วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ห้ามฆ่าคน ธรรมบัญญัติข้อที่ 6

“ห้ามฆ่าคน” อพยพ 20:13 (ฉบับ 2)


“Kill” or “Murder” in Exodus 20:13
“ห้ามฆ่าคน”
อพย. 20:13 “ห้ามฆ่าคน”
อพย. 20:13 Do not murder.


แม้แต่ในพันธสัญญาใหม่ก็บันทึกอ้างอิงธรรมบัญญัติด้วยเช่นกัน
มธ. 5:21 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน  ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’
มธ. 5:21 You have heard that it was said to the ancients "Do not commit murder!" And, whoever commits murder shall be condemned to the Judgment.

ในฉบับ Hebraic Root
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน และใครก็ตามฆ่า (พลั๊งฆ่า) จะต้องตกอยู่ในอันตรายจากความไม่ได้รับความยุติธรรม’

จากพระคัมภีร์ดังกล่าวข้างต้นนี้ แน่นอนเราถูกสอนมาเสมอว่า “อย่าฆ่าคน” ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ไม่อยากไปฆ่าใครหรอก นอกจากดูตามข่าวตอนเช้าอันน่าเศร้า ที่มีแต่ข่าวฆ่ากันตาย คนสมัยนี้ทำอะไรโหดเหี้ยมกันจังเลย

แล้วทำไมในพระคัมภีร์บางตอนถึงได้มีการบันทึกว่า บางครั้งเมื่อกองทัพอิสราเอลออกรบถึงได้มีการฆ่าศัตรูฝ่ายตรงข้ามล่ะ ? 

พระเจ้าไม่ทำสิ่งใดค้านกับคำสั่งของพระองค์ ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม อิสราเอลที่เดินทางออกจากอียิปตืเพื่อเข้าไปยึดครอง ดินแดนพันธสัญญา ที่นั่นมีคน อานาค คนยักษ์ และเขาต้องเข้าต่อสู้ฆ่าฟันแย่งชิงดินแดนนั้นมาโดยการทรงนำของพระเจ้า พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับ คนอามาเลขที่ชั่วร้าย คนอามาเลขเป็น คนบาป สมควรแก่พระอาชญาโดยผ่านทางอิสราเอล คนบาป อามาเลขเหล่านี้ เป็นผู้ทำให้ ผู้หญิงไร้บุตร จึงสมควรได้รับความทุกข์และความโหด ร้ายเช่นเดียวกับที่พวกเขากระทำต่อผู้อื่น คำสั่งให้ฆ่าทำลายทั้งชาติรวมถึงบรรดาสัตว์ด้วยไม่ใช่เป็นคำสั่งใหม่ พระเจ้าได้สั่ง ให้คนอิสราเอลทำเช่นเดียวกันนี้เมื่อครั้งพวกเขาไปรบเพื่อยึดเอาแผ่นดินคานาอัน

ในภาษาฮีบรู “רצח (râtsach, ratsach)” หมายถึง “ฆาตกรรม” (רָצַח)
ซึ่งหมายถึงว่า อย่า “ฆาตกรรม”

หมายถึงการฆ่า หรือการฆาตกรรม ที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าโดยมีเจตนา ตั้งใจ หรือจงใจ
การล้างแค้น การลอบสังหาร

"ฆาตกรรม" เป็นคำสมาสระหว่างคำ "ฆาต" (บาลี. ตี, ฟาด, ฟัน, ฆ่า, ทำลาย) + "กรรม" มีความหมายตามอักษรว่า การตี, การฟาด, การฟัน, การฆ่า, การทำลาย ผู้กระทำฆาตกรรมเรียกว่า "ฆาตกร"
กดว. 35:30 ใครก็ตามที่ฆ่าคน ก็ให้ฆาตกรนั้นถูกประหารชีวิตตามปากคำของพยาน แต่อย่าประหารใครด้วยพยานเพียงปากเดียว

ปัจจุบันมีการใช้คำ "ฆาตกรรม" คละไปกับคำ "การฆ่าคน" ทั้งนี้ คำทั้งสองมีความหมายเดียวกันดังข้างต้น แม้ในตำภาษาอังกฤษจะเป็นคำที่ใช้คำทั้งสองคำนี้ ไม่ค่อยจะแตกต่างเท่าไร แต่ในบริบทของฮีบรู เป็นคนล่ะบริบทกันครับ เช่นสงคราม (ในสมัยพระคัมภีร์ พระเจ้าก็นำในการรบ) หรือปกป้องตัวเองจากอาชญากร หรือพวกฆาตกรแล้วเราพลั้งมือเพื่อปกป้องตัวเองหรือครอบครัว ฉะนั้นในพระคัมภีร์เดิมเราจึงเห็น ทหารฆ่าในสงคราม ฆ่าในการป้องกันตนเอง

