วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พระเยซูคือพระวาทะ พระองค์คือวจนะ

 พระเยซูคือพระวาทะ พระองค์คือวจนะ
พระเยซูทรงเป็นตามคำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมหรือทานัค พระองค์คือโทราห์ (หรือพระวจนะ) ที่มีชีวิต ดังนั้นพระเยซูทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระวจนะ
พระคัมภีร์เดิม (Tanak) กล่าวว่า โทราห์ทรงเป็น

- หนทาง (the Way)           
ฉธบ. 9:12 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นรีบลงไปจากที่นี่เถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์ได้ทำเรื่องเสื่อมเสีย พวกเขาได้หันจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเอง’
ฉธบ. 11:22 เพราะถ้าพวกท่านระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และติดสนิทกับพระองค์แล้ว
ฉธบ. 11:23 พระยาห์เวห์จะทรงขับไล่ประชาชาติทั้งสิ้นเหล่านี้ให้ออกไปพ้นหน้าท่านทั้งหลาย แล้วท่านจะเข้ายึดครองแผ่นดินของประชาชาติที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าท่าน
ฉธบ. 11:24 ทุกที่ที่ฝ่าเท้าของพวกท่านเหยียบลงจะเป็นของท่าน อาณาเขตของท่านจะเริ่มจากถิ่นทุรกันดารไปจนถึงเลบานอน และจากแม่น้ำ คือแม่น้ำยูเฟรติสไปจนถึงทะเลตะวันตก
ฉธบ. 11:25 จะไม่มีใครสามารถยืนหยัดต่อสู้พวกท่านได้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงทำให้พวกท่านเป็นที่เกรงขามและตกใจกลัวของแผ่นดินที่ท่านจะเหยียบย่ำไป ตามที่ทรงสัญญาไว้กับท่าน
ฉธบ. 11:26 “ดูสิ วันนี้ข้าพเจ้าได้นำคำอวยพรและคำสาปแช่งมาไว้ตรงหน้าท่านทั้งหลาย
ฉธบ. 11:27 เป็นคำอวยพร ถ้าพวกท่านเชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้
ฉธบ. 11:28 เป็นคำสาปแช่ง ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่หันเหไปจากทางซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ไปติดตามพระอื่นซึ่งท่านไม่รู้จัก

ฉธบ. 30:15 “จงดูเถิด วันนี้ข้าพเจ้าได้วางชีวิตและสิ่งดี ความตายและสิ่งร้ายไว้ต่อหน้าท่าน
ฉธบ. 30:16 คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์และให้รักษาพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และทวีมากขึ้น และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น

- เป็นความจริง และเป็นชีวิต         
สดด. 119:142 ความชอบธรรมของพระองค์ชอบธรรมอยู่เป็นนิตย์ และธรรมบัญญัติของพระองค์เป็นความจริง
สดด. 119:151 ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงอยู่ใกล้ข้าพระองค์ และพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ก็สัตย์จริง

และเป็น ชีวิต
ฉธบ. 32:46 ท่านก็กล่าวแก่เขาว่า “จงใส่ใจในถ้อยคำซึ่งข้าพเจ้าเป็นพยานแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านจะได้บัญชาลูกหลานของท่าน ให้เขาระวังที่จะทำตามถ้อยคำทั้งหมดของธรรมบัญญัตินี้
ฉธบ. 32:47 เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกท่าน แต่เป็นเรื่องชีวิตของท่านทั้งหลาย โดยเรื่องนี้จะทำให้ท่านมีชีวิตยืนนานในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น”

- เป็นความสว่าง                  
สภษ. 6:23 เพราะบัญญัติเป็นประทีป และคำสอนเป็นแสงสว่าง และคำตักเตือนเพื่อการสั่งสอนเป็นทางแห่งชีวิต
สดด. 119:105 พระวจนะของพระองค์เป็นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์
อสย. 51:4 ชนชาติของเราเอ๋ย จงฟังเสียงของเรา ประชากรของเราเอ๋ย จงเงี่ยหูฟังเรา เพราะว่าธรรมบัญญัติจะออกไปจากเรา และความยุติธรรมของเราจะเป็นความสว่างของชนชาติทั้งหลาย

