วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เปโตรเป็นนักธุรกิจ

เปโตรเป็นนักธุรกิจ

ในช่วงเวลาในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ซีโมน เปโตร หนึ่งในสาวกที่พระเยซูทรงรัก ก่อนเป็นสาวกติดตามพระเยซู ซีโมนเปโตรประกอบอาชีพการประมง ซึ่งการประมงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สำคัญและมีการจัดระเบียบ ประมงเป็นเศรษฐกิจทั่วไปที่จักรวรรดิโรมันได้ให้ความสำคัญในการจัดระเบียบ ที่ผ่านมาเราอาจเข้าใจว่า ซีโมน เปโตร หนึ่งในสาวกของพระเยซูนั้น เป็นชาวประมง เป็นคนที่ไม่ได้มีศึกษาสูงนัก และน่าจะจนด้วย จึงมักมีมีภาพลักษณ์ของเปโตรที่ไม่มีอะไร แต่พระเจ้าก็ใช้เขาได้ ซึ่งความเข้าใจนี้ครึ่งหนึ่งที่บอกว่าพระเจ้าทรงใช้คนที่ไม่มีอะไรเพื่อแผนการของพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่ยังถูกต้องเสมอ แต่ชีวิตของเปโตรกลับน่าศึกษามากพอๆกับ ชีวิตของอาจารย์เปาโล
เปโตร หรือในภาษาเดิมชื่อว่า "เคฟา" ไม่ใช่คนไร้การศึกษาแม้จะทำอาชีพประมง ในฐานะที่เป็นชาวยิวที่สัตย์ซื่อ เปโตรได้รับการศึกษาโทราห์ อย่างน้อยคือต้องเรียนโทราห์ 5 เล่มแรกจนจบ ต้องเรียนรู้กฎหมายศาสนา ต้องฝึกอ่าน และฝึกเขียน เชื่อว่าเปโตรเป็นคนที่ฉลาดในการพูดและต้องพูดได้ หลากหลายภาษาเพราะมีความจำเป็นต้องพบกับพ่อค้าในการทำธุรกิจประมงในหลายประเทศและต้องรู้วัฒนธรรม ต้องเจรจาต่อรองเป็น

ในฐานะชาวยิว ซีโมนเปโต แอนดรู และฟิลิป พวกเขาได้เรียนรู้ภาษาฮีบรู แต่จากการค้นคว้าโดยนักวิชาการ ภาษาแม่ของพวกเขาคืออาราเมค แต่ทั้งสามรวมเปโตรก็มีชื่อที่เป็นภาษากรีก

พวกกรีกบางคนปรารถนาจะเห็นพระเยซู
ยน. 12:20 ในบรรดาคนที่ขึ้นไปนมัสการที่งานเทศกาลนั้นมีพวกกรีกอยู่ด้วย
ยน. 12:21 พวกเขาไปหาฟีลิปซึ่งมาจากหมู่บ้านเบธไซดาในแคว้นกาลิลี แล้วพูดกับเขาว่า “ท่านเจ้าข้า เราอยากจะเห็นพระเยซู”
ยน. 12:22 ฟีลิปจึงไปบอกอันดรูว์ แล้วอันดรูว์กับฟีลิปไปทูลพระเยซู

ใน ยอห์น 12:20-22 เป็นข้อหนึ่งในข้อบ่งชี้ว่าเขาได้สนทนาภาษากรีก เมื่อกลุ่มของคนกรีกขอให้ฟิลิปแนะนำพระเยซู เพราะเขาเคยได้ยินฟิลิปพูดภาษากรีก ในฐานะเป็นนักธุรกิจชาวประมงจำเป็นต้องรู้ภาษากรีก เพราะพวกเขาต้องค้าขาย ทำธุรกิจ และเจรจาต่อรอง ดังนั้นในศตวรรษแรกๆนั้น ภาษากรีกจึงเป็นภาษาต่างประเทศเช่นภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากลางสากลในทุกวันนี้ และยังเป็นภาษาทางการค้าและการพาณิชย์ในภาพรวมของเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก

จึงน่าคิดว่า หากเขาเป็นเพียงชาวประมงที่มีเพียงเรือลำเล็กๆ  หาปลาเพื่อประทังชีวิต หรือค้าขายเล็กๆน้อย เป็นคนไร้การศึกษา และเป็นคนยากจนคนหนึ่งหรือ แต่อีกมุมมองหากเขามีกิจการที่ใหญ่โต มีลูกน้องที่ต้องดูแล มีครอบครัว มีกิจการที่ใหญ่โต เป็นเจ้าของเรือประมง มันจึงไม่ง่ายเลยเมื่อพระเยซูตรัสเรียกเขา หากคิดวิเคราะห์ด้วยสติปัญญา จากความเป็นผู้นำเขาต้องกลายไปเป็นผู้ติดตามพระเยซู
ต้องทิ้งทุกสิ่งและตามพระองค์ไปในทันที

มธ. 4:19 พระองค์ตรัสกับเขาทั้งสองว่า “จงตามเรามา และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดั่งหาปลา”
มก. 1:17 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดังหาปลา”

ลก. 5:10 ยากอบและยอห์นบุตรของเศเบดี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกับซีโมนก็ประหลาดใจเหมือนกัน พระเยซูตรัสกับซีโมนว่า “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน”
ลก. 5:11 เมื่อนำเรือมาถึงฝั่งแล้ว พวกเขาก็สละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและตามพระองค์ไป

