ทำไมต้องมีเทศกาลปัสกา
เขียนโดย ชัค ดี เพียซ และ โรเบิร์ต ไฮเลอร์ (Chuck D. Pierce and Robert Heidler)
มีหลายคนที่ได้ถามคำถามนี้ ทำไมต้องมีเทศกาลปัสกาด้วย ในหนังสือ อพยพ
12:13-14 เราอ่านว่า แต่เลือดที่บ้านที่เจ้าทั้งหลายอยู่นั้น
จะเป็นหมายสำคัญสำหรับเจ้า เมื่อเราเห็นเลือดนั้น
เราจะผ่านเว้นเจ้าทั้งหลายไป จะไม่มีภัยพิบัติบังเกิดแก่เจ้า
ขณะที่เราประหารชาว อียิปต์ “วันนี้จะเป็นวันที่ระลึกสำหรับเจ้า
ให้เจ้าทั้งหลายถือไว้เป็นเทศกาลแด่พระเจ้า ชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
เจ้าจงฉลองเทศกาลนี้และถือเป็นกฎถาวร
เมื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาใกล้เข้ามา
เราต้องระลึกไว้ว่าเทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองที่ออกแบบโดยพระเจ้า
พระเจ้าทรงประทาน เทศกาลนี้ และ งานฉลองนี้ไว้เพื่อเพิ่มพูนความเชื่อของเรา
เพื่อเตรียมเราให้เข้าสู่พระพรอันบริบูรณ์ของพระองค์
ในพระคัมภีร์เดิมพระเจ้าสั่งให้คนยิวถือเทศกาลปัสกาเพื่อสอนให้เข้าใจเรื่องความสำคัญของการไถ่ด้วยโลหิต
แต่สำหรับคริสเตียนในพระคัมภีร์ใหม่
ก็ให้จดจำและเข้าใจงานแห่งการไถ่ของพระเจ้า พระคัมภีร์บอกเราว่า “
ให้เจ้าทั้งหลายถือไว้เป็นเทศกาลแด่พระเจ้า ชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
เจ้าจงฉลองเทศกาลนี้ ….ตลอดไป
คริสเตียนมากมายไม่ตระหนักว่า เทศกาลปัสกาในพระคัมภีร์เดิมก็มีคุณค่าเท่า
กับเทศกาลต่างๆในพระคัมภีร์ใหม่เช่นกัน ตลอดทั้งพระคัมภีร์ใหม่
ที่พระเยซูและอัครทูตได้เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา
อาหารมื้อสุดท้ายฉบับดั้งเดิมก็คืออาหารมื้อปัสกานั่นเอง
อัครทูตได้สอนคริสตจักรต่างชาติให้เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา ใน 1 โครินธ์
อาจาย์เปาโลได้เขียนถึงคริสตจักรที่ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ
“พระคริสต์ผู้ทรงเป็นแกะปัสกาของพระเจ้า ได้ถูกปลงพระชนม์
ดั้งนั้นให้เราเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ “ หลายร้อยปีมาแล้ว
ที่การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาเป็นการเฉลิมฉลองที่สำคัญในรอบปีของคริสจักรยุค
แรกๆ
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เทศกาลปัสกามีความสำคัญมาก เดริก ปรินซ์
เคยกล่าวไว้ว่า “การประกาศของความเชื่อที่ทรงพลานุภาพเพื่อการปลดปล่อยคือ
"ฉันได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก
ได้รับการปลดปล่อยจากมือของศัตรู" ท่านได้กล่าวว่า
"ถ้าคุณสามารถประกาศด้วยความเชื่อและประกาศต่อไปเรื่อยๆ
บางสิ่งบางอย่างจะเกิดขึ้น คุณจะได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจของศัตรู
นั่นคือสาระของเทศกาลปัสกา
การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาคือการประกาศความเชื่อว่าเราได้รับการไถ่ด้วยพระ
โลหิตของพระเมษโปดก เมื่อเราเฉลิมฉลองปัสกาก็มีผลต่อชีวิตภายในเรา
เมื่อเรามาร่วมกันระลึกถึงงานไถ่ที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
