“ห้ามฆ่าคน” อพยพ 20:13 (ฉบับ 2)
“ห้ามฆ่าคน”
อพย. 20:13 “ห้ามฆ่าคน”
อพย. 20:13 Do not murder.
แม้แต่ในพันธสัญญาใหม่ก็บันทึกอ้างอิงธรรมบัญญัติด้วยเช่นกัน
มธ. 5:21 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’
มธ. 5:21 You have heard that it was said to the ancients "Do not commit murder!" And, whoever commits murder shall be condemned to the Judgment.
ในฉบับ Hebraic Root
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน และใครก็ตามฆ่า (พลั๊งฆ่า) จะต้องตกอยู่ในอันตรายจากความไม่ได้รับความยุติธรรม’
จากพระคัมภีร์ดังกล่าวข้างต้นนี้ แน่นอนเราถูกสอนมาเสมอว่า “อย่าฆ่าคน” ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ไม่อยากไปฆ่าใครหรอก นอกจากดูตามข่าวตอนเช้าอันน่าเศร้า ที่มีแต่ข่าวฆ่ากันตาย คนสมัยนี้ทำอะไรโหดเหี้ยมกันจังเลย
แล้วทำไมในพระคัมภีร์บางตอนถึงได้มีการบันทึกว่า บางครั้งเมื่อกองทัพอิสราเอลออกรบถึงได้มีการฆ่าศัตรูฝ่ายตรงข้ามล่ะ ?
พระเจ้าไม่ทำสิ่งใดค้านกับคำสั่งของพระองค์ ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม อิสราเอลที่เดินทางออกจากอียิปตืเพื่อเข้าไปยึดครอง ดินแดนพันธสัญญา ที่นั่นมีคน อานาค คนยักษ์ และเขาต้องเข้าต่อสู้ฆ่าฟันแย่งชิงดินแดนนั้นมาโดยการทรงนำของพระเจ้า พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับ คนอามาเลขที่ชั่วร้าย คนอามาเลขเป็น คนบาป สมควรแก่พระอาชญาโดยผ่านทางอิสราเอล คนบาป อามาเลขเหล่านี้ เป็นผู้ทำให้ ผู้หญิงไร้บุตร จึงสมควรได้รับความทุกข์และความโหด ร้ายเช่นเดียวกับที่พวกเขากระทำต่อผู้อื่น คำสั่งให้ฆ่าทำลายทั้งชาติรวมถึงบรรดาสัตว์ด้วยไม่ใช่เป็นคำสั่งใหม่ พระเจ้าได้สั่ง ให้คนอิสราเอลทำเช่นเดียวกันนี้เมื่อครั้งพวกเขาไปรบเพื่อยึดเอาแผ่นดินคานาอัน
ในภาษาฮีบรู “רצח (râtsach, ratsach)” หมายถึง “ฆาตกรรม” (רָצַח)
ซึ่งหมายถึงว่า อย่า “ฆาตกรรม”
หมายถึงการฆ่า หรือการฆาตกรรม ที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าโดยมีเจตนา ตั้งใจ หรือจงใจ
การล้างแค้น การลอบสังหาร
"ฆาตกรรม" เป็นคำสมาสระหว่างคำ "ฆาต" (บาลี. ตี, ฟาด, ฟัน, ฆ่า, ทำลาย) + "กรรม" มีความหมายตามอักษรว่า การตี, การฟาด, การฟัน, การฆ่า, การทำลาย ผู้กระทำฆาตกรรมเรียกว่า "ฆาตกร"
กดว. 35:30 ใครก็ตามที่ฆ่าคน ก็ให้ฆาตกรนั้นถูกประหารชีวิตตามปากคำของพยาน แต่อย่าประหารใครด้วยพยานเพียงปากเดียว
ปัจจุบันมีการใช้คำ "ฆาตกรรม" คละไปกับคำ "การฆ่าคน" ทั้งนี้ คำทั้งสองมีความหมายเดียวกันดังข้างต้น แม้ในตำภาษาอังกฤษจะเป็นคำที่ใช้คำทั้งสองคำนี้ ไม่ค่อยจะแตกต่างเท่าไร แต่ในบริบทของฮีบรู เป็นคนล่ะบริบทกันครับ เช่นสงคราม (ในสมัยพระคัมภีร์ พระเจ้าก็นำในการรบ) หรือปกป้องตัวเองจากอาชญากร หรือพวกฆาตกรแล้วเราพลั้งมือเพื่อปกป้องตัวเองหรือครอบครัว ฉะนั้นในพระคัมภีร์เดิมเราจึงเห็น ทหารฆ่าในสงคราม ฆ่าในการป้องกันตนเอง
