เช่นพูดไปล่วงหน้าว่าเขาจะร้ายแบบนั้นแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนได้ แต่พระเจ้าบอกว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยพระองค์ ก่อให้เกิดการโกรธและบันดาลโทสะ เกิดความแตกแยก และนำมาซึ่งการทำลายไม่ใช่เสริมสร้างซึ่งกันและกัน
ยากอบ 3:5,6,8,10
ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆและอวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ จงดูเถิดไฟนิดเดียวอาจเผาป่าใหญ่ให้ไหม้ได้หนอ
และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกที่ไร้ธรรมในบรรดาอวัยวะของเรา เป็นเหตุให้ทั้งกายมลทินไปทำให้วัฏฏะแห่งชีวิตเผาไหม้ และมันเองก็ติดไฟโดยนรก
แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งชั่วที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย

ในยากอบบอกเราว่าแม้มันจะเล็กนิดเดียว แต่ผลของมันก็ทำให้ไฟไหม้ทั้งป่าได้ด้วยไม้ขีดเพียงก้านเดียว ยากอบย้ำอีกครั้งว่าโทษมันถึงตายเลยทีเดียว

ยากอบ 3:9-10
เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์
คำสรรเสริญและคำแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น

อีกครั้งหนึ่งนะครับ เราอาจะเห็นว่าคนประเภทนี้ทำไมถึงยังรับใช้พระเจ้าอยู่ได้ ทำไมเขารู้พระคัมภีร์มาก เขามีถ้อยคำในการอธิษฐานมาก แต่พระคัมภีร์บอกแล้วว่า นั่นไม่ได้แสดงถึงความเติบโตฝ่ายวิญญาณของเขา อย่าให้เรามีทั้งของดีและของเน่าอยู่ในปากของเราพร้อมๆกัน หรืออย่าให้มีของเน่าอยู่เลยเพราะมันจะทำให้ร่างกายป่วยมีผลถึงความตายแต่จงให้แต่ของที่มีประโยชน์อยู่ในปากของเราเท่านั้น
จะให้คำสรรเสริญ ถวายเกียนติยกย่องพระเจ้าผู้สูงสุดออกมาจากปากที่เราใช้ในการนินทาว่าร้าย ใส่ร้ายป้ายสี และพูดลับหลังคนอื่นพี่น้องของเรา หรือแต่เอาปมด้อยของเขามาล้อเลียนหรือ เราไม่ใช่แค่ดูถูกการทรงสร้างเท่านั้นเมื่อเราล้อเลียนและขำกับปมด้อยของคนอื่น แต่คำว่าการถูกสร้างมาตามพระฉายานั้น คือเราถูกสร้างมาตามแบบขององค์พระผู้สร้าง ฉะนั้นคุณกำลังขำและสนุกับปมด้อยของใครกันแน่

มัทธิว 5:11
เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข

ในพระธรรมมัทธิว ได้หนุนใจเราด้วยว่า เมื่อใดก็ตามที่เราโดนล้อเลียน โดนซุบซิบนินทา โดนใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องไม่เป็นความจริง แม้เราจะไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาใส่ร้าย แม้ว่าเราจะไม่คิดแบบที่เขาคิด แม้เราจะรับใช้ด้วยหัวใจและด้วยการถวายตัวอย่างจริงใจ แต่โดนนินทาว่าเอาหน้า หรือทำเพื่อให้คนอื่นเห็น ก็ให้เป็นสุขและมีสันติสุขเถิด เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อพระองค์ เมื่อเราต้องเผชิญสถานการณ์เหล่านี้เพราะพระองค์ก็จงเป็นสุขเถิด
เราถูกสร้างมาตามพระฉายาและความรักจากพระเจ้า ถ้าเราจะถูกล้อเลียนก็จงเป็นสุขเถิดพระเจ้าเจ้ามีแผนการสำหรับการทรงสร้างของพระองค์อย่างแน่นอน เราต้องเข้าใจว่านั่นคือเสียงที่ไม่เป็นความจริง มันคือคำพูดเท็จที่ซาตานกำลังใส่เข้ามาในเรา

เอเฟซัส 4:31
จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี กับการคิดปองร้ายทุกอย่างอยู่ห่างไกลจากท่านเถิด

โคโลสี 3:8
แต่บัดนี้ สารพัดสิ่งเหล่านี้ท่านจงเปลื้องทิ้งเสีย คือความโกรธ ความขัดเคือง การคิดปองร้าย การพูดเสียดสี คำพูดหยาบโลน