เราประกาศอำนาจของการไถ่ในชีวิตของเราวันนี้ก็จะส่งผลบางสิ่งบางอย่างต่อเรา
ด้วยเช่นกัน"
เทศกาลปัสกานั้นสำคัญสำหรับพระเจ้า แต่ซาตานเกลียดเทศกาลนี้
ศัตรูได้ทำงานอย่างขมีขมันที่จะขโมยเทศกาลปัสกาไป
ข่าวดีก็คือว่าพระเจ้ากำลังรื้อฟื้นเทศกาลปัสกา และนี่คือสงคราม
สงครามเพื่อปัสกาคือสงครามเพื่อเลือด
ซาตานต้องการหยิบยื่นศาสนาที่ปราศจากโลหิตแก่เรา
เพราะศาสนาที่ไม่มีโลหิตนั้นไม่มีฤทธ์อำนาจ ฤทธ์อำนาจอยู่ในพระโลหิต
การสงครามเพื่อเทศกาลปัสกาเกิดขึ้นบ่อยๆ
เราจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์คริสตจักร ในศตวรรษที่4
เมื่อจักรพรรดิ์คอนแสตนตินได้พยายามผสมผสานศาสนาคริสเตียนกับศาสนาต่างชาติ
หลายคนอาจจะชอบความคิดนี้
พระองค์ทรงทำให้ศาสนาคริสเตียนนั้นถูกต้องตามกฎหมาย
คุณสามารถไปคริสตจักรได้โดยไม่ต้องกลัวถูกโยนให้สิงโตกิน
และกษัตริย์คอนแสตนตินก็ไม่ถือสาถ้าคริสเตียนจะเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์
ของพระเยซู … แต่พระองค์ทรงติดใจกับเรื่องเทศกาลปัสกา
พระองค์ประสงค์ให้คริสเตียนไม่เฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ในช่วงเวลาของเทศกาลปัสกา
ที่สภาไนเซีย (ค.ศ. 325 ) พระองค์ประกาศว่า
“การอนุรักษ์การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาต้องได้รับการแก้ไข”และที่สภาไนเซีย
นี้เอง พระองค์ ได้ทำให้เทศกาลปัสกาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
และนำให้คนเฉลิมฉลองการตายและการฟื้นพระชนม์
ในวันอาทิตย์หลังจากวันพระจันทร์เต็มดวงหลังจากวันที่กลางวันและกลางคืนยาว
เท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ
ซึ่งเป็นเวลาที่เชื่อมโยงกับการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิของพระต่างด้าว
“เจ้าแม่ อิสตาร์ หรือ เป็นที่รู้จักว่า อีสเตอร์”
เจ้าแม่แห่งการเจริญพันธุ์
(นี่คือสาเหตุที่คริสตจักรทุกวันนี้เฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์
แทนเทศกาลปัสกา) พระประสงค์ของกษัตริย์คอนแสตนติน
คือเอาพระเยซูออกไปจากบริบทของเทศกาลปัสกา
สงครามยังคงดำเนินต่อไป
หลายคริสตจักรต่อต้านคำกฤษฎีกาของกษัตริย์คอนแสตนติน
ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
สงครามเรื่องเทสกาลปัสกาก็คงดำเนินต่อไปหลังจากสมัยของคอนแสตนติน เช่น
ในศตวรรษที่ 6
จักรพรรดิจัสติเนียนส่งทหารโรมันออกไปทั่งอาณาจักรเพื่อห้ามการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา
เพื่อจะลบคำสอนที่ "ผิด" เกี่ยวกับปัสกา ส่งผลให้ ผู้ชาย ผู้หญิง และ
เด็กๆ นับพันๆคนถูกฆ่าอย่างโหดร้าย เมืองทั้งเมืองถูกสังหารหมู่
เพราะปฎิเสธที่จะหยุดฉลองเทศกาลปัสกา
(สงครามเพื่อปัสกานำมาซึ่งการสูญเสียมากมาย) ความกดดันจากรัฐบาล
คริสตจักรโรมันในการลบล้างเทศกาลปัสกาให้หมดไป
ให้สังเกตว่ามีหลักข้อเชื่อบางข้อที่ต่อต้านปัสกาในสภาของคริสตจักรต่างๆ
การกล่าว คำแช่งสาป
สภาแอนติโอก (ค.ศ. 345) "ถ้าปิช้อป ผู้ปกครอง หรือมัคคนายกคนใด