อีกหนึ่งเรื่องราวในพระวจนะ เมื่อดาวิด "ฆ่า" โกลิอัท เขาไม่ได้ก่ออาชญากรรม ดาวิดไม่ได้ "ฆาตรกรรม" โกลิอัทเพราะความเกลียดชัง ความโลภ ความอิจฉา

แม้แต่บางครั้งเราเห็นมุมของพระเจ้าในมุมของการทำให้เกิดการ สิ้นชีวิต เมื่อคนคนนั้นทำผิดจากคำสั่งหรือกฎหมายของพระองค์ ในกรณีนี้พระเจ้า ไม่ได้ฆาตกรรม พระองค์ไม่ทำสิ่งใดค้านกับบัญญัติของพระองค์เอง

สุดท้ายนี้ แท้จริงเราอาจจะไม่ต้องยุ่งยากอะไร กับความสับสนของพระวจนะข้อนี้ อาจจะเป็นการดีเสียอีกที่ผู้เชื่อชาวไทยหรืออีกหลายประเทศมีพื้นฐานการถูกปลูกฝัง ไม่ว่าจะฆ่าคนด้วยบริบทไหน เราไม่ประสงค์ทั้งนั้น แม้แต่ผู้ที่เป็นศัตรู หรือทำร้ายเรา เราก็พร้อมที่จะยกโทษให้เขาเสมอตามที่พระเจ้าได้สอนและประสงค์ให้เรามีความรัก และการให้อภัย เพราะความรักคือ อาวุธที่มีพลังมากที่สุด

บทความนี้จึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เปิดช่องทาง เพื่อจะไปฆ่าใคร ซึ่งยังไง ไม่ว่า จะฆาตกรรม หรือสุดวิสัย ล้วนต้องรับโทษตามกฎหมาย ในกระบวนการทางโลกแน่นอน ผมจึงเพียงแบ่งปันให้เราเห็นข้อแตกต่างและบริบทของคำที่ใช้ในพระคัมภีร์ และบริบท ที่ผู้เชื่อใหม่หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ทำไมพระเจ้าจึงนำทัพอิสราเอลเข้าฆ่าฟันเหล่าศัตรูจนราบคาบ ทั้งที่มีธรรมบัญญัติว่า ห้ามฆ่าคน (ศัตรู= ผู้ต่อต้านพระยาห์เวห์ พวกต่างชาติที่นับถือรูปเคารพ)

มธ. 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า “ ‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน’  และด้วยสุดความคิดของท่าน

มธ. 22:38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก
มธ. 22:39 ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’

คำว่า “ฆาตรกรรม” ในภาษาฮีบรู
ratsach: to murder, slay
Original Word: רָצַח
Part of Speech: Verb
Transliteration: ratsach
Phonetic Spelling: (raw-tsakh')
Short Definition: manslayer

ในภาษากรีก (murder) "ฆาตกรรม" เป็นφονεύω (phoneuō)
รม. 13:9 ข้อที่ว่า “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามฆ่าคน ห้ามลักทรัพย์ ห้ามโลภ ” ทั้งพระบัญญัติอื่นๆ ก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”

มธ. 5:21 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน  ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’

มธ. 19:18 คนนั้นทูลถามว่า “คือพระบัญญัติข้อไหนบ้าง?” พระเยซูตรัสว่า “‘ห้ามฆ่าคนห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขาห้ามลักทรัพย์  ห้ามเป็นพยานเท็จ

(Kill) “ฆ่า” is ἀποκτίννυμι (apoktinumi)
มธ. 10:28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่สามารถฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงสามารถทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้

ฆาตกรรมในภาษาฮีบรูคือ "רצח ratsach" อย่าเป็นฆาตกรโดยการฆ่าคน
ฆ่าโดยทั่วไปในภาษาฮีบรูคือ "נכה nakah"
อีกคำ "lo tirtzach," "do not murder"

