วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

ปัสกา การอพยพของอิสราเอล

ปัสกา การอพยพของอิสราเอล
เมื่ออิสราเอลได้อพยพเดินทางออกมาจากอียิปต์ ในวันที่ 14 อาบีบ (เช้าหลังจากกินปัสกา) พวกเขาเดินทางด้วยการนำของเสาเพลิงในเวลากลางคืน และเสาเมฆในเวลากลางวัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นถึงการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (อพยพ 13:21-22; 14:19 และ 24)

พระเมสสิยาห์ของเราอยู่ในใจกลางของแผ่นดิน "สามวันสามคืน" (มัทธิว 12:40) ก่อนที่พระองค์จะทรงเป็นขึ้นจากความตาย และเป็นผลแรกในวันที่ 17 ของอาบีบ นี่เป็นภาพของอิสราเอลที่เดินทางไปได้สามวัน (กันดารวิถี 33: 3-8)
จนเมื่อพวกเขาเดินทางมาจนถึงทะเลแดง ทะเลแดงเป็นภาพของ "ชัยชนะเหนือความตาย" เช่นเดียวกับพระเมสสิยาห์ของเรา "ได้กลืนความตายด้วยชัยชนะ" (1 โครินธ์ 15: 54-55) เมื่อพระองค์ทรงเป์นขึ้นมาจากความตายเป็นผลแรก

เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงที่ทะเลแดงนั้นยังเป็นสัญลักษณ์ถึงการแช่ (บัพติศมา) อิสราเอลได้ "ข้าม" จากความตายไปสู่ชีวิต จากการเป็นทาสไปสู่อิสระภาพ แต่ในทางตรงกันข้าม อียิปต์กลับถูกทำลายลงในทะเลแดง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในพันธสัญญาใหม่เมื่อพระเยซูถุกตอกตรึงที่ไม้กางเขน พระเมสสิยาห์ของเราได้ทำลาย พลังแห่งความตายความบาปบนไม้กางเขนเช่นเดียวกับที่พระยาห์เวห์ ได้ทำลายชาวอียิปต์ในทะเลแดง!

พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้นำพวกเขาในรูปแบบของเสาเมฆและเสาเพลิง และเลือดของชาวอียิปต์ได้จ่ายราคาเพื่ออิสรภาพของพวกเขาเมื่อจมลงไปในน้ำ ในที่นี้เราเห็นถึงสามองค์ประกอบคือ
- วิญญาณ
- น้ำ
- และเลือด

เมื่อพระเมสสิยาห์ของเราได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนั้น ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดและแยกออกจากกัน เช่นเดียวกับทะเลแดง! ม่านในพระวิหารที่แยกมนุษย์ออกจากพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ ถูกฉีกขาดออกเป็นสองส่วน (มัทธิว 27:51, มาระโก 15:35, ลูกา 23:45) ตามคำสั่งของเมลคีเซเดคที่เข้าถึงพระบิดาในสวรรค์เพื่อให้เราสามารถเข้ามา "กล้าหาญที่จะเข้ามาต่อพระที่นั่งแห่งพระคุณ"

ฮบ. 4:16 ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้องการ

ในเรื่องอุปมา บุตรน้อยที่หลงหาย ในลูกา 15 เมื่อบุตรน้อยได้กลับสู่บ้านของเขาหลังจากการกลับใจและได้รับการตักเตือนถึงความผิดบาปของเขา เขาได้รับการลบด้วยเลือดของลูกวัวอ้วนพี ทำไมต้องเป็นลูกวัวแต่ไม่เป็นแกะ ? เพราะว่าลูกวัวแดงเป้นสัญลักษณ์ของบ้านเอฟราอิม (บุตรชายคนเล็ก) คุณเห็นอัครสาวกของเรากินแกะปัสกาในเย็นวันแรกของเทศกาลปัสกา (กับยูดาห์) แต่ในเย็นวันถัดไปของเทศกาลปัสกาเขาเป็นวัวแดงเพื่อทำความสะอาดบ้านเอฟราอิม!

เป็นเครื่องบูชายัญเดียวที่ทำนอกเมืองกรุงเยรูซาเล็ม (กันดารวิถี 19) เมื่อบุตรน้อยหลงหายซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก เป็นเรื่องราวที่ซ่อนการชำระด้วยโลหิตจากความบาปผิดของเขา และเขาได้รับแหวนบนนิ้วและเครื่องนุ่งห่ม นี่เป็นสัญลักษณ์ของแหวนมั่นและชุดแต่งงาน

สิ่งที่เราเห็นในที่นี้คือทะเลแดงเป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละของพระเมสสิยาห์ มันประกอบด้วยสององค์ประกอบของข้อตกลง (เลือดและน้ำ) อิสราเอลก็ได้รับการหมั้นจากพระยาห์เวห์ในช่วงเวลาปัสกานี้ด้วยเช่นเดียวกัน