อีกหนึ่งเรื่องราวในพระวจนะ เมื่อดาวิด "ฆ่า" โกลิอัท เขาไม่ได้ก่ออาชญากรรม ดาวิดไม่ได้ "ฆาตรกรรม" โกลิอัทเพราะความเกลียดชัง ความโลภ ความอิจฉา
แม้แต่บางครั้งเราเห็นมุมของพระเจ้าในมุมของการทำให้เกิดการ สิ้นชีวิต เมื่อคนคนนั้นทำผิดจากคำสั่งหรือกฎหมายของพระองค์ ในกรณีนี้พระเจ้า ไม่ได้ฆาตกรรม พระองค์ไม่ทำสิ่งใดค้านกับบัญญัติของพระองค์เอง
สุดท้ายนี้ แท้จริงเราอาจจะไม่ต้องยุ่งยากอะไร กับความสับสนของพระวจนะข้อนี้ อาจจะเป็นการดีเสียอีกที่ผู้เชื่อชาวไทยหรืออีกหลายประเทศมีพื้นฐานการถูกปลูกฝัง ไม่ว่าจะฆ่าคนด้วยบริบทไหน เราไม่ประสงค์ทั้งนั้น แม้แต่ผู้ที่เป็นศัตรู หรือทำร้ายเรา เราก็พร้อมที่จะยกโทษให้เขาเสมอตามที่พระเจ้าได้สอนและประสงค์ให้เรามีความรัก และการให้อภัย เพราะความรักคือ อาวุธที่มีพลังมากที่สุด
บทความนี้จึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เปิดช่องทาง เพื่อจะไปฆ่าใคร ซึ่งยังไง ไม่ว่า จะฆาตกรรม หรือสุดวิสัย ล้วนต้องรับโทษตามกฎหมาย ในกระบวนการทางโลกแน่นอน ผมจึงเพียงแบ่งปันให้เราเห็นข้อแตกต่างและบริบทของคำที่ใช้ในพระคัมภีร์ และบริบท ที่ผู้เชื่อใหม่หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ทำไมพระเจ้าจึงนำทัพอิสราเอลเข้าฆ่าฟันเหล่าศัตรูจนราบคาบ ทั้งที่มีธรรมบัญญัติว่า ห้ามฆ่าคน (ศัตรู= ผู้ต่อต้านพระยาห์เวห์ พวกต่างชาติที่นับถือรูปเคารพ)
มธ. 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า “ ‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน’ และด้วยสุดความคิดของท่าน
มธ. 22:38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก
มธ. 22:39 ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’
คำว่า “ฆาตรกรรม” ในภาษาฮีบรู
ratsach: to murder, slay
Original Word: רָצַח
Part of Speech: Verb
Transliteration: ratsach
Phonetic Spelling: (raw-tsakh')
Short Definition: manslayer
ในภาษากรีก (murder) "ฆาตกรรม" เป็นφονεύω (phoneuō)
รม. 13:9 ข้อที่ว่า “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามฆ่าคน ห้ามลักทรัพย์ ห้ามโลภ ” ทั้งพระบัญญัติอื่นๆ ก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
มธ. 5:21 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’
มธ. 19:18 คนนั้นทูลถามว่า “คือพระบัญญัติข้อไหนบ้าง?” พระเยซูตรัสว่า “‘ห้ามฆ่าคนห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขาห้ามลักทรัพย์ ห้ามเป็นพยานเท็จ
(Kill) “ฆ่า” is ἀποκτίννυμι (apoktinumi)
มธ. 10:28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่สามารถฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงสามารถทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้