ยังมีเรื่องของการ ฆ่าคนโดยไม่เจตนาที่พูดถึงในพระคัมภีร์
เมือง​ลี้​ภัย 
9 พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​กับ​โมเสส​ว่า 10 “จง​กล่าว​กับ​คน​อิส​รา​เอล​และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า เมื่อ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ข้าม​แม่​น้ำ​จอร์​แดน​เข้า​ใน​แผ่น​ดิน​คา​นา​อัน 11 เจ้า​จง​เลือก​เมือง​ต่างๆ ให้​เป็น​เมือง​ลี้​ภัยสำหรับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย เพื่อ​ให้​ผู้​ที่​ฆ่า​คน​โดย​ไม่​เจต​นา​หลบ​หนี​ไป​อยู่​ที่​นั่น​ได้ 12 ให้​เมือง​เหล่า​นั้น​เป็น​เมือง​ลี้​ภัย​จาก​ผู้​แก้​แค้น​สำหรับ​พวก​เจ้า เพื่อ​ไม่​ให้​ผู้​ฆ่า​คน​ต้อง​ตาย​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ยืน​ต่อ​หน้า​ชุม​นุม​ชน​และ​รับ​การ​พิพาก​ษา 13 เมือง​ต่างๆ ที่​เจ้า​ยก​ให้​นั้น​จะ​เป็น​เมือง​ลี้​ภัย​หก​เมือง​สำหรับ​พวก​เจ้า 14 เจ้า​จง​ให้​สาม​เมือง​อยู่​ทาง​ฟาก​ตะวัน​ออก​ของ​แม่​น้ำ​จอร์​แดน และ​อีก​สาม​เมือง​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​คา​นา​อัน ให้​เป็น​เมือง​ลี้​ภัย 15 ทั้ง​หก​เมือง​นี้​ให้​เป็น​เมือง​ลี้​ภัย​สำหรับ​คน​อิส​รา​เอล คน​ต่าง​ด้าว และ​คน​ที่​มา​อา​ศัย​อยู่​ท่าม​กลาง​เขา เพื่อ​ให้​ผู้​ที่​ฆ่า​คน​โดย​ไม่​เจต​นา​ทุก​คน​จะ​หลบ​หนี​ไป​ที่​นั่น​ได้

เรื่อง​ผู้ฆ่า​คน​และ​การ​แก้​แค้น
16 “แต่​ถ้า​ใคร​ตี​คน​ด้วย​เครื่อง​มือ​เหล็ก​จน​คน​นั้น​ตาย เขา​ก็​เป็น​ฆาต​กร ฆาต​กร​ต้อง​ถูก​ประ​หาร​ชีวิต 17 และ​ถ้า​ใคร​ทุบ​คน​ด้วย​ก้อน​หิน​ใน​มือ​ที่​มี​ขนาด​ฆ่า​คน​ได้ แล้ว​คน​นั้น​ตาย เขา​ก็​เป็น​ฆาต​กร ฆาต​กร​ต้อง​ถูก​ประ​หาร​ชีวิต 18 หรือ​ใคร​ใช้​ไม้​ใน​มือ​ซึ่ง​มี​ขนาด​ฆ่า​คน​ได้​ตี​คน แล้ว​คน​นั้น​ตาย เขา​เป็น​ฆาต​กร ฆาต​กร​ต้อง​ถูก​ประ​หาร​ชีวิต 19 ให้​ผู้​แก้​แค้น​แทน​โลหิต​เอง​เป็น​ผู้​ประ​หาร​ชีวิต​ฆาต​กร​นั้น ให้​ผู้​แก้​แค้น​แทน​โลหิต​ประ​หาร​ชีวิต​คน​นั้น​เมื่อ​พบ​เขา 20 ถ้า​ใคร​แทง​คน​อื่น​ด้วย​ความ​เกลียด​ชัง หรือ​ซุ่ม​คอย​ขว้าง​จน​คน​นั้น​ตาย 21 หรือ​ชก​ด้วย​มือ​จน​คน​นั้น​ตาย​เพราะ​เป็น​ศัตรู​กัน ให้​ประ​หาร​ชีวิต​ผู้​ที่​ทำ​ให้​คน​นั้น​ตาย เขา​เป็น​ฆาต​กร ให้​ผู้​แก้​แค้น​แทน​โลหิต​ประ​หาร​ชีวิต​ฆาต​กร​เมื่อ​พบ​เขา

ฆาตกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นใน ปฐก. 4:8 ฝ่าย​คา​อิน​พูด​กับ​อาเบล​น้อง​ชาย​ของ​เขา​ว่า “ให้​เรา​ไป​ที่​ทุ่ง​นา​กัน​เถอะ” ​เมื่อ​อยู่​ใน​ทุ่ง​ด้วย​กัน คา​อิน​ก็​โถม​เข้า​ฆ่า​อาเบล​น้อง​ชาย​ของ​เขา

ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร คำว่า "อย่าฆ่าคน" ก็ทำให้เราเห็นคุณค่าของทุก ๆ ชีวิต ไม่ว่าจะฆ่าโดยเจตนา (ฆาตกรรม) ฆ่าโดยไม่เจตนา หรือ ไม่ตั้งใจเพื่อเหตุผลของการป้องกันตัวหรือกรณีใด ๆ ขอพระเจ้าปกป้องคุ้มครองเราช่วยเราจากอันตรายใด ๆ โดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์

บทความคล้ายกัน : http://missionkorat.blogspot.com/2013/02/2013.html

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.shachah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น