วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สิ่งมลทิน ในมาระโก 17

 สิ่งมลทิน ในมาระโก 17
มาระโก 7:1-23
ประเด็นในพระวจนะตอนนี้เป็นเรื่องการล้างมือ แต่อีกมุมก็คืออาหารที่สะอาดหรือไม่สะอาด ตอนที่ว่า
มก. 7:14 แล้วพระองค์ทรงเรียกฝูงชนมาอีก ตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านทุกคนจงฟังเราและเข้าใจเถิด
มก. 7:15 ไม่มีสิ่งใดภายนอกที่เข้าไปภายในมนุษย์แล้วจะทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในมนุษย์นั่นแหละที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน”

พระวจนะในบรินี้จึงเป็นการโต้เถียงและตัดสินซึ่งกันและกันในเรื่องของการกิน เพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน นั่นหมายความว่า อาหารทุกอย่างรับประทานได้และพระเจ้าชำระแล้ว

เรามาดูความหมายในพระวจนะตอนนี้ซึ่งเป็นบริบทอธิบายในช่วงเวลานั้น (ในปัจจุบันอหารอะไรกินได้หรือไม่ได้ หรือได้หมดทุกอย่างเราจะไม่พูดถึงนะครับ)

ในบริบทตอนนั้น พระวจนะพูดถึงเรื่องอาหารแต่เป็นเรื่องของการล้างมือ เพราะสำหรับยิวในตอนนั้นอาหารมลทินเป็นสิ่งที่พวกเขารู้ดี แยกแยะและรู้ว่าเป็นธรรมบัญญัติอยู่แล้ว แต่พระเยซูต้องการทำลายคำสอนตกทอดจากบรรพบุรุษและกฎหมายของฟาริสีต่างหาก

ในมาระโก 7 ฟาริสีได้จับผิดพระเยซูที่ได้ละเมิดกฎเกณฑ์ที่เป็นของบรรพบุรุษตัวเอง ในเรื่องการล้างมือ ฟาริสีกับพวกยิวทุกคนถือตามคำสอนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษว่า ถ้าไม่ได้ล้างมือตามพิธีโดยเคร่งครัดแล้ว จะไม่รับประทานอาหารเลย

ทำไมต้องล้างมือ หากเราสังเกตุ ไม่ใช่คำว่าล้างมือเฉย ๆ เพราะชีวิตปกติของเรานั้นรับประทานอะไรเราต้องล้างมือ หากไปทำสวน ทำเกษตร พักเที่ยงทานข้าวใช้มือปั้นข้าวเหนียวก็ต้องล้างมือ นี่เป็นเรื่องปกติของคนทั่วโลก และทั้งในอดีตและปัจจุบันในเรื่องความสะอาดและอนามัย

แต่คำว่าพิธีล้างมือ คือ Netilat Yadayim พิธีล้างมือแบบดั้งเดิมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษมักทำตอนเช้า มีขั้นตอนเป็นสิบขั้นตอน ก่อนที่จะรับประทานอาหาร

และก่อนทำพิธีนี้ มือของคุณควรจะทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วก่อนทำพิธีนี้ โดยจะใช้ถ้วยมีหูจับสองหู เทน้ำเริ่มจากมือขวา และสลับไปมา ล้างจนถึงข้อศอกเสร็จแล้วสวดบทสวด หากลืมสวดต้องกลับไปเริ่มต้นทำขั้นตอนพิธีล้างมือใหม่

ทุกสิ่งเป็นสิ่งต้องห้าม ก่อนรับประทานขนมปัง “ทำไมพวกสาวกของท่านไม่ประพฤติตามคำสอนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่กลับรับประทานอาหารด้วยมือที่เป็นมลทิน?”

พระเยซูจึงไม่ได้พูดถึงอาหารทุกอย่างในเรื่องมลทินหรือไม่แต่เป็นประเด็นของ คำสอนตกทอด
มก. 7:19 เพราะว่าสิ่งนั้นไม่ได้เข้าไปในใจ แต่ลงไปในท้องแล้วก็ถ่ายออกลงส้วมไป” (เป็นการประกาศว่าอาหารทุกอย่างสะอาด)

ในต้นฉบับกรีกหรืออารเมค ไม่มีในวงเล็บ (เป็นการประกาศว่าอาหารทุกอย่างสะอาด) และถึงแม้ว่าจะมีแต่ในมุมมองเราก็เข้าใจได้ว่า หมู หรือสัตว์มลทิน ไม่ถือเป็นอาหารอยู่แล้ว ข้อนี้จึงหมายถึง "เพราะว่าสิ่งนั้นไม่ได้เข้าไปในใจ (คืออาหารที่ผ่านการล้างมือตามกฎของบรรพบุรุษ)"

พระเยซูกำลังจัดลำดับให้เราได้เห็นว่า ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่พิธีทางศาสนา หรือพิธีการชำระร่างกายที่สร้างกฎขึ้นมากำหนด แต่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ (ข้อ 14-23) การตีความนี้เป็นการสรุปข้อสรุปของมัทธิวซึ่งกล่าวได้ว่า "การกินด้วยมือเปล่าไม่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน" (มัมธิว 15:20)

มธ. 15:20 สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่การรับประทานอาหารโดยไม่ล้างมือก่อน ไม่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน”

ชาโลม
ktm.Emunah
ค้นคว้าจาก http://www.hebrewroot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น