กล้าเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา
หลังการประกาศนี้ให้สภาตัดสินให้เป็นบุคคลที่ถูกแช่งสาบจากคริสตจักร
สภานี้ไม่เพียงแต่ขับไล่เขาออกจากงานรับใช้
แต่จะขับไล่ทุกคนที่กล้าติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย" (คำว่า anathema หมายถึง
แช่งสาป คริสตจักรจะแช่งสาปคริสเตียนที่เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา)
สภา เลาดีเซีย (ค.ศ. 365) "ไม่อนุญาตให้รับการเฉลิมฉลองเทศกาลของชาวยิว"
สภา แอกดี ประเทศฝรั่งเศล (ค.ศ. 506) "คริสเตียนไม่ควรมีส่วนในเทศกาลของชาวยิว"
สภา เทเลโด (ศตวรรษที่ 7) "การเฉลิมฉลองเทสกาลอีสเตอร์ต้องใช้ช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในคำประกาศของไนเซีย"
สงคราม ของเทศกาลปัสกาปรากฏชัดเจนในประวัติศาสตร์คริสตจักร
สงครามต่อต้านเทศกาลปัสกาไม่ใช่เรื่องใหม่เลย
เราพบเห็นสิ่งเดียวกันนี้ในพระคัมภีร์ ซาตานพยายามขโมยเอาเทศกาลปัสกาไป
เพราะมันรู้ว่าการเฉลิมฉลองพระโลหิตจะปลดปล่อยฤทธ์อำนาจ
ให้มองดูว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์
กษัตริย์เฮเซคียาห์ ทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระเจ้า
เขาซ่อมแซมและชำระพระวิหาร ทำลายปูชณียสถานสูง รื้อฟื้นการถวายเครื่องบูชา
และการนมัสการพระเจ้าแบบดาวิด
แล้วเฮเซคียาห์ส่งราชสารออกไปทั่วอิสราเอลและยูเดีย
เชิญเขามาฉลองเทศกาลปัสกา พระราชสารของพระองค์ไปทั่วอิสราเอลและยูเดีย
“ประชาชนอิสราเอลกลับมาหาพระเจ้า”
พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือประชากรของพระองค์
ให้เขามีใจเดียวกันที่จะทำตามพระบัญชาของกษัตริย์
ประชาชนกลุ่มใหญ่มาร่วมประชุมกันที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อการเฉลิมฉลอง
เขาได้ฆ่าลูกแกะปัสกา ฉลองเทศกาลอยู่ 7 วัน ด้วยความชื่นชมยินดียิ่งนัก
ขณะที่คนเลวีร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรี สรรเสริญ พระเจ้าทุกวัน
แล้วที่ประชุมก็เห็นพ้องต้องกันที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลอีก 7 วัน
ดังนั้นจึงมีการฉลองด้วยความรื่นเริงยินดีอีก 7 วัน
มีความยินดีเป็นอันมากในกรุงเยรูซาเล็ม
เพราะว่าตั้งแต่สมัยกษัตริย์โซโลมอนมาก็ไม่มีการเฉลิมฉลองแบบนี้ในกรุงเยรูซาเล็มเลย
ปุโรหิตและคนเลวียืนอวยพรประชาชน
และพระเจ้าทรงฟังเพราะว่าคำอธิษฐานของเขาถึงฟ้าสวรรค์ที่ประทับอันบริสุทธิ์
ของพระองค์ (อ่าน 2 พศด 29-30 และ บทต่อมา)
สิ่งเดียว กันนี้ก็เกิดในสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์เช่นกัน
โยสิยาห์ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรพระเจ้า ในรัชสมัยของพระองค์
ปีที่18 ขณะที่กำลังซ่อมแซมพระวิหาร เขาพบหนังสือม้วนในพระวิหาร
เมื่อกษัตริย์ได้ยินคำเกี่ยวกับหนังสือม้วน พระองค์ได้ฉีกฉลองพระองค์ออก
พระองค์เสด็จขึ้นไปที่พระวิหารพร้อมกับข้าราชบริพารของพระองค์
พระองค์ทรงอ่านถ้อยคำแห่งพันธสัญญาในหนังสือม้วนให้ประชาชนฟัง
แล้วประชาชนก็สาบานต่อหนังสือม้วนนั้น กษัตริย์สั่งให้ประชาชนเอารูปเคารพ
