ปัสกา เดือนของการจดจ่อความคิดและคำพูด
ในเดือนนิสานนี้ เป็นเหมือนการเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ ดังนั้นถ้อยคำเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าหากพวกเราพูดในแง่ลบในช่วงเดือนนี้ มันก็จะส่งผลกับพวกคุณต่อจากนี้ มันเป็นผลของคำพูด และมันเป็นการหว่านเมล็ดพันธ์คำพูดซึ่งจะมีผลที่เกิดขึ้นหากเราพูดแง่ลบเมล็ดพันธุ์ของด้านลบเหล่านี้ก็จะเจริญเติบโตหยั่งรากลงลึกในดิน และพวกมันก็จะดึงพวกเราให้ถอยหลัง หรือวนเวียน และไปไม่ถึงเป้าหมาย
การที่จะมีคำพูดแง่ลบ ก็มาจากความคิดแง่ลบ และความคิดแง่ลบก็มาจากป้อมที่ศัตรูตั้งขึ้นภายในความคิดของเรา
ถ้าเราคิดในแง่ลบ ชีวิตของเราก็จะเป็นแบบนั้น ซาตานเองพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อยัดเยียดความคิดที่เป็นแง่ลบให้กับเรา
แต่..เราสามารถเลือกได้ เลือกที่จะเอาหรือไม่เอา รับหรือไม่รับ และเราต้องเรียนรู้และเข้าใจว่า
ความคิดแบบไหนเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ความคิดของเราก็คือผลของมัน ความคิดออกผลได้
คิดไม่ดีผลก็เลว คิดดีผลก็ดี ความคิดนั้น ถ้าเราคิดในแง่บวก ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยความเชื่อ และความหวัง และออกผลที่ดีเป็นผลฝ่ายวิญญาณ ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย
ในเทศกาลปัสกา อิสราเอลเริ่มต้นในการอพยพออกจากอียิปต์ด้วยการชูมือ โห่ร้องอย่างผู้มีชัยชนะ
เพียงแค่ 11 วันพวกเขาก็จะถึงแผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่อุดมสมบูรณ์ที่พระเจ้าทรงประทานให้
แต่ ..!! พวกเขาวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี
กันดารวิถี 14:2-3 อิสราเอลบ่นโมเสสว่า ให้เราตายเสียที่อียิปต์ หรือในถิ่นทุรกันดารก็ดีกว่า ต้องตกเป็นเหยื่อ
ปัสกาที่จะถึงนี้ ให้เราก้าวผ่านพ้นออกมาจากถิ่นทุรกันดาร ที่มีแต่ความคิดในแง่ลบ ความสงสัย เราพร้อมจะเดินอกจากภูเขาลูกเดิมหรือไม่ ...40 ปีในถิ่นทุรกันดารมันนานพอแล้ว เวลาที่ผ่านมาเราคิดในแง่ลบๆ มานานพอหรือยัง ?