ฆาตกรรมในภาษาฮีบรูคือ "רצח ratsach" อย่าเป็นฆาตกรโดยการฆ่าคน
ฆ่าโดยทั่วไปในภาษาฮีบรูคือ "נכה nakah"
อีกคำ "lo tirtzach," "do not murder"
ยังมีเรื่องของการ ฆ่าคนโดยไม่เจตนาที่พูดถึงในพระคัมภีร์
เมืองลี้ภัย
9 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า 10 “จงกล่าวกับคนอิสราเอลและพูดกับพวกเขาว่า เมื่อเจ้าทั้งหลายข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าในแผ่นดินคานาอัน 11 เจ้าจงเลือกเมืองต่างๆ ให้เป็นเมืองลี้ภัยสำหรับเจ้าทั้งหลาย เพื่อให้ผู้ที่ฆ่าคนโดยไม่เจตนาหลบหนีไปอยู่ที่นั่นได้ 12 ให้เมืองเหล่านั้นเป็นเมืองลี้ภัยจากผู้แก้แค้นสำหรับพวกเจ้า เพื่อไม่ให้ผู้ฆ่าคนต้องตายก่อนที่เขาจะยืนต่อหน้าชุมนุมชนและรับการพิพากษา 13 เมืองต่างๆ ที่เจ้ายกให้นั้นจะเป็นเมืองลี้ภัยหกเมืองสำหรับพวกเจ้า 14 เจ้าจงให้สามเมืองอยู่ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และอีกสามเมืองอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ให้เป็นเมืองลี้ภัย 15 ทั้งหกเมืองนี้ให้เป็นเมืองลี้ภัยสำหรับคนอิสราเอล คนต่างด้าว และคนที่มาอาศัยอยู่ท่ามกลางเขา เพื่อให้ผู้ที่ฆ่าคนโดยไม่เจตนาทุกคนจะหลบหนีไปที่นั่นได้
เรื่องผู้ฆ่าคนและการแก้แค้น
16 “แต่ถ้าใครตีคนด้วยเครื่องมือเหล็กจนคนนั้นตาย เขาก็เป็นฆาตกร ฆาตกรต้องถูกประหารชีวิต 17 และถ้าใครทุบคนด้วยก้อนหินในมือที่มีขนาดฆ่าคนได้ แล้วคนนั้นตาย เขาก็เป็นฆาตกร ฆาตกรต้องถูกประหารชีวิต 18 หรือใครใช้ไม้ในมือซึ่งมีขนาดฆ่าคนได้ตีคน แล้วคนนั้นตาย เขาเป็นฆาตกร ฆาตกรต้องถูกประหารชีวิต 19 ให้ผู้แก้แค้นแทนโลหิตเองเป็นผู้ประหารชีวิตฆาตกรนั้น ให้ผู้แก้แค้นแทนโลหิตประหารชีวิตคนนั้นเมื่อพบเขา 20 ถ้าใครแทงคนอื่นด้วยความเกลียดชัง หรือซุ่มคอยขว้างจนคนนั้นตาย 21 หรือชกด้วยมือจนคนนั้นตายเพราะเป็นศัตรูกัน ให้ประหารชีวิตผู้ที่ทำให้คนนั้นตาย เขาเป็นฆาตกร ให้ผู้แก้แค้นแทนโลหิตประหารชีวิตฆาตกรเมื่อพบเขา
ฆาตกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นใน ปฐก. 4:8 ฝ่ายคาอินพูดกับอาเบลน้องชายของเขาว่า “ให้เราไปที่ทุ่งนากันเถอะ” เมื่ออยู่ในทุ่งด้วยกัน คาอินก็โถมเข้าฆ่าอาเบลน้องชายของเขา
ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร คำว่า "อย่าฆ่าคน" ก็ทำให้เราเห็นคุณค่าของทุก ๆ ชีวิต ไม่ว่าจะฆ่าโดยเจตนา (ฆาตกรรม) ฆ่าโดยไม่เจตนา หรือ ไม่ตั้งใจเพื่อเหตุผลของการป้องกันตัวหรือกรณีใด ๆ ขอพระเจ้าปกป้องคุ้มครองเราช่วยเราจากอันตรายใด ๆ โดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์
บทความคล้ายกัน : http://missionkorat.blogspot.com/2013/02/2013.html
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น