ขอบคุณพระเจ้าทุกสถานการณ์หรือ?
วันนี้ไปอธิฐานที่คริสตจักรวันอังคาร ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นและมีความสุขดีเยี่ยม เพราะกำลังจะเข้าสู่งานรับใช้ใหญ่ การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่อีกหนึ่งงานคือ "หายโรคโดยความเชื่อ" หลายคนพบเจอและประสบปัญหา แต่ผมไม่ และก็ฟื้นกำลังภายในจากงาน "กองทัพอธิฐาน" มาหมาดๆ
แต่แล้วก่อนจะกลับเนื่องจากมุ่นวุ่นวายอยู่กับ การโอนไฟล์วิดีโอ เก็บกี่ต้าร์ และเก็บเบส เดินปิดเครื่องเสียงทั้งโบสถ์และคุยกับคนอีกหลายคน ก่อนจะขึ้นรถคลำไปที่กระเป๋ากางเกง เอาล่ะ มือถือหาย !!! ไหนเนี่ยะ อันที่จริงไม่ได้โทษใครเลย รู้อยู่ว่าเราพลาดแล้วที่ลือว่าถือไปตรงไหนบ้าง เดินหารอบโบสถ์ก็ไม่เจอ จะโทรเข้าก็ดันเปิดสั่นซะนี่ เยี่ยมจริงๆ แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดเปิดเปิงไปหมด บทความที่เราเขียนขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็หวนกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งว่า
เราห่วงอะไรมากกว่า จริงอยู่มือถือสำคัญมาก แต่สำคัญกว่าจิตวิญญาณภายในเราที่ต้องสูญเสียไปกับอารมณ์ที่ขาดความเชื่อหรือไม่?? เพลงหนึ่งกล่าวว่า เสียอะไรก็ให้เสียไป แต่อย่าเสียพระเจ้า
ถ้าพระคัมภีร์เราหาย เราจะโมโหขนาดนี้หรือไม่
ขอบคุณพระเจ้าที่นำออกมาจากถิ่นทุรกันดารที่มีแต่การขาดความเชื่อ ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่พ่ายแพ้คำหลอกลวงว่า เบอร์นี้ใช้มา 10 กว่าปี เสียดายจริงๆ จะติดต่องานยังไง ใครโทรมาจะทำยังไง โทรไม่ติดจะเสียหายแค่ไหน เสียดายนั่น เสียดายนี่ คิดแต่เรื่องของผลเสียๆหายๆ สิ่งที่ยังคงอยู่คือความหนักแน่นมากกว่าที่ไม่ยอมให้มีการแทรกแทรงในสนามรบในความคิดอย่างเด็ดขาด
1เธสะโลนิกา 5:18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่ง ปรากฏอยู่ในพระ เยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย
แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สิ่งนี้ก็สอนให้เราคิดในสิ่งดีๆ บวกๆ ฝึกคิดดีๆบวกในทุกสถานณ์การ แผนการของพระเจ้าล้ำลึกเกินความเข้าใจของเรา เราเลือกที่จะขอบคุณพระเจ้าในสิ่งที่พบเจอเพื่อที่เราจะพึ่งพาพระองค์และสัมผัสกับฤทธิ์เดช หรือเลือกที่จะกระวนกระวายใจ บ่น เราคงรู้แล้วล่ะว่าผลลัพธ์คืออะไร ?
ยังไงพรุ่งนี้ค่อยไปหาต่อ ไม่แน่อาจอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึง
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น