ไม่ใช่หมายความว่าเราจะพูดเล่นกันไม่ได้เลย การพูดเล่นก็คือการพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ยังมีความสนุกสนานและสันติสุขมากมาย ที่พระเจ้าประทานให้เรา มากกว่าการพูดเล่นไม่เป็นเรื่อง พูดถึงปมด้อยของคนอื่น พูดซุบซิบนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ผมเองไม่ใช่ว่าจะไม่เคยพูดเล่น ก็ยังมีเผลอไผลบ้างและบางครั้งคำพูดเล่นของผมเองก็ทำให้คนอื่น เสียใจ ทั้งที่เคยล้อเล่นบ่อยๆ แต่ทำไมครั้งนี้โกรธ และถือเป็นจริงเป็นจัง บางครั้งเราพูดจริงจังตรงๆไม่ได้ เช่นผมเคยได้ยินคนที่ล้อเลียนกันเรื่องหัวล้าน หรือไม่ค่อยมีผม ถ้าเราจะพูดว่า ไอ้หัวล้าน ทำไมคุณไม่มีผม เขาคงโกรธแน่และเราก็คงไม่กล้าพูด แต่ช่องโหว่ที่จะทำให้เรากล้าพูดออกมาคือ พูดเล่นนี่แหละ เช่น โอยทำไมมีดวงอาทิตย์สองดวงนะ เอ…ทำไมตรงนี้สว่างจัง เอ๊ะๆๆ พูดเล่นนะ แบบนี้เป็นต้น ฉันก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจะทำให้เขาเสียใจเลย

ผมรู้ว่าบางครั้งใครบางคนที่มีเพื่อนที่พูดเล่นกันได้ อาจจะไม่เห็นด้วยกันกับบทความนี้ ที่บางครั้งบางคนอาจจะคิดว่าพูดเล่นได้ไม่น่าจะเป็นอะไร ถ้าอยู่ในขอบเขต แต่ผมกำลังจะสื่อสารถึงภาพรวมของการใช้คำพูด ไม่ใช่แค่การพูดเล่นเท่านั้น แต่รวมถึงการพูดในหลายๆมุมด้วย เราอาจจะพูดแซวจนติดเป็นนิสัย พูดแซวคนอื่นไปทั่ว ทั่งรูปร่าง สีผิว การไม่สมประกอบ การแต่งตัว สำเนียง พื้นเพ ถิ่นกำเนิด พระคัมภีร์เตือนเราว่า

มีบางคนที่คำพูดพล่อยๆ ของเขาเหมือนดาบแทงแต่ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้
สุภาษิต 12:28

ถ้าเราเข้าใจในเรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณ คำพูดแซว ประโยคเดียวกัน กับคนคนเดียวกัน อาจจะทำให้เกิดอารมณ์คนแตกต่างกันได้ ในงานอธิษฐานผมผมเจอคนหนึ่งที่ชอบแซวคนอื่นประจำ เมื่อมีพี่น้องคนหนึ่งเข้ามา คนคนนี้มีบุคลิกที่ขี้เล่นใครว่าอะไรแซวอะไรก็ไม่ค่อยโกรธ แต่วันนั้นเป็นวันอธิษฐานที่มีบรรยากาศสงครามฝ่ายวิญญาณอย่างมาก เมื่อเขาจอดรถก็มีคำแซวล้อเล่นสวนมาทันทีว่า “งานจะเลิกแล้ว มาทำไมตอนนี้” ผมคงไม่กล่าวต่อนะครับว่า อารมณ์ของคนที่ถูกแซวจะเป็นอย่างไร ทั้งที่เจอปัญหามามากมายในที่ทำงานแล้วต้องรีบมาอธิษฐาน แต่พอมาเจอคำแซวก็เกิดบาดแผลขึ้นมาทันที นี่เป็นตัวอย่าง เท่านั้น

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรและช่วยเรา ขอพระวิญญาณของพระองค์ที่อยู่ในเราที่จะเตือนเราที่เราจะได้ยินเสียงคำเตือนและการทรงนำจากพระองค์ที่ตรัสจากภายในเราว่า ควรจะพูดอย่างไร ขอสติปัญญาที่มาจากพระองค์ และเมื่อเราเองกลับต้องเจอคำพูดที่แฝงด้วยการทำลาย ขอเราที่จะมีความมั่นคงและตั้งมั่นในพระองค์ หลบซ่อนอยู่ภายใต้ปีกของพระองค์ที่เราจะไม่พึ่งพาตัวเองและตอบโต้ออกไป

ขอบคุณพระเจ้า
Ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น