วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

คำอธิษฐานร้องทูล

คำอธิษฐานร้องทูล

สิ่งสำคัญในชีวิตของผู้เชื่อ คือพระวจนะและคำอธิษฐาน ซึ่งเปรียบเสมือนอาหารและการหายใจ เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องอธิษฐานทุก ๆ วัน เราต้องสนทนาและเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้า พูดคุยกับพระองค์ ร้องทูลกับพระองค์มากกว่าจะ บ่นกับมนุษย์ด้วยกัน คำอธิษฐานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้เชื่อ ในการดำเนินชีวิต

แต่คำอธิษฐานของเราควรเป็นอย่างไร หลายคนยึดคำอธิษฐานของผู้เชื่อในพระคัมภีร์ เพราะคำอธิษฐานหลายตอนในพระคัมภีร์ได้รับคำตอบ ผู้เชื่อบางคนจึงยึดคำอธิษฐานเหล่านั้น ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผิดทั้งหมด แต่สำคัญที่ท่าทีภายในว่าเป็นอย่างไร

คำอธิษฐานของ ซาโลมอนไม่ได้อธิษฐานในความมั่งคั่งเพราะอยากรวย อยากสุขสบาย ผู้เชื่ออาจจะอธิษฐานตามอย่างซาโลมอนเพราะหวังว่าพระเจ้าจะประทานความมั่งคั่งมาให้ จึงยกคำอธิษฐาน หรือมุมของซาโลมอนมาเพื่อที่จะมั่งคั่งร่ำรวยกระเป๋าจะตุง เหมือนอย่างซาโลมอน

ท่าทีภายในใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ยก. 4:3 พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง
มันคือการอธิษฐานขอที่ไม่จริงใจและไม่บริสุทธิ์ใจ และเพื่อตอบสนองตัณหาของเราเอง

เราต้องสำรวจตัวเองว่าเราขอผิด หรือโลภหรือไม่ ความไม่โลภไม่ใช่เพียงการปฏิเสธด้วยปาก เพราะนั่นเป็นเพียงการปกป้องตัวเองเท่านั้น หากแต่ยังมีท่าทีความโลภอยู่ นั่นก็คือความโลภ เช่นรถเราเก่าถ้าเรามีเงินจะออกป้ายแดงซะเลย หรือ อีกไม่กี่วันกระเป๋าฉันจะตุง เพราะฉันอธิษฐานแล้ว และอ้างว่าจะนำมาใช้ในพันธกิจของพระเจ้า เพื่อปกป้องตัวเองเป็นเกราะป้องกัน

พระพรของพระเจ้ามีตามพระสัญญาสำหรับคนที่เชื่อในพระองค์ หาใช่คำอธิษฐานที่สวยหรูและกำหนดแผนการให้พระเจ้าว่าถ้าฉันมั่งคั่งฉันจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรืออธิษฐานตามผู้เชื่อในพระคัมภีร์เพราะคำอธิษฐานได้สำเร็จไปแล้ว หากแต่ท่าทีภายในใจนั้นแตกต่างกัน ความเชื่อก็แตกต่างกัน เราจึงควรอธิษฐานในแบบที่เราเป็นจากท่าทีภายในใจ ผิดก็เรียนรู้ใหม่ถ่อมใจยอมรับฟัง เพราะเราคือเรา เราไม่ใช่ซาโลมอน หรืออีกหลาย ๆ คน ไม่ต้องเหมือนใคร และทำเหมือนใคร แต่เราเรียนรู้จากสิ่งที่เขาทำได้ คำอธิษฐานที่ถูกต้องมีอยู่ในพระคัมภีร์

คำพูดก็เช่นเดียวกัน ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์รวมถึงการอธิษฐาน เป็นถ้อยคำที่เกิดจากการดลใจในการเขียนโดยพระเจ้า เป็นความจริงที่ถูกบันทึกขึ้นมา พระคัมภีร์บันทึกถ้อยคำของมนุษย์เองด้วย แม้แต่ทูตสวรรค์และซาตานก็มีคำพูดที่ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ รวมไปถึงคำพูดของคนชอบธรรม และคนอธรรม คนบาป คนที่ดีและเดินในทางของพระเจ้า คำพูดของฟาริสีที่จับผิดพระเยซูก็ถูกบันทึกไว้

แน่นอนผู้เชื่อทุกคนแยกแยะออกว่าอะไรดีควรเดินตามและอะไรไม่ได้มาจากพระเจ้าและควรปฏิเสธไปเสีย และไม่เอามาเป็นหลักข้อเชื่อ

คำพูดของโยบ โยบได้กล่าวว่า

โยบ 2:10 แต่ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโง่เขลาจะพึงพูด เราจะรับสิ่งดีจากพระเจ้า และจะไม่รับสิ่งไม่ดีบ้างหรือ?” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน

คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดจากมนุษย์คนหนึ่งที่พูดจากความคิดท่าทีภายในของตัวเองมีอารมณ์มีความรู้สึกเราต้องเข้าใจพระวจนะก่อนจะตีความว่าสิ่งไม่ดีไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่ภายหลังโยบได้กลับใจ และกล่าวคำพูดอย่างถูกต้อง

คำอธิษฐานที่ไร้คำตอบ การอธิษฐานขอบางสิ่งบางอย่างทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้านั้น ก็อาจจะเป็นการเปลืองลมหายใจ หรือการตีความพระวจนะว่า จงขอแล้วจะได้
มธ. 7:7 “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน

อะไรคือคำว่าอธิษฐานขอแบบผิดๆ ใน ยากอบบันทึกว่า เราขอและไม่ได้รับเราขอผิด หากเราจับบริบทเพียงตอนใดตอนหนึ่งขึ้นมา และเชื่อตามนั้นเราจะมองเห็นพระลักษณะของพระเจ้าผิดไปจากพระลักษณะที่แท้จริงที่พระบิดาเป็น ขอความรัก ความดีของพระเจ้าดำรงอยู่กับพี่น้องทุกคน

จงอธิษฐานขออย่างถูกต้องตามและท่านจะได้ตามนั้น ยก. 1:5 แต่ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้าผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัยกว้างขวางและไม่ทรงตำหนิ แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ

1ยน. 5:14 และนี่เป็นความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟัง
1ยน. 5:15 และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังเมื่อเราทูลขอสิ่งใด เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น