วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

รูปเคารพ

รูปเคารพ
อพย. 20:3 “ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
อพย. 20:4 “ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน
อพย. 20:5 ห้ามกราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน

1 ยอห์น 5:21
ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย จงระวังรักษาตัวไว้ให้พ้นจากรูปเคารพ เอเมน

1 โครินธ์ 6:9
ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมจะไม่ได้รับ อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวเมียเขา คนนิสัยเหมือนผู้หญิงหรือคนที่เป็นกะเทย
10:7 ท่านทั้งหลายอย่านับถือรูปเคารพ เหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้กระทำ ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า ‘ประชาชนก็นั่งลงกินและดื่ม แล้วก็ลุกขึ้นเล่นสนุกกัน’

10:14 พวกที่รักของข้าพเจ้า เหตุฉะนั้นท่านจงหลีกเลี่ยงเสียจากการนับถือรูปเคารพ

เอเฟซัส 5:5 เพราะท่านรู้แน่ว่า คนล่วงประเวณี คนโสโครก คนโลภ ที่เป็นคนไหว้รูปเคารพ จะได้อาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้าเป็นมรดกก็หามิได้

เมื่อพระคัมภีร์บันทึกถึง รูปเคารพ เราคิดถึงอะไร ผมเคยได้รับการสอนว่า อะไรก็ตามที่เราให้ความสำคัญมากกว่า หรือให้สิ่ง ๆ นั้น คน ๆ นั้น มาก่อนพระเจ้า เช่นตื่นนอนมาและทำสิ่งอื่นใดก่อน นั่นถือว่าเป็นรูปเคารพ ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์

ในพระคัมภีร์ไม่มีตอนไหนเลยที่สื่อว่า มนุษย์เป็นรูปเคารพ บางคนปรนนิบัติพ่อแม่ ก่อนที่จะเฝ้าเดี่ยว ก็ถูกสอนว่า พ่อกับแม่เป็นรูปเคารพ และพระเจ้าผู้หวงแหนจะทำบางสิ่งบางอย่างกับรูปเคารพ เช่นความเจ็บป่วย หรือความทุกข์ยากอื่น ๆ

รูปเคารพในพระคัมภีร์ คือ รูปที่ปั้นขึ้น แกะสลักขึ้น หล่อขึ้นมาด้วยความร้อน ฯลฯ ที่มาจากฝีมือของมนุษย์ที่สร้างขึ้น ปัจจุบันอาจจะเป็นรูปภาพ วัตถุมงคลต่าง ๆ

สดด. 115:4 รูปเคารพของคนเหล่านั้นเป็นเงินและทองคำ เป็นหัตถกรรมของมนุษย์
สดด. 115:5 รูปเหล่านั้นมีปาก แต่พูดไม่ได้ มีตา แต่ดูไม่ได้
สดด. 115:6 มีหู แต่ฟังไม่ได้ยิน มีจมูก แต่ดมไม่ได้
สดด. 115:7 มีมือ แต่คลำไม่ได้ มีเท้า แต่เดินไม่ได้ รูปเหล่านั้นทำเสียงในคอไม่ได้

จริงอยู่ที่เราไม่ควรให้ความสำคัญกับมนุษย์มากกว่า สาละวนกับคนจนลืมพระเจ้า แต่เขาเหล่านั้น พ่อ แม่ ภรรยา ลูกของเรา ไม่ใช่รูปเคารพ พระเจ้าให้เรารักครอบครัว รักบิดามารดา รักภรรยา รักลูกให้มาก ๆ

เมื่อเราเห็นใครที่ไม่ได้ให้พระเจ้าเป็นหนึ่งในชีวิต ตื่นมาก็ลาละวนกับการดูแลปรนนิบัติ ครอบครัว ไม่อธิษฐาน ไม่เฝ้าเดี่ยว จงตักเตือนเขา แต่อย่าไปบอกว่า “ครอบครัวคุณเป็นรูปเคารพ ระวังพระเจ้าจะทำบางอย่างกับครอบครัวคุณนะ”

อพยพ 34:14
(เจ้าอย่านมัสการพระอื่นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระนามว่าหวงแหน เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน)
คำว่า หวงแหนคือ รักและถนอมไม่อยากให้ใครแตะต้อง ความหึงหวงเป็นการเรียกร้องให้อีกฝ่ายจงรักภักดี พระองค์ต้องการให้เรามีแต่เพียวพระองค์ผูเดียว ถ้าเราเปรียบภาพของสามีและภรรยา มันไม่ใช่เป็นการหึงหวงแบบที่สามีอารมณ์เสียเมื่อเห็นภรรยาไปคุยกับชายอื่นและร่าเริง แต่มันเป็นการหึงหวงแบบสามีเรียกร้องให้ภรรยารักเขาและมีเขาเป็นสามีเพียงคนเดียว เราอาจจะมีอคติกับคำว่าหึงหวงในด้านที่ไม่ดี แต่ความหึงหวงของพระองค์คือต้องการให้เรามีพระองค์เพียงผู้เดียว
พระองค์ต้องการให้เรามีแต่เพียงพระองค์ผู้เดียว พระสองพระจะอยู่ด้วยกันไม่ได้

คส. 3:5 เพราะฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยในตัวท่าน คือการล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ (ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ)

พระวจนะตอนนี้กำลังเตือนเราด้วยว่า รูปเคารพเป็นท่าทีในใจด้วยเช่นกัน ในพันธสัญญาเดิมรูปเคารพส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องเพศ การล่วงประเวณี ราคะตัณหา และความโลภ พระคัมภีร์ตอนนี้จึงเปรียบกับนมัสการรูปเคารพ

ปัจจุบันมีศัพท์ที่ใช้เรียกคนที่เรายกให้เป็นแบบอย่าง เป็นฮีโร่ หรือต้นแบบที่เราจะเดินตามว่า ไอดอล (idol) idol มีความหมายว่า คนหรือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมหรือคลั่งไคล้อย่างมาก หรืออีกความหมายหนึ่งคือ เทวรูป หรือรูปเคารพ

รูปปั้นถูกปั้นมาจากท่าทีในใจที่ผิด ๆ นั่นคือรูปเคารพ
ส่วนมนุษย์ที่เราคลั่งไคล้ ก็มาจากตัณหาภายในจิตใจ หรือท่าทีที่ผิดในใจ เราก็สร้างรูปเคารพขึ้นในใจเราเอง

หากเรามี ไอดอลในใจ คลั่งไคล้ดาราคนไหน อยากจะเป็นเหมือนใครที่เราหลงใหล ชีวิตนี้อยากจะเดินตามเขาไม่ว่าเขาจะทำตังดีหรือร้าย แทนที่จะอยากที่จะเป็นและเดินตามชีวิตของพระเยซู เราเองก็สร้างรูปเคารพไว้ในใจของเราเอง จงประหารมันเสีย ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น