พระเยซูทรงลูกลา
กดว. 22:23 เมื่อลานั้นเห็นทูตของพระยาห์เวห์ถือดาบในมือยืนขวางทางอยู่ ลาก็เลี้ยวออกจากทางและเดินเข้าไปในทุ่งนา บาลาอัมจึงตีลาให้กลับไปตามทางเดินในบทที่ 22 ของกันดารวิถี ผู้เผยพระวจนะบาลาอัมตั้งใจที่จะเดินทางไปสาปแช่งอิสราเอล ระหว่างเดินทางนั้นทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ยืนขวางทางและในมือถือดาบ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาสาปแช่งคนอิสราเอล เมื่อลาเห็นทูตสวรรค์ก้เลี้ยวออกนอกเส้นทาง ด้วยเหตุนี้บาลาอัมจึงตีลาไปสามครั้ง
ชื่อบาลาอัมแปลว่า “not of the people” เราเห็นภาพว่าเขาเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จและไม่ใช่สำหรับคนอิสราเอล เพราะบาลาอัมต้องการสาปแช่งและทำร้ายพวกเขา "ลา" ในที่นี้เป็นสัญลักษณ์ของอิสราเอล และบาลาอัมขู่ว่าจะฆ่าเธอ “เพราะเจ้ากลั่นแกล้งเรา เราอยากจะมีดาบอยู่ในมือ เราจะได้ฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้”
แต่พระเมสสิยาห์ (พระเยซู) คือผู้พยากรณ์ที่แท้จริงที่ทรงมาเพื่อที่จะไถ่ถอน ไม่ใช่มาเพื่อทำลายหรือสาปแช่งอิสราเอล พระองค์มาเพื่อถอนคำแช่งสาป
ศคย. 9:9 ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงร่าเริงอย่างยิ่งเถิด โอ บุตรีแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงโห่ร้อง นี่แน่ะ กษัตริย์ของเธอเสด็จมาหาเธอ ทรงความยุติธรรมและความรอด พระองค์ทรงอ่อนสุภาพและทรงลา ทรงลูกลา
มธ. 21:2 มีรับสั่งว่า “จงเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้า แล้วจะพบแม่ลาตัวหนึ่งผูกอยู่กับลูกของมัน จงแก้และจูงมาให้เรา
มธ. 21:3 ถ้ามีใครพูดอะไร ท่านทั้งสองจงบอกว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกท่านมีพระประสงค์’ แล้วเขาจะปล่อยให้มาทันที”
มธ. 21:4 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้เป็นไปตามพระวจนะที่ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า
มธ. 21:5 “จงบอกชาวศิโยนว่า นี่แน่ะ กษัตริย์ของท่านกำลังเสด็จมา ด้วยความสุภาพอ่อนโยน พระองค์ทรงลา ทรงลูกลา”
มธ. 21:6 สาวกทั้งสองคนนั้นก็ไปทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง
มธ. 21:7 จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา แล้วเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง และพระองค์ก็ทรงลานั้น
ในมัทธิว 21: 2-7 พระเมสสิยาห์ (พระเยซู) ได้บรรลุความจริงและดำเนินถึงสิ่งที่ถูกพยากรณ์ถึงพระองค์ในคำพยากรณ์นี้ เมื่อพระองค์ทรงลาผ่านกรุงเยรูซาเล็มสี่วันก่อนเทศกาลปัสกา ซึ่งผู้เชื่อรู้จักหรือเรียกกันว่า “Palm Sunday”
ต่อมาในพระคัมภีร์ เปโตรพูดถึง "ทางแห่งบาลาอัม (Βαλααμ) ผู้รักค่าจ้างอันไม่ชอบธรรม" (2 เปโตร 2:15) ยอห์นผู้ประกาศข่าวประเสริฐได้กล่าวถึง "คำสอนของบาลาอัม" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางสะดุดก่อนอิสราเอล (วิวรณ์ 2:14)
ชาโลม
ktm.Emunah
ที่มา : http://doubleportioninheritance.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น