วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ขอพระองค์ทรงส่งไฟลงมา

ขอพระองค์ทรงส่งไฟลงมา
เราผู้เชื่ออาจจะเคยได้ยินคำว่า “ไฟ” ขอไฟ, ขอส่งไฟ, ขอไฟของพระองค์ลงมา ในการนมัสการ และการอธิษฐาน เราอาจจะเคยได้ยินผู้นำ ตะโกว่า “ไฟ!!” ด้วยเสียงอันดัง คำว่าไฟ ที่เราใช้กัน ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด แต่เราเข้าใจคำว่า “ไฟ” อย่างไรบ้าง ? เราต้องมีความเข้าใจ หลายคำ ไม่มีในพระคัมภีร์ แม้ไม่ผิดที่เราจะใช้ แต่เราต้องใช้และรับด้วยความเข้าใจด้วยการวินิจฉัยโดยมีพระคัมภีร์แห่งความจริงเป็นรากฐาน

เราอาจจะเคยได้ยินว่า “ขอบัพติศมาข้าด้วยไฟ” การบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟในความหมายตามบริบทของพระคัมภีร์หมายความว่าอย่างไร?

ในพระคัมภีร์ใช้ไฟเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไฟ จึงเป็นเพียงสัญลักษณ์หนึ่งของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เช่น ไฟ, ลม, น้ำมัน, นกพิราบพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
ทรงเป็นบุคคล เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว หรือที่เราเรียกว่า ตรีเอกกานุภาพ และทรงเต็มด้วยฤทธิ์อำนาจ

หลายครั้งเราเรียกร้องขอ “ไฟ” มาเผาผลาญชีวิต เพื่อจะหลอมดั่งเช่นทองคำที่บริสุทธิ์ เราขอไฟที่จะลงมาเพื่อ กำจัดความบาปในชีวิตของเราออกไป ขอไฟเพื่อจะเปลี่ยนแปลงเราใหม่ ฯลฯ บริบทเหล่านี้ไม่ได้ถูกระบุไว้ในพระคัมภีร์แต่อย่างใด

เมื่อเราตัดสินใจที่จะเชื่อและไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเสด็จเข้ามาสถิตอยู่ภายในเรา ประทับอยู่ภายในเรา และเราก็ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระองค์ เราทั้งหลายที่เชื่อในพระองค์ก็ได้รับการชำระล้างให้บังเกิดใหม่ได้รับสิทธิ์เป็นลูกของพระเจ้า ร่างกายเราเป็นวิหาร เป็นที่ประทับ ก่อนนี้ในพันธสัญญาเดิมพระเมื่อพระเจ้าทรงเสด็จมาพระองค์ต้องเสด็จเข้าสู่ พลับพลา หรือพระวิหาร ในพันธสัญญาใหม่หลังจากพระเยซูสิ้นพระชนม์และฟื้นขึ้นมา พระองค์ทรงสัญญาจะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งที่จะช่วยเราผู้ที่เชื่อในพระองค์ นั่นคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงประทับอยู่ภายในเราทั้งหลาย พระวจนะบันทึกว่า “ร่างกายของเราคือพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

1คร. 6:19 ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่า ร่างกายของพวกท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่าน ผู้ซึ่งพวกท่านได้รับจากพระเจ้า และท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง?

ในการนมัสการ เราอาจจะร้องเรียก “พระวิญญาณ” ขอให้ท่านเชื่อเถิดว่าพระวิญญาณสถิตอยู่ภายในท่านแล้ว ถ้าเราค้นในพระคัมภีร์ เราจะไม่พบเลยในบริบท ของการที่ผู้เชื่อ เชิญพระวิญญาณ ให้เสด็จมา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ พระวิญญาณประทับภายใน ไม่ได้นึกอยากไปหรืออยากมาก็มา

ทรงสัญญาจะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์
ยน. 14:15 “ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
ยน. 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป
ยน. 14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน

พระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ทรงสถิตในเราแล้วและทำงานร่วมกับพระวจนะของพระเจ้าที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ สิ่งนี้คือชีวิตที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงความคิด จิตใจช่วยให้เรามีชัยชนะต่อตัณหาและเนื้อ
พระวิญญาณจะทรงช่วยให้เราและสอนเราให้ทำตามพระวจนะของพระเจ้า