ท่านที่รัก หมายความว่าพระเยซูคริสต์ของเราต้องกินปัสกาในคืนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมกับเจ้าสาวในอนาคตของเขา! ในแบบประเพณีโบราณของชาวฮีบรู,ดั่งตราประทับที่ทั้งคู่มีส่วนร่วมในมื้ออาหารและถ้วยไวน์ จากนั้นเจ้าบ่าวก็หายตัวไปจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน เพื่อที่ในอนาคตเขาจะได้สร้างบ้านสำหรับเจ้าสาวของตนบนที่ดินของบิดา จากนั้นเขาก็บอกกับคู่หมั้นของเขา:

ยน. 14:2 ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยู่มากมาย ถ้าไม่มีเราคงบอกท่านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับพวกท่าน
ยน. 14:3 เมื่อเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนพวกท่านจะได้อยู่ที่นั่นด้วย

สำหรับชนชาติแห่งอิสราเอลผู้ได้กลับสัตย์ เยเรมีย์ 3: 8  พระองค์สัญญาว่าจะกลับมาหมั้นหมายกับเธอ ลองดูใน โฮเชยา 2: 19-20:
ยรม. 3:8 เราเห็นว่าเพราะการล่วงประเวณีทั้งสิ้นของอิสราเอลผู้กลับสัตย์ เราจึงไล่เธอไปพร้อมกับให้หนังสือหย่า แต่ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศนั้นก็ไม่กลัว เธอกลับไปเล่นชู้ด้วย

ฮชย. 2:19 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราเป็นนิตย์ เออ เราจะหมั้นเจ้าไว้ด้วยความชอบธรรม ความยุติธรรม ความรักมั่นคงและความกรุณา
ฮชย. 2:20 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราด้วยความสัตย์ซื่อ และเจ้าจะรู้จักพระยาห์เวห์

ในตอนนี้คุณจะได้เห็น พระเมสสิยาห์ของเราเป็นภาพให้เราเห็นถึงทั้งสอง คือแกะปัสกา และ ลูกวัวแดง เพื่อนำทั้งสองบ้านกลับมารวมกันอีกครั้ง!

นั่นคือเหตุผลที่พระองค์กินแกะปัสกาด้วยขนมปังและเหล้าองุ่นสำหรับการหมั้น พระองค์ได้ประทับตราการหมั้นในวันต่อมาเมื่อได้ถวายตัวเองเป็นการถวายบูชาทั้งลูกแกะและวัวแดง ถ้าพระคริสต์ไม่ได้กินปัสกาพระองค์ก็ไม่ได้เข้าพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการกับเจ้าสาวในอนาคตของพระองค์!

ในประเพณีแต่งงานของชาวฮีบรูโบราณเจ้าบ่าวจะพาเจ้าสาวไปที่ห้อง (เรียกว่า chuppah ในภาษาฮีบรู) และพวกเขาก็จะแต่งงานกัน "เพื่อนของเจ้าบ่าว" จะยืนอยู่นอกประตูและฟัง "เสียงของเจ้าบ่าว" เมื่อเขาได้ยินว่าเจ้าบ่าวได้กับเจ้าสาวของเขาแล้วความสุขของเขาก็จะเสร็จสมบูรณ์ นี่คือบทบาทของยอห์น (โยคานัน) หรือยอห์นแบ๊บติส ผู้ที่ถูกเรียกว่า "เพื่อนของเจ้าบ่าว"
ยน. 3:29 ท่านที่มีเจ้าสาวนั่นแหละคือเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนฟังเจ้าบ่าวก็ชื่นชมยินดีอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว เพราะฉะนั้นความปีติยินดีของข้าพเจ้าจึงเต็มเปี่ยม

ในตอนนี้เอง ถ้าพบว่าเจ้าสาวไม่ได้เป็นหญิงพรหมจารีตามกฎหมายของ โทราห์เจ้าบ่าวก็จะหย่านาง (เฉลยธรรมบัญญัติ 24) แต่ถ้าเขาตัดสินใจว่าเขารักเธอเขาจะฆ่าลูกแกะและจากนั้นเขาจะทาเลือดของลูกแกะไว้บนที่นอน จากนั้นเขาก็จะนำมันออกไปข้างนอกให้กับแขกที่มาร่วมงานแต่งงาน เพื่อที่จะแสดงเลือดที่ติดอยู่กับที่นอนนั้นให้กับฝูงชนได้ดู แขกที่มาร่วมงานก็เชื่อว่าเลือดนั้นเป็นของเจ้าสาว

นี่เป็นวิธีที่เจ้าบ่าวได้ปิดความบาปที่น่าละอายของเจ้าสาวที่เป็นที่รักของเขา อิสราเอลที่เคยเล่นชู้ถือได้ว่าเป็นเจ้าสาวที่เป็นหญิงที่ไม่พรหมจารี ตอนนี้เองอิสราเอลได้รับการทำความสะอาดเธอด้วยเลือดของลูกแกะ และะรื้อฟื้นพันธสัญญาใหม่กับเธอ!

ชาโลม

ktm.Emunah

ที่มา http://doubleportioninheritance.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น