ใกล้สิ้นปีนี้ เคยคิดหรือไม่ว่าวันข้างหน้าเราจะเดินเช่นไร จากอุทกภัย
น้ำท่วมที่ผ่านมาหลายครอบครัว ถึงกับหมดตัว ข้าวในนา ทรัพย์สิน
หายไปกับน้ำหมด เราเองที่มีพระเจ้าเมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์
เช่นนั้นเราจะทำอย่างไร คนที่ไม่มีพระเจ้าอาจจะหันไปพึ่งพิงสิ่งยึด
เหนี่ยวรอบตัวเอามันให้หมด หรือไม่ก็ทำใจ คลำทางต่อไปในที่มืด
ครั้งหนึ่งเมื่อไฟที่บ้านผมดับ ผมไม่ได้เตรียมเทียนหรือไฟไว้เลย
เพราะไม่คิดว่ามันจะดับ แต่เมื่อมันดับ ผมก็ต้องลุกขึ้นคลำทางเดิน
ไปเดินชนโต๊ะบ้าง เตะเก้าอี้บ้าง
บางครั้งเราก็คาดหวังว่าจะเห็นวันข้างหน้าในอนาคตและเราก็จะ
ได้เตรียมพร้อมในบางสิ่งบางอย่าง แต่พระเจ้าเองก็ต้องการให้ลูก
ของพระองค์มีความไว้วางใจในพระองค์ด้วย ไม่ใช่ไว้วางใจใน
ตัวเราเอง พระองค์บอกให้เราวางใจในพระองค์ในทุกสิ่ง
เมื่อเราขับรถในตอนกลางคืน เราต้องเปิดไฟหน้ารถแม้ไฟหน้ารถ
จะไม่ทำให้เรามองเห็นทางได้ไกลมากนัก เราไม่ได้เห็นทางทั้งหมด
เหมือนตอนกลางวัน แต่เราก็ยังคงต้องมุ่งหน้าต่อไป เราไปต่อได้
เพราะไฟหน้ารถเพียงไม่กี่เมตร เราเชื่อใจในไฟหน้ารถที่กำลังนำ
เราไปแม้ว่าเราจะไม่เห็นทั้งหมด เราเองต้องการแสงสว่างที่จะทำ
ให้เราไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย
เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตของเราดูมืดมิดเราเองต้องสำรวจดูว่าเราไม่ได้
เปิดไฟหน้ารถหรือเปล่า พระวจนะของพระองค์ก็เป็นเสมือนไฟ
สว่างที่จะนำหน้าเราไป ให้พ้นจากความอับจนหนทาง ความผิดหวัง
การท้อแท้ ชีวิตที่ขมขื่น
เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่าเราอยู่ในที่มืดและกดดันสุดๆไม่รู้จะหันไป
ทางไหน แน่นอนเราก็ยังไม่ได้เปิดไฟหน้ารถของเรา เราต้องเปิด
ไฟหน้า และวางใจในแสงสว่าง วางใจในพระองค์และพระวจนะ
ของพระองค์
"พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับย่างก้าวของข้าพระองค์
เป็นแสงสว่างส่องทางของข้าพระองค์"
สดุดี 119:105
จงให้พระวจนะของพระองค์นำหน้าเราไป หนทางข้างหน้าแม้
จะมีสิ่งกีดขวาง หนทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อเราจะสามารถหลบได้
และเราจะปลอดภัย
ขอบคุณพระเจ้า เราจะไม่เดินไปด้วยตัวเองในความมืดด้วยความ
กลัวและไปอย่างสะเปะสะปะ แต่เราไปจะด้วยพระวจนะที่เราจะไม่
สะเปะสะปะในความมืด
ลูกา 1:79
บอกเราว่า "เพราะโดยพระเมตตาอันอ่อนโยนของพระเจ้า
ของเรารุ่งอรุณจากฟ้าสวรรค์จึงมาเยือนเรา ส่องสว่างแก่
ผู้อยู่ในความมืดและในเงาของความตาย เพื่อนำย่างเท้า
ของเราสู่ทางแห่งสันติสุข"
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น