วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย

อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย
ฮบ. 10:25 อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว

พระคัมภีร์ใช้คำว่า "อย่าขาดการประชุม" เราสามารถตีความได้ว่า อย่าขาดโบสถ์หรือคริสตจักรนะก็ไม่ผิด แต่ทำไมพระคัมภีร์ถึงเตือนว่าอย่าขาดที่คริสตจักรมีอะไร จุดมุ่งหมายในการมาคริสตจักรเพื่อนมัสการพระเจ้า ยกย่องและสรรเสริญพระองค์
หลายครั้งเราคาดหวังแต่เพียงมารับที่คริสตจักร ต้องการการทรงสถิต อยากอยู่ในการทรงสถิต บทเพลงที่ใช้ก็มุ่งไปที่ตัวเอง ฉัน ฉัน ฉัน ฉันต้องการมากขึ้น ขอไฟลงมา ขอการทรงสถิต แต่บ่อยครั้งที่เราขาดซึ่งการสรรเสริญ ยกย่อง และนมัสการในพระองค์

ในตอนต่อมาพระคัมภีร์บันทึกว่า "แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น" นี่จึงเป็นหัวข้อสำคัญของการมาร่วมประชุมนั่นคือ นมัสการและสามัคคีธรรม เราคือพระกายเดียวกัน ดังนั้นต้องมีการสามัคคีธรรม เราอาจจะมีโปรแกรมมากมาย บำบัด เยียวยา รักษาโรคจนยาวเหยียด แต่การสามัคคีธรรม และการหนุนน้ำใจซึ่งกันและกันได้ตายไปจากคริสตจักรหรือกายของพระองค์

หากเรามองหาต้นเหตุไม่ได้ว่า ทำไมคริสตจักรจึงถอยหลังลงไปและเป็นคริสตจักรที่ใกล้ตายทั้งที่เราดำเนินการดีทุกอย่าง วางมือ รักษาโรค เทศนาหนัก ๆ เพื่อหนุนน้ำใจอย่างทุ่มเท นั่นเป็นเพราะการสามัคคีธรรมได้ตายไปแล้วนั่นเอง

อย่าขาดการประชุมคือ อย่า “ละเลย” หรืออย่า "ละทิ้ง" ที่จะอยู่ร่วมกัน พบปะกัน (ESV2011) หรืออย่าขาดการสามัคคีธรรม การนมัสการพระเจ้าวันอาทิตย์ ไม่ใช่เพียงมาฟังประชาสัมพันธ์ นมัสการขอการเจิม ถวายทรัพย์ เทศนา และจบด้วยกิจกรรมพิเศษ แต่ขาดซึ่งการสามัคคีธรรม การสามัคคีธรรมที่น่าศึกษาในพระคัมภีร์ใหม่นั้นคือการสมมัคคีธรรมบนโต๊ะอาหาร ร่างกายที่ขาดปฏิสัมพันธ์ก็ไม่อาจจะตอบสนองได้

ลักษณะชีวิตของผู้เชื่อและคริสตจักรในยุคแรกจัดเวลารับประทานอาหารเป็นส่วนหนึ่งของประเพรีและวัฒนธรรมของชาวยิว อาหารค่ำของชาวยิวบนโต๊ะ ไม่ได้เป็นเพียงโต๊ะเพื่อที่จะกินอาหารแต่ยังเป็นโอกาสสำหรับการสามัคคีธรรม สรรเสริญและนมัสการ หรือแม้แต่อธิษฐาน พร้อมการเรียนการสอนในพระวจนะของพระเจ้า ลองนึกภาพของสังคมยิวที่ไม่มีโต๊ะอาหาร ทานกับแบบสบาย ๆ หรือ ชิว ๆ เมื่อพี่น้องร่วมความเชื่อหรือแม้แต่ในครอบครัวเอนกายนอนเอนหลังลงที่โต๊ะ เจ้าบ้านหรือพ่อจะอธิษฐาน ร้องเพลง สอนและแบ่งปันพระวจนะ กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าช่วงเวลาของการรับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาของ "หลักคำสอนในการสมมัคคีธรรม"

กจ. 2:42 เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน

กจ. 20:7 ในวันอาทิตย์เมื่อเราประชุมกันทำพิธีหักขนมปัง เปาโลก็กล่าวสั่งสอนเขาทั้งหลาย และเพราะท่านตั้งใจจะจากไปในวันรุ่งขึ้น ท่านจึงกล่าวยืดยาวไปจนถึงเที่ยงคืน

สำหรับสาวกหรือผู้เชื่อ บรรยากาสของความสนิทสนมของบรรดาพี่น้องในพระกายของพระเยซูคือเวลาที่ยอดเยี่ยม ไม่มีการคำนึงถึงสถานะทางสังคม เพศ หรือชาติพันธุ์ มื้ออาหารเปรียบได้กับจุดโฟกัสของการสามัคคีธรรม มันเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและความสุขที่ยิ่งใหญ่ และเป็นหัวใจสำคัญของการคบหาสมาคมผู้เชื่อ

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น