พระบาอัล รูปดวงดาวต่างๆที่กราบไห้ว ออกจากพระวิหาร
พระองค์ทรงทำลายลานส่วนที่เป็นของโสเภณีชายที่อยู่ในพระวิหาร
กษัตริย์ได้สั่งประชาชนทุกคน “ให้เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระเจ้าผู้เป็นจอม
เจ้านายของเจ้า ตามที่มีคำเขียนไว้ในหนังสือม้วน” ในปีที่ 18
ในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ เทศกาลปัสกาได้เฉลิมฉลองในกรุงเยรูซาเล็ม
ซึ่งไม่เหมือนสมัยของผู้วินิฉัยที่ได้นำประชาชนอิสราเอล หรือ
ตลอดสมัยของกษัตริย์อิสราเอลและยูดาห์
ที่ได้มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาแบบนี้ (อ่าน 2 พกษ. 22-23 และ ต่อไป)
เราเห็นแบบแผนในพระคัมภีร์จากพระธรรมสองตอนนี้ที่คนของพระเจ้าได้เดินออกห่าง
จากพระเจ้าสู่การไห้วรูปเคารพ พระพรของพระเจ้าก็หายไป
แล้วเขาก็กลับมาหาพระเจ้าและแสวงหาพระองค์
และสิ่งแรกที่พระเจ้าทรงทำคือรื้อฟื้นเทศกาลปัสกา
ขณะที่เขาหันจากการไหว้รูปเคารพของคนต่างชาติ กลับมาสู่การเฉลิมฉลองปัสกา
เขาก็ได้รับการรื้อฟื้นกลับมาหาพระเจ้า
มีประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความยินดีและพระพร
ช่างเป็นแบบแผนที่น่าสนใจยิ่งนัก
ครั้งแล้วครั้งเล่าในพระคัมภีร์เราพบว่าเทศกาลปัสกาได้สูญหายไป
แม้แต่ในยุคสมัยของพระคัมภีร์เดิมและแม้แต่ท่ามกลางชาวยิว
คนรุ่นหนึ่งมีชีวิตและตายไปโดยปราศจากการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาเลย
ทำไมเทศกาลปัสกาได้สูญหายไป ก็เพราะว่าซาตานได้ขโมยมันไป
ซาตานต้องการขโมยเทศกาลปัสกาไป และเมื่อคนรุ่นใหม่ได้กลับมาหาพระเจ้า
และเริ่มที่จะอ่านพระคัมภีร์ เขาอ่านพบเทศกาลปัสกาเป็นครั้งแรก
เขารู้สึกประหลาดใจ กล่าวว่า “เราไม่เคยทำมาก่อน”
(นี่คือสิ่งที่เราพบในคริสตจักรทุกวันนี้)
แต่เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เคลื่อนในหัวใจของเขา
เขาก็เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งการไถ่ของพระเจ้า ฤทธานุภาพของพระเจ้า
แล้วความชื่นชมยินดีก็ได้รับการรื้อฟื้นกลับมา
ทำไมซาตานถึงเกลียดเทศกาลปัสกานัก?
ซาตานเกลียดเทศกาลปัสกาเพราะปัสกาคือการเฉลิมฉลองพระเยซู
เมื่อคริสตจักรได้ทอดทิ้งเทศกาลปัสกา
ก็ได้คิดวิธีการเฉลิมฉลองพระเยซูแบบอื่นขึ้นมา
นั่นคือสาเหตุที่มีการเลื่อนเวลาการเฉลิมฉลองคริสตมาสและอีสเตอร์
การเฉลิมฉลองพระเยซูในวันอื่นๆก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีแต่อย่างใด
(เพราะว่าเป็นการดีเสมอที่จะเฉลิมฉลองพระเยซู)
แต่การเฉลิมฉลองของพระเยซูที่พระเจ้าประทานให้เราเรียกว่าเทศกาลปัสกา
พระคัมภีร์ใหม่ พูดกับเราว่า พระเยซูคือลูกแกะปัสกา
เมื่อยอนห์บัพติโตได้แนะนำพระเยซู ท่านได้เรียกพระองค์ว่า “ดูเถิด
พระเมษโปดก (ลูกแกะ)” อาจารย์เปาโลได้กล่าวว่า
พระคริสต์ทรงเป็นลูกแกะปัสกาของพระเจ้าที่ถูกประหาร
การเฉลิมฉลองเทศกาลปัศกาคือการเฉลิมฉลองพระเยซู ในฐานะลูกแกะปัสกา
พระองค์ได้หลั่งโลหิตของพระองค์เพื่อไถ่เราจากศัตรู
เมื่อพระโลหิตของพระองค์ทาที่วงกบประตูของชีวิตคุณ
