ปัสกา เดือนของความคิดและคำพูด
ในเดือนนิสานนี้ ถ้อยคำที่ออกจากปากของเราเป็นสิ่งที่สำคัญ
ถ้าหากพวกเราพูดในแง่ลบในช่วงเดือนนี้
มันก็จะส่งผลที่เป็นศัตรูกับพวกคุณไปถึง 3-4 เดือนต่อจากนี้
มันเป็นการหว่านเมล็ดพันธ์คำพูดซึ่งจะมีผลที่เกิดขึ้น
หากคุณพูดแง่ลบเมล็ดพันธุ์ของด้านลบเหล่านี้ก็จะหยั่งรากลงลึก
และพวกมันก็จะดึงพวกคุณให้ถอยหลังการที่จะมีคำพูดแง่ลบ ก็มาจากความคิดแง่ลบ และความคิดแง่ลบก็มาจากป้อมที่ศัตรูตั้งขึ้นภายในความคิดของเรา ถ้าเราคิดในแง่ลบ ชีวิตของเราก็จะเป็นแบบนั้น ซาตานเองพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อยัดเยียดความคิดที่เป็นแง่ลบให้กับเรา แต่..เราสามารถเลือกได้ เลือกที่จะเอาหรือไม่เอา รับหรือไม่รับ และเราต้องเรียนรู้และเข้าใจว่า ความคิดแบบไหนเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ความคิดของเราก็คือผลของมัน ความคิดออกผลได้ คิดไม่ดีผลก็เลว คิดดีผลก็ดี ความคิดนั้น ถ้าเราคิดในแง่บวก ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยความเชื่อ และความหวัง
ในเทศกาลปัสกา อิสราเอลเริ่มต้นในการอพยพออกจากอียิปต์ด้วยการชูมือ โห่ร้องอย่างผู้มีชัยชนะ เพียงแค่ 11 วันพวกเขาก็จะถึงแผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่อุดมสมบูรณ์ที่พระเจ้าทรงประทานให้ แต่ ..!! พวกเขาวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี
ให้เราก้าวผ่านพ้นออกมาจากถิ่นทุรกันดารที่มีแต่ความคิดในแง่ลบ เราพร้อมจะเดินอกจากภูเขาลูกเดิมหรือไม่ ...40 ปีในถิ่นทุรกันดารมันนานพอแล้ว เวลาที่ผ่านมาเราคิดในแง่ลบๆ มานานพอหรือยัง ?
พระเจ้าได้ตรัสกับ อาดัม และเอวา ว่าอย่ากินผลจาก "ต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว" และเตือนว่า ถ้าพวกเขากินต้นไม้ชนิดนี้พวกเขาก็จะตาย แต่งูได้มาและหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัย (ความคิดและ คำพูดในแง่ลบ) ไว้ในใจของเธอเกี่ยวกับความดีงามของพระเจ้า ว่าพระเจ้านั้นโกหก งูพูดกับเธอว่าถ้าเธอจะกินผลไม้แห่งความรู้ดีและชั่ว "เธอจะกลายเป็นผู้ทรงปรีชาญาณเช่นเดียวกับพระผู้สร้าง เอวาจึงเชื่อว่าพระเจ้าได้ระงับสิ่งที่ดีไว้
ปัสกาปีนี้ คือฤดูกาลใหม่ การเริ่มใหม่ อย่าให้เราสงสัยในพระเจ้า เราเห็นแล้วว่าเมื่อเอวาสงสัยในสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสกับเธอ และเธอเริ่มเชื่อเรื่องโกหกจากซาตาน (คำพูดและความคิดในแง่ลบ) นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธุ์แห่ง "ความไม่เชื่อ" เมล็ดพันธุ์นี้ได้เติบโตขึ้นมาในหัวใจของเอวาอย่างรวดเร็วและเธอได้กลายเป็นรูปเคารพกับตัวเอง (เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง) พระเจ้านั้นได้ถูกขับออกจากการครอบครองบัลลังก์ภายในเธอและตัวเธอเองได้วางตังเอง ขึ้นนั่งที่บัลลังก์นั้นแทน
พระเจ้าทรงสอนให้เราเรียกสิ่งที่ไม่เคยมี ให้เกิดมีขึ้น และทรงสอนให้เราพูดคือการป่าวประกาศถ้อยคำแห่งชีวิตด้วยความเชื่อ ความหวังใจ พูดอวยพร เรียกสิ่งดีๆ ที่ยังไม่มีให้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ดังนั้น คนที่เป็นหนี้ ควรกล่าวว่า "ฉันจะหมดหนี้" และ "ฉันจะหลุดจากการเป็นหนี้" หรือ "พระเจ้าจะทรงช่วยฉันให้พ้นจากการเป็นหนี้" อาเมน คนที่ป่วย ก็ควรกล่าวว่า "ฉันหายแล้ว" หรือ "พระเจ้ารักษาฉันแล้ว" "สุขภาพฉันจะดีขึ้นทุกวัน ๆ" อาเมน
จงพูดในแง่บวก
ยก. 3:10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น
สภษ. 12:18 คำพูดพล่อยๆ เหมือนดาบแทง แต่ลิ้นของคนมีปัญญานำการรักษามาให้
แต่ในทางกลับกัน การสารภาพทั้งหลายในแง่บวกนั้นก็จะ “คว้าเอากระแสลม” และเปลี่ยนแปลงบรรยากาศได้ 1 เปโตร 3:9 “อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้าม จงอวยพร เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านทำเช่นนั้น เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพร”
1 ซามูเอล 1:17 “แล้วเอลีก็ตอบว่า “จงกลับไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดประทานตามคำขอที่เจ้าได้ทูลขอจากพระองค์” 1 ซามูเอล 2:20-21 “แล้วเอลีอวยพรเอลคานาห์และภรรยาของเขากล่าวว่า “ขอพระยาห์เวห์ประทานลูกๆ แก่ท่านโดยหญิงคนนี้ แทนคนที่นางเคยทูลขอและถวายไว้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์” แล้วพวกเขาก็กลับไปยังที่อยู่ของพวกเขา และพระยาห์เวห์ทรงเยี่ยมเยียนฮันนาห์ และนางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชายสามหญิงสอง ส่วนกุมารซามูเอลก็เติบโตขึ้นเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์”)
นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำความสะอาดและสำรวจภายในความคิด ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงเวลาของเทศกาลปัสกา
ชาโลม
ktm.Emunah
ที่มา: ข้อที่ 10. จาก http://www.arise5.com/2017/03/24/nissan-4/ (เดือนนิสาน)
และ http://emunahinyeshua........com/ (ความคิดในแง่บวก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น