ในสวนเอเดน พระเจ้าได้ตรัสกับ อาดัม และเอวา ว่าอย่ากินผลจาก "ต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว" และเตือนว่า ถ้าพวกเขากินต้นไม้ชนิดนี้พวกเขาก็จะตาย แต่งูได้มาและหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัย (ความคิดและ พูดคำพูดในแง่ลบ) ไว้ในใจของเธอเกี่ยวกับความดีงามของพระเจ้า ว่าพระเจ้านั้นโกหก งูพูดกับเธอว่าถ้าเธอจะกินผลไม้แห่งความรู้ดีและชั่ว "เธอจะกลายเป็นผู้ปรีชาญาณเช่นเดียวกับพระผู้สร้าง เอวาจึงเชื่อตามนั้นว่าพระเจ้าได้ระงับสิ่งที่ดีไว้
ปัสกาปีนี้ คือฤดูกาลใหม่ การเริ่มใหม่ อย่าให้เราสงสัยในพระเจ้า เราเห็นแล้วว่าเมื่อเอวาสงสัยในสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสกับเธอ และเธอเริ่มเชื่อเรื่องโกหกจากซาตาน (คำพูดและความคิดในแง่ลบ) นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธุ์แห่ง "ความไม่เชื่อ" เมล็ดพันธุ์นี้ได้เติบโตขึ้นมาในหัวใจของเอวาอย่างรวดเร็วและเธอได้กลายเป็นรูปเคารพกับตัวเอง (เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง) พระเจ้านั้นได้ถูกขับออกจากการครอบครองบัลลังก์ภายในเธอและตัวเธอเองได้วางตังเอง ขึ้นนั่งที่บัลลังก์นั้นแทน
เมื่ออิสราเอลเกิดความสงสัย พวกเขาเหมือนการเหยียบอยู่สองข้าง โดยที่ไม่ตัดสินใจที่จะก้าวไปต่อ แม้ได้ยินเสียงได้ยินเสียงของพระเจ้า เปโตรจมน้ำเพราะความสงสัยที่เขาละสายตาจากพระเยซูมาจดจ่อที่ ความน่ากลัวของคลื่นลมในทะเล (พระคัมภีร์ จงสั่งภูเขาให้ลอยไปในทะเลมันก็จะไป)
พระเจ้าทรงสอนให้เราเรียกสิ่งที่ไม่เคยมี ให้เกิดมีขึ้น และทรงสอนให้เราพูดคือการป่าวประกาศถ้อยคำแห่งชีวิตด้วยความเชื่อ ความหวังใจ พูดอวยพร เรียกสิ่งดีๆ ที่ยังไม่มีให้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ดังนั้น คนที่เป็นหนี้ ควรกล่าวว่า "ฉันจะหมดหนี้" และ "ฉันจะหลุดจากการเป็นหนี้" หรือ "พระเจ้าจะทรงช่วยฉันให้พ้นจากการเป็นหนี้" อาเมน คนที่ป่วย ก็ควรกล่าวว่า "ฉันหายแล้ว" หรือ "พระเจ้ารักษาฉันแล้ว" "สุขภาพฉันจะดีขึ้นทุกวัน ๆ" อาเมน
ความคิดและคำพูดในแง่บวกนั้นก็จะ “คว้าเอากระแสลม” และเปลี่ยนแปลงบรรยากาศได้
1 เปโตร 3:9 “อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้าม
จงอวยพร (คำอวยพรเป็นแง่บวก) เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านทำเช่นนั้น เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพร”
ในภาษาฮีบรู berakah หมายถึง พระพร หรือ blessing
คำพูดอวยพรในแง่บวกยังมีความหมายว่า
1. ประโยชน์ สิทธิพิเศษ ผลดี
2. ได้รับพร มีความสุขความเจริญ
3. ใจกว้าง เผื่อแผ่ เอื้อเฟื้อ โอบอ้อม กรุณา
4. ของขวัญ พรสวรรค์ (ของประทาน)
5. สันติภาพ สันติสุข ความสงบ (ชาโลม)
นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำความสะอาดและสำรวจภายในความคิด ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงเวลาของเทศกาลปัสกา (ที่เราต้องติดป้ายบนที่ดินของเราว่า ไม่มีที่ว่างสำหรับมาร) สั่งการรื้อถอน, ถอนออกไป รื้อออกไป เผาทิ้งไป หากสิ่งไหนพี่น้องได้รับการสำแดง
จงมีความคิดแง่บวก มีมุมมองแบบพระเจ้ามอง ใช้ความคิดมันอาจจะเป็นไปไม่ได้
แต่ขอให้ตาใจของท่านสว่างขึ้น มองด้วยใจที่สว่าง
** เราต้องมีความเชื่อว่าพระเจ้าจะนำเราเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ที่อัดแน่นและเต็มด้วยพระพร
แต่แน่นอนก่อนจะเข้าไปอาจะมีความกลัว ความกังวล ความไม่เชื่อ ความคิดลบ ๆ คำพูด ลบ ๆ ที่ทำให้ต้องเดินวนเวียน
อิสราเอลมีป้อมปราการที่เป็นแง่ลบที่ตกทอดมาจากชนรุ่นก่อน ที่ถูกหล่อหลอมมาในอียิปต์ ที่ปลูกฝังและหยั่งรากไว้ พระเจ้าจึงให้เขาหยุดก่อน อีกอึดใจ อย่าเข้าไปทั้ง สภาพแบบนี้ และพระเจ้าบอกว่า จงเข้าสุหนัต