พระเจ้าทรงปลดปล่อยคุณจากทูตมรณะ ดังนั้น เมื่อคุณเข้าใจเทศกาลปัสกา
คุณก็จะเข้าใจโดยอัตโนมัติว่าพระเยซูได้ทำอะไรเพื่อคุณ
เมื่อเดิมนั้น ในคืนวันปัสกาทุกสิ่งได้ชี้ไปที่พระเยซู
คุณพ่อชาวยิวทุกคนถูกสั่งให้ยืนที่ประตูบ้านของเขาพร้อมกับอ่างใส่เลือดแกะ
เขาต้องเอาใบหุสบมาจุ่มลงในเลือดแล้วทาเลือดที่ทั้งสองข้างของวงกบประตู
แล้วให้ทาเลือดอีกที่ด้านบนของวงกบประตู
ถ้าคุณจะจินตนาการท่าการเคลื่อนไหวที่เขาจุ่มกิ่งหุสบลงในอ่างแล้วทาเลือด
คุณจะพบว่าเขากำลังทำเครื่องหมายของไม้กางเขน
คืนปัสกา คุณพ่อชาวยิวทุกคนได้ทำเครื่องหมายของไม้กางเขนด้วยเลือดแกะ
ส่งผลให้ครอบครัวมีประสบกาณ์กับการไถ่จากอำนาจศัตรู
การปลดปล่อยของพระเจ้ามักจะมาทางไม้กางเขนและพระโลหิตของพระองค์
และนี่ก็คือสิ่งที่เทศกาลปัสกาเฉลิมฉลอง
คุณเห็นไหมว่าการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูในเทศกาลปัสกานั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ
พระเจ้าทรงสามารถให้พระเยซูสิ้นพระชนม์เวลาไหนของปีก็ได้
แต่ว่าเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ให้พระองค์สิ้นพระชนม์ในเวลาปัสกา
เพื่อเราจะระลึกได้ว่าพระองค์คือพระเมษโปดกของพระเจ้า (ลูกแกะปัสกา)
เทศกาลปัสกานั้นมีความสำคัญต่อพระเจ้า
พระองค์ทรงเลือกให้เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์
(การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู) เกิดขึ้นในเทศกาลปัสกา
พระเจ้าทรงสร้างความเชื่อมโยงกับการถวายเครื่องบูชาของพระเยซูกับเทศกาลปัสกา
(สิ่งนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง
เป้าหมายของกษัตริย์คอนแสตนตินก็เพื่อแยกงานการไถ่ของพระคริสต์จากเทศกาลปัสกา
ขณะที่เป้าหมายของพระเจ้าคือการเชื่อมโยงการไถ่ของพระเยซูกับเทศกาลปัสกา )
พระเจ้าต้องการให้เราคิดถึงพระเยซูในบริบทของการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา
ตารางเวลาของเทศกาลปัสกา
สิ่งที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ
ตารางเวลาของการตรึงพระเยซูกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา ตามหนังสือโทราห์
ตามเวลาของเทศกาลปัสกาแล้วเหตุการณ์ต่างๆที่เฉพาะเจาะจงได้เกิดขึ้นในเวลาที่เฉพาะเจาะจงด้วย
1. ในวันที่เจาะจง ลูกแกะปัสกาจะถูกเลือก หนังสือ อพยพบทที่ 12
ให้คำแนะนำว่า ลูกแกะปัสกาจะได้รับการเลือกในวันที่ 10 ของเดือนที่1
ในสมัยของพระเยซูลูกแกะจากเมืองเบ็ธเลเฮม ได้รับการคัดเลือกเป็นลูกแกะปัสกา
ลูกแกะที่เกิดเมืองเบ็ธเลเฮมได้ถูกเลือกและนำมาที่กรุงเยรูซาเล็ม
มาจากทางตะวันออก (ลงมาทางภูเขามะกอกเทศ) เข้าไปในเมืองผ่านทางประตูแกะ
ในวันที่ 10 ของเดือนแรก
พระเยซูลูกแกะที่เกิดเมืองเบ็ธเลเฮ็มเสด็จลงมาที่ภูเขามะกอกเทศและเสด็จเข้า
กรุงเยรูซาเล็มโดยผ่านทางประตูแกะ (เรียกว่า การเสด็จเข้าเมืองด้วยชัยชนะ)
ขณะที่พระองค์ได้เสด็จเข้าเมือง ประชาชนโบกกิ่งใบตาลและร้องตะโกนว่า
“ขอให้ผู้ที่เสด็จมาในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ บุตรดาวิด
