วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จะบ่นไปทำไม


เมื่อสมัยที่ผมยังเด็กนั้นผมเคยมีความคิดว่า การที่เราบ่นสิ่งรอบข้างเราที่เราไม่ถูกใจนั้น ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผิด เพราะหลายสิ่งหลายอย่างก็ไม่ถูกใจเราเสมอไป ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์เราอาจจะได้รับคำตอบบ้างก็ได้ว่าใน

ช่วงเวลาที่อิสราเอลได้อพยพออกมาจากอียิปต์เพื่อเข้าสู่แผ่นดินที่พระเจ้ามอบให้นั้น แต่ระหว่างทางเขาเาแต่บ่นๆและบ่น ติเตียนผู้นำและโทษสิ่งรอบข้าง และต่อว่าพระเจ้า ผลที่ตามมาคือเขาไม่ได้เข้าสู่แผ่นดินที่พระ

เจ้าสัญญาในชนรุ่นนั้น และชนรุ่นหลังที่ได้เข้าก็รวมเวลาถึง 40 ปีแทนที่จะใช้เวาแค่ 11 วัน

หลายครั้งคริสเตียนก็เป็นแบบนั้นด้วย ที่เริ่มบ่นหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัว เอาระบบของโลกมาใช้ในคริสตจักร เอาวิถีของภายนอกมาปะปนกับวิถีของคำสอนของพระเจ้า ใช้เหตุผลและทฤษฎีของโลกมาเป็นตัวควบคุม

ความคิด บางคนชอบพูดว่า เซ็งจริงๆเลย โคตรเซ็งเลย รถติดจริงๆ ที่จอดก็ไม่มี เบื่อว่ะ หรือเบื่อนิสัยคนคนนั้นจัง ไม่ชอบคนคนนั้นเลย ทำไมเขาทำแบบนั้น ทำไมเขาเป็นแบบนี้ โคตรเกลียดเลยนิสัยแบบนี้ หรือไม่ชอบ

แม้ค้าร้านนั้นเลย และอีกมากมาย คำถามคือพระเจ้าได้สร้างเราและเรียกเรามาให้เราเกลียดสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า พระเจ้าพระองค์ประสงค์ให้เราเกลียดสิ่งเดียวกับพระองค์สิ่งเดียวคือความบาปเท่านั้น

พระเจ้าสอนเราและประสงค์ให้เรามีความรัก ไม่ใช่คำบ่นรอบด้าน 360 องศา ถ้าเราเองปรารถนาจะมีชีวิตที่บริสุทธิ์เราต้องกรองเอาสิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิต น้ำสะอาดแก้วหนึ่งแม้หยดสีดำลงไปเพียงหนึ่งหยดก็คือ

น้ำไม่สะอาด เราต้องกรองมันออกไปเพื่อเราจะมีชีวิตที่สำแดงพระเยซูคริสต์

อย่าให้เรามีปากเป็นกรรไกรตลอดทั้งวันที่จะตื่นมาทำอาหารและบ่นถึงคนที่ไม่ช่วยทำอาหารหรืองานบ้าน เมื่อเดินทางมาถึงคริสตจักรก็บ่นเรื่องงานที่บ้านให้คนอื่นฟัง บ่นเรื่องรถที่ติด เมื่อถึงเวลารับใช้ก็บ่นและติถึง

อุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหาย และบ่นว่าคนนั้นคนนี้ทำเสียหลังการรับใช้ก็บ่นถึงคนที่ทำอะไรไม่ถูกใจเราไปซะหมด บ่นย้อนไปถึงอดีตด้วยซ้ำยืดยาว สาธยายไปสารพัด เอาล่ะพอจะรับประทานอาหาร ก็ไม่วายติเรื่องอาหารไม่ดี

แบบนั้นแบบนี้ เพราะสายตาฝ่ายวิญญาณที่สอดส่องและจ้องที่จะคอยจับผิดซึ่งกันและกัน เพ่อแย่งชิงเราออกมาแทนที่เราจะขอบพระคุณในทุกกรณี พระเจ้าให้เราขอบพระคุณพระองค์ในทุกๆกรณี
1 เธสะโลนิกา 5:17,18
"จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฎอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย"

เราอาจจะอยากตอบโต้คนแบบนี้แต่พระเจ้าให้เราอธิษฐานเพื่อพวกเขา พวกเขาเป็นคนที่น่าสงสารที่ถูกหลอกให้ตัวเองดูดีและสมบูรณ์แบบ อย่าโต้เถียงด้วยวิญญาณแบบเดียวกับเขา เพราะเท่ากับว่าทำให้เขาทำบาป

เพิ่มขึ้นไปอีก เขามีแต่วิญญาณที่ติเตียนและตัวเองเป็นศูนย์กลางที่ถูกต้องเสมอและไม่เคยผิด

เปาโลบอกเราว่าในเมื่อใจของเราบริสุทธิ์แล้วทุกสิ่งก็บริสุทธิ์ มัทธิว 5:8 บอกเราว่า
"บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุขเพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า"

เพลงที่เราร้องว่าอยากจะพบพระองค์ แต่ถ้าเรายังมีใจที่ติเตียนและบ่น ก็คือไม่บริสุทธิ์เราจะพบกับอะไรแทนพระเจ้าล่ะครับ ถ้าพระคัมภีร์บันทึกว่าพระองค์ทรงบ่นว่าสาวกหรือบ่นอะไรที่ไม่ถูกใจ พระคัมภีร์เล่มนี้คงไม่ใช่

ความจริงของพระเจ้า หลายคนกำลังถูกซาตานหลอกให้อยู่ในความเกลียดชัง ให้พบกับปัญหาเพื่อเราจะบ่นและตกหลุมพลาง เมื่อใดที่อากาศร้อน แทนที่จะพูดว่า ร้อนชิบหา...ย หรือโคตรร้อนเลย แต่จงแทนที่ด้วย

การขอบพระคุณพระเจ้า การขอบพระคุณแบบสวนกระแสนี้ไม่ใช่การประชดพระเจ้า แต่เป็นการแทนความคิดในสนามรบของความคิดของเรา เราขอบพระคุณที่เราไม่ต้องไปนอนใต้สะพาน หรือริมถนน เราขอบพระคุณ

ที่เรามีบ้านอยู่ และยังดีกว่าอีกหลายๆคน จงขอบพระคุณเสมอไป

ฟิลิบปี 4:6
"อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนา ของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน การวิงวอนกับการขอบพระคุณ"

ข้อ 8 บอกเราว่า แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

จงกรองเอาการบ่นและการติเตียน การพูดร้ายต่างๆออกจากชีวิตเราต้องแตกต่างจากโลกนี้และต้องลุกขึ้นส่องแสงเพื่อเป็นแสงสว่างในความมืด

ฝากด้วยพระคัมภีร์นะครับ
ฟีลิปปี 2:14   จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
ยากอบ 5:9 พี่น้องทั้งหลายจงอย่าบ่นว่ากันและกันเพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทรงพิพากษาจงดูองค์พระผู้พิพากษาทรงประทับยืนอยู่ที่ประตูแล้ว

ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

1 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