** หยุดก่อนสักประเดี๋ยวเดียว !!
พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้ง(คำฮีบรู แปลว่า กลิ้งไปเสีย มีรากศัพท์เดียวกันกับกิลกาล ซึ่งแปลว่าวงกลม) ความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว” จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาล(ดูหมายเหตุ 1) จนทุกวันนี้
โยชูวา 5:9
ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ผมได้เรื่องนี้เมื่อคืนนี้ (ประมาณเที่ยงคืน) เป็นการสำแดงส่วนตัว 24.3.18
ย้อนไปใน อพยพ 12:43,48
ก่อนที่จะอพยพออกมาจากอียิปต์ พระเจ้าได้ตรัสกับโมเสส และ อาโรน ถึงระเบียบ
ของพิธีปัสกา คือห้ามชาวต่างชาติกินเนื้อลูกแกะปัสกา แต่ทาสที่ซื้อมาและเข้าสุหนัตแล้วกินได้ หรือคนต่างด้าวที่อยากร่วมปัสกา ก็ให้ผู้ชายในครัวเรือนทุกคนเข้าสุหนัต เราเห็นได้ว่า พระเจ้าสงวนสิทธิ์นี้ให้ชนชาติอิสราเอล ของพระองค์โดยเฉพาะ
เราเองจึงจำเป็นต้องมีเครื่อง หมายของพระเจ้าบนตัวเรา อพยพ 4:4-26
** เราต้องมีเครื่องหมายของพระเจ้า
แต่ในพระเยซูคริสต์เราพูดถึงการสุหนัตในฝ่ายวิญญาณ การสุหนัตหัวใจของเรา
เราเองจึงต้องมีเครื่องหมาย ของการเปลี่ยนแปลง ในชีวิตของเรา ในฐานะผู้เชื่อ
เราเองไม่ได้เข้าสุหนัตเนื้อ หนัง แต่เราต้องรับการเข้าสุหนัตจิตใจ (โคโลสี 2:11) คส. 2:11 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายได้รับการเข้าสุหนัตด้วยพิธีเข้าสุหนัตที่ไม่ได้ทำด้วยมือมนุษย์ โดยการขจัดเนื้อหนังบาปด้วยการเข้าสุหนัตจากพระคริสต์
การเข้าสุหนัตแท้ เป็นฝ่ายวิญญาณ จิตใจแทนที่จะเป็นเนื้อหนัง เราเองจะมีลักษณะการพูดจาและชีวิตที่แตกต่างออกไป
ชีวิตเราจะแสดงเครื่องหมายของ การเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาของเรากับพระเจ้า ที่เราจะเข้าสู่ปีใหม่ ฤดูกาลใหม่ และช่วงเวลาของปัสกา
ชีวิตของเราต้องแสดงเครื่อง หมายของการเปลี่ยนแปลงอย่ากลัว มีด แห่งพระวจนะของพระเจ้าขณะที่กำลังทำเครื่องหมายในชีวิตของเราตำหนิของอียิปต์ คือความบาป (เชื้อที่ต้องกำจัด) จะต้องถูกนำออกไป เมื่อพระเจ้าเฉือนบางสิ่งบางอย่างออกไป
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ ชาโลม
ktm.Emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น