ของทรงช่วยเราให้รอด” โดยการประกาศของมวลชน
พระเยซูได้ถูกกำหนดเป็นพระเมสิยาห์ของอิสราเอล
ฝูงชนได้เลือกแกะปัสกาสำหรับพวกเขาเอง
2. ลูกแกะจะถูกตรวจสอบ หนังสือโทราห์ได้ให้คำแนะนำว่า
เมื่อได้คัดเลือกลูกแกะแล้วจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีตำหนิหรือไม่
ลูกแกะที่สมบูรณ์และไม่มีตำหนิด่างพร้อยเท่านั้นที่เหมาะสมสำหรับปัสกา
เมื่อพระองค์มาถึงเยรูซาเล็มพระองค์เสด็จไปที่พระวิหารเพื่อที่จะสอน
และที่นั่นเองที่พวกฟารีสี สะดูสี พวกเฮโรดและครูสอนธรรมบัญญัติมาหาพระองค์
แล้วแต่ละกลุ่มก็ตั้งคำถามที่ยากเพื่อวางกับดักพระองค์
ที่จริงแล้วพวกเขาคาดหวังที่จะจับผิดพระองค์
เพื่อเป็นข้ออ้างว่าพระองค์ไม่สมควรเป็นพระเมสิยาห์
แต่ก็ไม่มีใครจับผิดพระองค์ได้เพราะพระองค์ทรงปราศจากตำหนิ
3. เชื้อขนมปัง (ความไม่บริสุทธิ์) ต้องถูกเอาออกไป
หนังสือโทราห์ให้คำแนะนำว่า ก่อนเทศกาลทุกต้องเอาเชื้อขนมออกไปจากบ้านเรือน
บรรดาคุณแม่จะใช้เทียนส่องหาและเอาเชื้อขนมออกไปจากบ้านของเธอ
กฎเกณฑ์นี้ยังคงรักษาไว้จนทุกวันนี้
เทศกาลปัสกาเป็นเวลาที่จะทำความสะอาดบ้านทุกหลัง
ครอบครัวชาวยิวที่อนุรักษ์นิยมจะทำความสะอาดบ้านของเขาก่อนปัสกา
ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความไม่บริสุทธิ์ต้องถูกเอาออกไปจากบ้าน
เมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มพระองค์ไปที่พระวิหารและขับไล่คนแลกเงินออกไป
พระองค์ทรงทำตามคำสอนในพระคัมภีร์ในการเตรียมปัสกา
ด้วยการชำระพระนิเวศน์ของพระบิดาของพระองค์
4. ลูกแกะถูกนำไปที่แท่นบูชาในที่สาธารณะ เช้าวันที่ 14 ของเดือนแรก
เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมให้พร้อมแล้ว ลูกแกะถูกวางบนแท่นบูชา เวลา 9 โมงเช้า
ลูกแกะจะถูกมัดบนแท่นบูชาซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนจะเห็น ในเช้าวันที่ 14
ของเดือนแรกเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วพระเยซูทรงถูกนำไปที่ไม้กางเขน เวลา 9
โมงเช้าวันนั้น เหมือนอย่างที่ลูกแกะถูกมัดบนแท่นบูชา
พระเยซูก็ถูกตรึงบนไม้กางเขนต่อหน้าสาธารณชน
5. ลูกแกะถูกประหาร ณ เวลาที่กำหนดอย่างเจาะจง
เวลาบ่ายสามโมงมหาปุโรหิตเสด็จไปที่แท่นบูชา
ขณะที่ปุโรหิตอีกคนหนึ่งได้เป่าโชฟาร์ที่บนกำแพงพระวิหาร
มหาปุโรหิตได้เชือดคอลูกแกะปัสกา ประกาศว่า “สำเร็จแล้ว” ตอนบ่ายสามโมง
วันอันบริสุทธิ์นั้น ณ จังหวะที่ลูกแกะปัสกาถูกฆ่า
พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์
ในภาษากรีก คำว่า "สำเร็จแล้ว"(เทเลลิสเทีย) หมายถึง "ได้ชำระหนี้ครบแล้ว"
การเฉลิมฉลอง ของพระเยซู
คุณเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่า
วิธีการที่พระเจ้าสร้างความเชื่อมโยงพระเยซูกับเทศกาลปัสกาเข้าด้วยกันเป็นอย่างไร
ไม่ใช่เรื่องประหลาดใจเลยที่ยอห์นได้กล่าวว่า “ดูเถิด
พระเมษโปดกของพระเจ้า” และไม่น่าประหลาดใจเลยที่อาจารย์เปาโลเขียนว่า
“ลูกแกะปัสกาที่ถูกประหาร”
ความหมายของเทศกาลปัสกานั้นเกี่ยวกับพระเยซูทั้งสิ้น