- และเป็นพระวจนะ                
อสย. 1:10 จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ พวกผู้ปกครองเมืองโสโดม จงเงี่ยหูฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้าของเรา พวกประชาชนเมืองโกโมราห์
อสย. 2:3 และชนชาติจำนวนมากจะมาและกล่าวว่า “มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์ ไปยังพระนิเวศของพระเจ้าของยาโคบ แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีของพระองค์แก่เรา และเพื่อเราจะเดินในมรรคาของพระองค์” เพราะว่าธรรมบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระยาห์เวห์จะออกมาจากเยรูซาเล็ม

พระคัมภีร์ใหม่ (Ketuvim Netzarim)  กล่าว่า พระเยซู พระเมสิยาห์  ทรงเป็น

- ทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต  และทรงเป็นความสว่าง    
ยน. 14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา

ยน. 8:12 พระเยซูตรัสกับพวกเขาอีกครั้งหนึ่งว่า “เราเป็นความสว่างของโลก คนที่ตามเรามาจะไม่ต้องเดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต”

ยน. 1:4 พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์
ยน. 1:5 ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดไม่อาจเอาชนะความสว่างได้
ยน. 1:9 ความสว่างแท้ที่ทำให้มนุษย์ทุกคนเห็นความจริงได้นั้นกำลังเข้ามาในโลก

ยน. 3:19 หลักการพิพากษามีอย่างนี้ คือความสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะกิจการของพวกเขาเลวทราม
ยน. 9:5 ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก เราก็เป็นความสว่างของโลก”

ยน. 12:35 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ความสว่างจะอยู่ท่ามกลางพวกท่านอีกหน่อยหนึ่ง เมื่อยังมีความสว่างอยู่ก็จงเดินไปเถิด เพื่อที่ว่าความมืดจะได้ตามท่านไม่ทัน คนที่เดินอยู่ในความมืดย่อมไม่รู้ว่าตนไปทางไหน
ยน. 12:36 ขณะที่พวกท่านมีความสว่าง จงวางใจในความสว่างนั้น เพื่อจะได้เป็นลูกของความสว่าง” เมื่อพระเยซูตรัสอย่างนั้นแล้วก็ทรงจากไป และทรงซ่อนพระองค์ให้พ้นจากพวกเขา

ยน. 12:46 เราเข้ามาในโลกเป็นความสว่าง เพื่อทุกคนที่วางใจในเราจะไม่อยู่ในความมืด

ยน. 14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา

- พระวจนะ (the Word) 

เพราะว่า พระเมสิยาห์ (ฮามาสิยาห์) ทรงเป็นโทราห์ (พระวจนะ) ที่มีชีวิต (และมาบังเกิดเป็นมนุษย์)
ยน. 1:1 ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า
ยน. 1:2 ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า
ยน. 1:3 พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ

ยน. 1:14 พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง
ยน. 1:15 ยอห์นเป็นพยานให้กับพระองค์ และร้องประกาศว่า “นี่แหละ คือพระองค์ผู้ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงว่า พระองค์ผู้เสด็จมาภายหลังข้าพเจ้าทรงเป็นใหญ่กว่าข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนข้าพเจ้า”
ยน. 1:16 เพราะเราได้รับพระคุณซ้อนพระคุณจากความบริบูรณ์ของพระองค์
ยน. 1:17 คือว่าเราได้ธรรมบัญญัตินั้นมาทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์
ยน. 1:18 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าเลย แต่พระบุตรองค์เดียวผู้สถิตในพระทรวงของพระบิดา ทรงสำแดงพระเจ้าแล้ว

วว. 19:13 พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่ได้จุ่มในเลือด และพระนามที่เรียกพระองค์นั้นคือ “พระวาทะของพระเจ้า”

พระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.shachah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น