ในมาระโกมีวิธีการจับปลาหลายแบบก็คล้ายๆกับในสมัยนี้
มก. 1:16 ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามชายทะเลสาบกาลิลี ก็ทอดพระเนตรเห็นชาวประมงสองคน คือซีโมนและอันดรูว์น้องของซีโมน กำลังทอดแหอยู่ในทะเลสาบ
มก. 1:17 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงตามเรามา เราจะตั้งพวกท่านให้เป็นผู้หาคนเหมือนหาปลา”
มก. 1:18 พวกเขาก็ละแหตามพระองค์ไปทันที

วิธีการนี้อย่างน้อยต้องใช้เรือที่มีขนาดใหญ่และคนจำนวนมากที่จะช่วยในการสาวปลา


 ภาพตัวอย่างการทอดแหกลางทะเลในสมัยนั้น

มก. 1:19 เมื่อพระองค์เสด็จต่อไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรเศเบดี กับยอห์นน้องชายของเขากำลังชุนอวนอยู่ในเรือ
มก. 1:20 พระองค์ทรงเรียกพวกเขาทันที พวกเขาจึงละเศเบดีผู้เป็นบิดาไว้ที่เรือกับพวกลูกจ้างแล้วตามพระองค์ไป
 
มีการขุดพบเรือโบราณตามชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกาลิลี คาดว่าในช่วงเวลาสมัยนั้น ขนาดของมันคือ ยาว 26 ฟุต กว้าง 7.5 ฟุต ลึก 4.5 ฟุต นักโบราณคดีได้ข้อสรุปว่าเรือถูกสร้างขึ้นระหว่าง 40 และ 70 คริสตศักราช


มก. 6:45 แล้วพระองค์ตรัสสั่งให้พวกสาวกลงเรือทันทีและข้ามไปยังเมืองเบธไซดาก่อน ระหว่างที่พระองค์ทรงรอส่งฝูงชนกลับบ้าน
เรือขนาดนี้สามารถรับน้ำหนักได้เกิน 1 ตัน และบรรทุกคนได้ประมาณ 30 คน

Magdala/Magadan/Tarichaeae (เมืองแปรรูปปลา)

เมือง มากาดาน นอกจากจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ทอผ้าและย้อมผ้าลินนิน
มธ. 15:39 เมื่อทรงส่งฝูงชนไปแล้ว ก็เสด็จลงเรือมาถึงเขตเมืองมากาดาน
เมืองมากาดาน หรือมักดารา ภาษากรีกคือ Tarichaeae  "Tarichææ" จากการค้นคว้าโดยนักวิชาการเชื่อว่าคือเมืองเศรษฐกิจด้านอาหารแปรรูปทางการประมง หรือเรียกว่า “เมืองปลา” ที่นี่เป็นที่ตั้งของเมืองอาหารแปรรูปที่สำคัญ เช่นปลาเค็ม หรือแปรรูปปลาเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อการถนอมอาหารให้เก็บได้นานและเพื่อส่งออกไปยังพื้นที่ในเมดิเตอร์เรเนียน

มก. 8:10 พระองค์ก็เสด็จลงเรือกับพวกสาวกของพระองค์ทันทีและไปยังเขตเมืองดาลมานูธา
ต้นฉบับบางส่วน ดาลมานูธาก็คือ มักดารา

สุดท้ายนี้บทความนี้เพียงนำเสนอชีวิตมุมหนึ่งของ เปโตร ไม่ใช่เพื่อการขัดแย้งเพราะไม่ว่า เปโตรจะรวยหรือจน จะมีการศึกษาสูง หรือการศึกษาน้อย นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญมากไปกว่าหัวใจของเปโตรที่รักพระเยซูอย่างสุดใจและติดตามพระเยซูจนถึงที่สุด แม้ความตายก็ไม่อาจจะพลากเขาจากความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ได้

พระเยซูทรงตรัสกับเปโตร
ยน. 21:3 ซีโมนเปโตรบอกพวกเขาว่า “ข้าจะไปจับปลา” พวกเขาจึงพูดกับซีโมนว่า “เราจะไปด้วย” แล้วพวกเขาก็ออกไปลงเรือ แต่คืนนั้นเขาจับปลาไม่ได้เลย

ยน. 21:15 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเรามากกว่าพวกนี้หรือ?” เขาทูลพระองค์ว่า “ใช่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงดูลูกแกะของเราเถิด”
ยน. 21:16 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สองว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?” เขาทูลตอบพระองค์ว่า “ใช่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด”
ยน. 21:17 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?” เปโตรเสียใจมากที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “ท่านรักเราหรือ?” เขาจึงทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้ดีว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด

รักเรา (พระเยซู) มากกว่าเหล่านี้ มากกว่า ธุรกิจการงานประมงของเจ้าหรือ ? มาถึงตอนนี้ เปโตรสับสนเขาเลือกทางเดินชีวิตและกลับมาทำธุรกิจประมงอย่างเดิม หาใช่ไปจับปลามารับประทานหรือจับเล็กๆน้อยๆ สามคำถามนี้นำเปโตรกลับใจและรับการเยียวยาหัวใจโดยพระเยซู

แค่นี้ก่อนนะครับจริงๆรายละเอียดอ้างอิงทางประวัติศาสตร์และในพระคัมภีร์มีเยอะมากๆซึ่งถ้าเอามาลงหมดจะกลบความสำคัญที่จะสื่อถึงเปโตรไป

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.shachah

แหล่งค้นคว้าข้อมูล : https://estherspetition.wordpress.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น