แล้วคุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าเทศกาลปัสกานั้นเกี่ยวกับพระเยซูทั้งสิ้น
พระองค์ ทรงเสด็จมาเป็นพระเมษโปดก/ลูกแกะของพระเจ้า
พระโลหิตของพระองค์ไถ่เรา
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. ได้ผลักการพิพาษาออกไป
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. ได้หักทำลายอำนาจของศัตรู
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. เราได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการและการกดขี่
โดยพระโลหิตของพระองค์ …. เราได้รับเสรีภาพที่จะเข้าสู่พระสัญญาของพระเจ้า
ปัสกาคือการเฉลิมฉลอง “ พระเยซู”
ยิ่งคุณเข้าใจความหมายของเทศกาลปัสกามากเท่าไร
คุณก็ยิ่งซาบซึ้งในพระเยซูมากเท่านั้น ถ้าคุณไม่เข้าใจเทศกาลปัสกา
คุณก็ยากที่จะเข้าใจว่าพระเยซูได้ทรงทำอะไร ขณะที่คุณเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา
คุณกำลังประกาศถึงความเชื่อในฤทธิ์อำนาจในพระโลหิตและการไถ่ของพระองค์
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ประหลาดที่สุดในโลกที่มีการยอมรับคำหลอกลวงของซาตานว่าเทศกาลปัสกานั้นไม่ใช่ของคริสเตียน
ซาตานพยายามขโมยเทศกาลปัสกาไป
เพราะมันรู้ว่าการเฉลิมฉลองพระโลหิตจะปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจ
เมื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาถูกเอาออกไป ฤทธิ์อำนาจก็หมดไป
แต่เมื่อเทศกาลปัสกาได้รับการรื้อฟื้น ฤทธิ์อำนาจก็กลับมา
ข่าวดี ก็คือ พระเจ้ากำลังรื้อฟื้นเทศกาลปัสกา
คริสตจักรทั่วโลกกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาอีกครั้งหนึ่ง
และฤทธิ์อำนาจก็กำลังกลับมา
พวกเราขอเชิญชวนพวกคุณเฉลิมฉลองฤทธิ์อำนาจของพระโลหิตพระเยซู
พวกเราขอเชิญพวกคุณร่วมกับคริสเตียนทั่วโลกในการรื้อฟื้นเทศกาลปัสกานี้
และเชิญร่วมกับเราในการประกาศว่า
เราได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดกจากมือของศัตรู
ถ้าคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาลปัสกา และ
ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเฉลิมฉลอง ขอแนะนำให้อ่านหนังสือ
“คริสตจักรพระเมสิยาห์ลุกขึ้น (The Messianic Church Arising! )”
เขียนโดย
ดร. โรเบิตร์ ไฮเลอร์
ขอพระเจ้าอวยพร
ชัค ดี เพียซ และ โรเบิร์ต ไฮเลอร์
พันธกิจนานาชาติ กรอรี่ ออฟ ซิโอน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
คริสเตียนกับงานรับใช้เป็นอะไรที่คู่กัน เมื่อเป็นคริสเตียนเราต้องรับใช้ เราเองก็ต้องมีเป้าหมายในการรับใช้ตามของประทานทางใดทางหนึ่ง หลายคนไม...
-
YAHWEH Rapha ยาห์เวห์ ราฟา (เราเป็นพระเจ้าแพทย์ของเจ้า) สวัสดีครับพี่น้องที่รักในพระคริสต์ วันนี้เมื่อได้เข้าสู่เดือน Iyar หรือ อิยาห์...
-
การถวายผลแรก (Bikkurim) สภษ. 3:9 จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์ด้วยทรัพย์สินของเจ้า และด้วยผลแรกแห่งผลิตผลทุกอย่างของเจ้า ผลแรกใ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น