พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า
“เรามีอาหารรับประทานที่พวกท่านไม่รู้”
มีข้อผิดพลาดในทางของภาษา Aramaic อยู่หนึ่งคำคือคำว่า ‘อาหาร’ ซึ่งมีความแตกต่างของการแปลสองความหมายดังนี้
1. makultha = nutrients (สารอาหาร หรือ บำรุง,)
หรือ nourishment (บำรุง , อาหารที่บำรุงร่างกาย)
2. sevartha = food (อาหาร)
ภาษา Aramaic คำสำหรับ 'อาหาร' คือ 'sevartha' เช่นในลูกา ที่กล่าวถึงอาหารสำหรับเลี้ยงคนทั้งปวง
ลก. 9:13 แต่พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “พวกท่านจงเลี้ยงเขาเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรมาก มีแค่ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว นอกเสียจากจะไปหาซื้ออาหารให้ประชาชนทั้งหมดนี้”
ใน ยอห์น 4:32 ยาชูวาห์ใช้คำที่แตกต่างสำหรับ 'อาหาร' ; makultha นั่นหมายถึง 'สารอาหาร'
อาหาร (FOOD)
หมายถึง สิ่งที่รับประทานเข้าไปแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย หากสิ่งใดที่รับประทานเข้าไปแล้ว ไม่ก่อประโยชน์แต่อาจเกิดโทษต่อร่างกาย ไม่จัดว่าสิ่งนั้นเป็นอาหาร ได้แก่ ผงชูรส สารกันบูด เหล้า เบียร์ เป็นต้น ในพระวจนะ ยาชูวาห์ตรัสว่า “เป็นอาหารแห่งชีวิต”
ยน. 6:35 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิว และคนที่วางใจในเราจะไม่กระหายอีกเลย
สารอาหาร (NUTRIENT)
หมายถึง อาหารที่กินเข้าไปแล้ว ถูกย่อยด้วยกระบวนการย่อย จนได้โมเลกุลของอาหารที่
เล็กลง จนร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ซึ่งสารอาหารที่สาคัญมี 6 ชนิด ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรท วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน และน้า
"แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า เรามีสารอาหารรับประทานที่พวกท่านไม่รู้"
ทำไมองค์ยาชูวาห์จึงตรัสเช่นนี้ ?
เมื่อเราเปรียบเทียบ makultha;อาหาร/สารอาหาร ซึ่งหมายความว่า 'อาณาจักร' “MALKUTHA”
(kingdom) เราสามารถเข้าใจความตั้งใจ หรือน้ำพระทัยของพระองค์คือ การสอนการเล่นสำนวนว่า ทั้งสองคือ 'อาหารแห่งจิตวิญญาณ' makultha และ อาณาจักรของพระยาห์เวห์ makultha เป็นเรื่องเรื่องเดียวกัน
ยน. 4:31 ในระหว่างนั้นพวกสาวกทูลเชิญพระองค์ว่า “พระอาจารย์ เชิญรับประทานเถิด”
ยน. 4:32 แต่พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เรามีอาหารรับประทานที่พวกท่านไม่รู้”
ยน. 4:33 พวกสาวกจึงถามกันว่า “มีใครเอาอาหารมาให้พระองค์แล้วหรือ?”
ยน. 4:34 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของผู้ที่ทรงใช้เรามาและทำให้งานของพระองค์สำเร็จ
มัทธิว 13: 31 "แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนเมล็ดพืช เมล็ดหนึ่งซึ่งคนหนึ่งเอาไปเพาะลงในไร่ของตน เมล็ดนั้น เล็กกว่าเมล็ดทั้งปวง แต่เมื่องอกขึ้นแล้วก็ใหญ่กว่าผักอื่น และเจริญเป็นต้นไม้จนนกในอากาศมาทารังอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของต้นไม้นั้นได้ ”
หมายถึง แผ่นดินของคนที่รับพระคำพระเจ้า เป็นสารอาหารแห่งชีวิต จะทำให้จิตวิญญาณเติบโต ต้นไม้จะเติบโต ต้องหยั่งรากลงลึก เพื่อดูดสารอาหารจากพื้นดิน รากยิ่งลึกมากเท่าใด ต้นไม้นั้น จะยิ่งแข็งแรง ชีวิตของผู้มีความเชื่อในยาชูวาห์ ต้องรับอาหารคือ พระวจนะคือโทราห์ของพระองค์ทุกวัน จึงจะเติบโต แข็งแรง ใน
การที่จะเติบโต ไม่ใช่โตทางสมอง แต่เติบโตขึ้นในฝ่ายวิญญาณ คือ เติบโตด้านความเชื่อ ความหวัง และความรัก ชีวิตที่เติบโตในพระเจ้า จะมีอารมณ์หนักแน่นมั่นคง ไม่หวั่นไหว มั่นคงในความเชื่อ
1คร. 13:13 และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้
- ความเชื่อ Emunah อีมูนาห์ คือความมั่นใจและการะทำตาม พระวจนะเจ้า คือโทราห์
- ความหวัง Tikvah หมายถึง หวัง ความหวัง คาดหวัง หรือการล้างบาป (ขึ้นอยู่กับบริบท)
- ความรัก Ahava ในวัฒนธรรมตะวัน ตก หมายถึง “ความรัก” ซึ่งไม่มากไปกว่า อารมณ์ ความรู้สึกซึ่งกันและกัน แต่ควารมหมายในภาษาฮีบรู มีความหมายที่ลึกมาก คำกริยา (le’ehov) หมายถึง จัดหา จัดเตรียมให้ ป้องกันและคุ้มครอง
โยบ 23:12 ข้ามิได้พรากจากพระบัญญัติแห่งไพรพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าสะสมพระวจนะแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ไว้มากกว่ากฎเกณฑ์ของข้า
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น