วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หน้าซื่อใจคด (อย่ากล่าวโทษผู้อื่น)

หน้าซื่อใจคด (อย่ากล่าวโทษผู้อื่น)

มธ. 7:5 คนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้

“หน้าซื่อใจคด” (hypocritical ,hypocrite) ประโยคสั้นๆในพระคัมภีร์ที่มักพาดพิงไปที่ บรรดาฟาริสี หมายถึงอะไร
คำว่า หน้าซื่อใจคด หรือ ผู้เสแสร้ง, ผู้หลอกลวง, เจ้าเล่ห์, หน้าไหว้หลังหลอก, ตีสองหน้า และคำนี้ยังหมายถึง ผู้เสแสร้ง ในภาษากรีก หมายถึง “นักแสดง” นั่นก็คือการสร้างภาพนั่นเอง

คำนี้มีมีความหมายเดียวกับคำว่า “หน้าไหว้หลังหลอก” ในสำนวนไทย หมายความว่า ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง เช่นต่อหน้าทำดีด้วยเหมือนไม่มีอะไร แต่ลับหลังก็พูดถึงคนอื่นในทางร้ายๆ

ต่อหน้าทำเป็นดี แต่พอลับหลังก็นินทาหรือ หาทางทำร้าย, ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก
ในบางครั้ง เราต้องเจอผู้คนในความหลากหลาย บางคนต่อหน้าเราพูดดี แต่ลับหลังเราพูดดีเข้าตัวพูดชั่วใส่เรา คนประเภทนี้มักวิ่งหาฐานเสียง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่งคง พึ่งพิงทางด้านอารมณ์ แต่ไม่เคยคิดหรืออาจจะมองข้าม จุดอ่อนหรือจุดบอดของตัวเอง บางครั้งไม่รู้ตัว แต่บางครั้งก็เพื่อกลบเกลื่อนมูลที่ตัวเองถ่ายไว้ พระวจนะจึงเปรียบกับ ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาตนเอง แต่กลับมองเห็นผงที่อยู่ในตาของคนอื่น ซึ่งการจะมองเห็นเศษผงนี้ได้ต้องพยายามจับจ้องค้นหา นั่นคือจ้องแต่จะจับผิดแต่คนอื่น

สภษ. 12:15 ทางของคนโง่นั้นถูกต้องในสายตาของเขาเอง แต่คนมีปัญญาย่อมฟังคำแนะนำ
สภษ. 12:16 คนโง่ย่อมแสดงความฉุนเฉียวของตนทันที แต่คนสุขุมย่อมไม่ใส่ใจต่อการสบประมาท

สภษ. 12:23 คนสุขุมย่อมเก็บงำความรู้ไว้ แต่คนโง่ป่าวร้องความโง่ของตน

เมื่อมีใครบางคนมาดูถูก หรือพูดในเรื่องไม่จริงเกี่ยวกับเรา เป็นเรื่องปกติที่จะตอบโต้กลับไป แต่วิธีนี้ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มีแต่ปัญหาจะเพิ่มมากขึ้น พระวจนะไม่ได้ห้ามเราตอบโต้ แต่จงตอบโต้อย่างสุภาพและสงบ ด้วยผลของพระวิญญาณที่มี ด้วยสติปัญญาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงเป็นความจริง เราต้องฝึกที่จะตอบสนองในทางบวก

ยก. 1:26 ถ้าใครคิดว่าตัวเองเป็นคนมีธรรมะแต่ไม่ได้ควบคุมลิ้นของตน เขาก็หลอกลวงจิตใจของตนเอง และธรรมะของคนนั้นก็ไม่มีประโยชน์

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโ,ม
ktm.emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น