วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

เรารักพี่น้องจริงหรือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

เรารักพี่น้องจริงหรือ
จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
ความรักเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ ในพระคัมภีร์บันทึกว่า
1คร. 13:4 ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
1คร. 13:5 ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
1คร. 13:6 ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง
1คร. 13:7 ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ
1คร. 13:8 ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ แม้การเผยพระวจนะก็จะเสื่อมสลายไป แม้การพูดภาษาแปลกๆ ก็จะเลิกพูดกัน แม้วิชาความรู้ก็จะเสื่อมสลายไป

แม้แต่บัญญัติข้อใหญ่ก็สอนให้เรามีความรัก
มธ. 19:19 จงให้เกียรติบิดามารดาของตน  และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ ”

ผู้เชื่อต้องเข้าใจความรัก หากเราตีความ คำว่า ความรัก ผิดบริบทเราก็จะรักแบบผิด ๆ ความรักไม่ใช่การเห็นดีด้วยในทุกเรื่อง เออออตามกันทุกอย่าง ไม่กล้าตักเตือน ไม่กล้ายืนหยัดในความจริงถ้าสิ่งนั้นขัดแย้งกับพระคัมภีร์ เพราะหากพุดแล้วกลัวจะโดนกล่าวหาว่า ขาดความรัก

ความรักตามบริบทของพระคัมภีร์เป็นความรักแท้ ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อพบเจอการประพฤติผิด แล้วไม่แจ้ง ตักเตือน ไม่คุย ไม่แก้ไข ปล่อย ๆ ไป หรือบางครั้งหากผู้นำทำผิด ก็ไม่กล้าตักเตือน เพราะเห็นแก่ความมั่นคงในตำแหน่ง หรือผลประโยชน์ หรือเชื่อว่า เดี๋ยวพระเจ้าจะเตือนและสอนเขาเอง (อย่าแตะต้องผู้รับใช้)

นี่จึงเป็นความเข้าใจที่ผิดบริบทไปจากความรักที่แท้จริง หาใช่ความรักแท้ไม่ บางครั้งกลัวเขาจะรับไม่ได้ กลัวเขาจะโกรธ จะไม่ชอบเรา เพราะเชื่อว่าแบบนี้ดีแล้ว ไม่อยากทำตัวให้เป็นปัญหา อยากอยู่แบบสงบ ๆ ดีกว่า ในพระคัมภีร์ พระเยซูเตือนบรรดาผู้นำและพวกฟาริสีรุนแรง แต่ไม่ใช่เพื่อความแตกแยก แต่เป็นความจริง พระเยซูไม่ได้คิดว่า ต่างคนต่างอยุ่ ต่างคนต่างสอน แต่ชี้ถึงจุดผิดและเตือนพวกเขา นี่คือความหมายของ การไม่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติผิด

หากรักต้องเตือน ไม่มีความกลัว ว่าเขาจะโกรธหรือ เกลียดเรา การที่เฉยชากับความผิดต่อหน้า เยินยอ สรรเสริญ สดุดี หรืออ้างว่า มองหาสิ่งดีของเขา (เชื่อในส่วนดี) แต่ลับหลังก็ระบายนินทาถึงสิ่งไม่ดีของเขา นั่นเท่ากับเป็นข้ออ้างและความเห็นแก่ตัว หากใครเตือนเรา ไม่ว่าจะผิดหรือถูก และเราไม่พอใจเท่ากับเราไม่ปกติแล้ว

1ยน. 3:18 ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

Ahava - Love (אהבה)
แต่ความหมายในภาษาฮีบรู มีความหมายที่ลึกมาก คำกริยา (le’ehov) หมายถึง จัดหา จัดเตรียมให้ ป้องกันและคุ้มครอง ยังไม่พอ คำๆนี้ยังมีความหมายว่า มิตรถาวร ที่มีความสัมพันธ์ในระดับลึก

มธ. 22:36 “ท่านอาจารย์ ในธรรมบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อไหนสำคัญที่สุด?”
มธ. 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า “ ‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน’  และด้วยสุดความคิดของท่าน
มธ. 22:38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก
มธ. 22:39 ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’
มธ. 22:40 ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”


ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น