คริสเตียนที่เป็นผู้เชื่อทุกคนจึงมั่นในใจในการทรงสถิต ไม่ต้องนมัสการเพื่อให้ร้อนในการทรงสถิตก่อน แล้วผีจะอยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีผีอยู่ภายในผู้เชื่ออยู่แล้ว พระองค์ทรงเป็นปรึกษามหัศจรรย์ที่เป็นเสมือนอาจารย์ที่สอนเรา แนะนำเรา ช่วยให้เราเป็นเหมือนดั่งพระเยซู เหมือนพ่อในสวรรค์ของเรามากขึ้น ผีจะอยู่ในพระกาย อยู่ในพระวิหารของพระเจ้าได้อย่างไร

กจ. 1:8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

ลก. 3:16 ยอห์นจึงตอบเขาทั้งหลายว่า “เราให้เจ้ารับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่จะมีพระองค์หนึ่งเสด็จมาทรงมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าเราอีก ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้จะแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ

ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
ถ้อยคำนี้ ได้กล่าวก่อนเหตุการณ์ที่ห้องชั้นบน ในกิจการ บทที่ 2เมื่อตอนที่สาวกรวมตัวกัน และพวกเขาได้รับฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ไฟที่มีรูปร่างเหมือนลิ้นอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา
และพวกเขาเริ่มต้นพูดภาษาแปลก ๆ หรือภาษาอื่น ๆ

การบับติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยไฟ จะมีหมายสำคัญคือ การพูดภาษาแปลก ๆ ภาษาอื่น ๆ ไฟในอีกความหมายหนึ่งของพระคัมภีร์ คือ ฤทธิ์เดช ที่พระวิญญาณทรงประทานให้กับผู้เชื่อเพื่อการรับใช้ในพันธกิจของพระองค์โดยการออกไปทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์ “ไฟ” จึงไม่ใช่เพื่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต หรือ ขับผีออกจาก ผู้เชื่อ หรือ ชำระบาปผิด

พระวิญญาณผู้ทรงสถิตอยู่ในเรา งานของพระองค์ คือช่วยเราในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตามคำสอนและพระวจนะของพระองค์ แต่พระวิญญาณ ที่ทรงเสด็จมา "เหนือ" เรานั้นทรงมาเพื่อให้ฤทธิ์เดชกับเราในการรับใช้ และเป็นพยานฝ่ายพระคริสต์

เรารับการรักษาโรค ด้วยบาดแผลบนพระกายของพระเยซู โดยรอยแผลเฆี่ยนของพระองค์เราจึงหายดี และ ความเชื่อของเราเราขับผีได้ ก็ด้วยพระนามของพระเยซู ย้ำว่าโดยพระนามของพระเยซู ไม่ใช่การอดอาหาร ผู้เชื่อทุกคน ได้รับสิทธิอำนาจในการขับผีได้ ไม่ใช่เฉพาะบางคน หรือ คนที่มีของประทานเท่านั้น การชำระบาปเราได้รับการชำระแล้วโดยพระโลหิตพระเยซูคริสต์เมื่อเราสารภาพบาป กลับใจใหม่

ถ้าเราพลาดจากการวางมือจากผู้นำที่จะรับไฟ อย่าได้เสียดาย หรือเสียใจ อย่าได้รู้สึกผิดหวัง อย่าวิ่งหาการวางมือเพื่อจะรับไฟอย่างเดียว ส่วนตัวผมเองก็ยังรับการวางมือถ้ามีโอกาส เพียงแต่เราไม่ได้จดจ่อที่ต้องการวางมือ และออกจากห้องประชุมไปก็เป็นคนเดิม เหมือนเดิม ประพฤติเช่นเดิม เพราะไฟไม่ได้มาเพื่อจะเปลี่ยนนิสัยคนได้ การตัดสินใจเป็นของผู้เชื่อเอง แต่จงปรารถนาพระเยซู และเชื่อในพระองค์ เพราะพระองค์ต่างหากคือผู้ที่ประทาน พระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ

ลก. 3:16 ยอห์นจึงตอบเขาทั้งหลายว่า “เราให้เจ้ารับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่จะมีพระองค์หนึ่งเสด็จมาทรงมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าเราอีก ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้จะแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น