วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

จงระงับความโกรธของคุณ

จงระงับความโกรธของคุณ


สภษ. 16:32 บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก และบุคคลผู้ปกครองจิตใจตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
สภษ. 15:1 คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ


ความโกรธมีแต่จะทำให้ตกต่ำ เสมือนไฟที่สุมหัว ร้อนก็ร้อนตนเอง ความโกรธไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือเป็นไปตามใจปรารถนา ดังนั้นจงพิจารณาเมื่ออารมณ์โกรธพลุ่งขึ้นมา
หากไม่ดับไฟโกรธหรือระงับโทสะ ย่อมนำไปสู่ความคิดในแง่ลบ
พระวจนะเตือนเราว่าการโกรธช้า (ไม่ใช่ห้ามโกรธหรือไร้อารมณ์) ก็ดีกว่าคนที่มีกำลังมาก ถ้าเราเคยดูการชกมวย การเป็นผู้ชนะไม่ใช่ผู้ที่มีกำลังมากเสมอไป แต่เป็นคนที่มีสติปัญญา ทนต่อการยั่วยุของคู่ต่อสู้ และควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี เราเองเมื่อเจอคนโกรธเราต้องไม่โกรธตาม เพราะยิ่งลามเหมือนไฟเจอน้ำมัน เพราะคนโกรธ (บางคน) มักสบถคำที่ออกมาจากส่วนลึกเพื่อตอบสนองความโกรธด้วยคำ กักขฬะ คำพูดเพื่อความสะใจ คำนี้หมายถึง หยาบ, แข็ง, กระด้าง

อฟ. 4:31 จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน

ความโกรธบางครั้งเป็นรากความขมขื่นสะสมภายในและกินเวลานาน บางฉบับใช้คำว่า ใจขัดเคือง ไม่พอใจกัน ตามมาด้วยการพูดเสียดสี ผู้สอนบางคนแทนที่จะเทศนาเรื่องชีวิต กลับเทศนาส่อเสียด เสียดสี สมาชิกก็มีมาแล้ว

คิงเจมส์ อฟ. 4:31 จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง อยู่ห่างไกลจากท่านเถิด

คส. 3:8 แต่บัดนี้ท่านทั้งหลายจงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือความโกรธ ความฉุนเฉียว การคิดร้าย การใส่ร้าย และคำพูดหยาบโลนที่ออกจากปากของท่าน
คำหยาบคาย หรือ คำหยาบ หมายถึงคำที่สื่อถึงความไม่สุภาพ สื่อความความหมายในแง่ที่ไม่ดี หรือ ฟังไม่ไพเราะ ด่าทอ การดูหมิ่น

ยก. 1:20 เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ก่อให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า

อย่าเอาความโกรธของมนุษย์ไปเทียบกับคสามโกรธของพระยาห์เวห์ หรือพระเยซูเพราะนั่นคนละบริบทกัน พระวจนะบอกถึงผลของพระวิญญาณในการควบคุมตนเอง

ปญจ. 7:9 อย่าให้จิตใจของเจ้าโกรธเร็ว เพราะความโกรธฝังอยู่ในทรวงอกของคนเขลา
ยก. 1:19 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจในเรื่องนี้ คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ

ศัตรูของเราคือซาตาน ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ความโกรธนำมาซึ่งการทุ่มเถียง การไม่ฟังเหตุผล พระวจนะจึงให้เราไวในการฟังเรียนรู้ที่จะฟังเหตุและผล และความจริง ช้าในการพูดกล่าวโทษและคำกักขฬะสารพัด ตลอดจนช้าในการโกรธ ซึ่งไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ดังนั้นผู้ที่กล่าวว่า “ฉันโกรธมาก” ก็บ่งบอกถึงความเติบโตของตนเอง

ความ โกรธของของคนเรานั้นมักจะทำให้เกิดความอาฆาตและความแค้น บางคนพูดเสมอว่า”โกรธ” แต่พระพิโรธของพระเจ้าไม่ได้เกิดจากความเห็นแก่ตัวและยังเปี่ยมด้วยพระกรุณาคุณ อีกด้วย พระพิโรธของพระองค์อาจหมายถึงความรักมั่นคงที่ไม่เสื่อมคลาย ที่ต่างความโกรธของมนุษย์ เพื่อทำให้ศัตรูของเรายอมกลับใจและเชื่อในพระองค์ได้ เราจึงไม่ต้องแก้แค้นด้วยตัวของเราเอง “เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบสนอง” อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” (รม.12:19, รม.12:21)

เมื่อใดก็ตามที่เรากำลังโกรธ เราเป็นมนุษย์ย่อมต้องมีความโกรธบ้าง มากน้อยแต่ละคนแตกต่างกัน แต่เมื่อเราโกรธจงระลึกเสมอว่า ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของเรานั้น อาจจะถูกควบคุมด้วยบางสิ่งบางอย่าง ผมเปรียบเทียบภาพความโกรธก็เหมือนต้องมนต์สะกด ที่บางครั้งทุกอย่างไม่เป้นอย่างที่เราอยากให้เป็น พูดในสิ่งที่เราไม่อยากพูด มาคิดได้อีกครั้งเมื่อความโกรธจางหาย แต่เรามักมาเสียใจทีหลัง ข่าวสารทางโทรทัศน์มากมาย ต้นเหตุอาชญากรรม การฆ่ากัน การทะเลาะและทำร้ายกัน การเลิกรากัน อีกสารพัด มาจากความโกรธทั้งสิ้น

ไวที่จะฟัง ทั้งเสียงของพระเจ้าด้วย ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ

อฟ. 4:26 “จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป”  อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่
อฟ. 4:27 อย่าให้โอกาสแก่มาร

อย่า ให้ดวงอาทิตย์ตกลงไปพร้อมกับความโกรธของท่าน สำหรับผมแล้ว การตกของดวงอาทิตย์เทียบได้กับการเริ่มต้นวันใหม่ จงอย่างเริ่มต้นวันใหม่พร้อมกับความโกรธ
ความโกรธเป็นอารมณ์ของมนุษย์ ความโกรธไม่ได้เป็นความบาปในตัวมันเอง แต่ความโกรธเป็นจุดเริ่มต้นของความบาปที่จะตามมาและบ่มอยู่ภายใน

ความโกรธเป็นเวลานาน หรือความโกรธฝังใจ หรือโกรธมาแต่ต้นกำเนิด จะทำลายท่านทั้งหลายจากภายใน

ร่าง กายของเราคือพระวิหาร นี่เป็นเวลาที่เราจะขจัดความโกรธออกไปจากวิหาร ก่อนที่ภายในวิหารซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าจะถูกทำลาย ผมเชื่อว่าการโกรธจนควบคุมไม่ได้ หรือโกรธฝังใจจะเป็นไปได้อย่างไรที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทับภายในท่าน ทั้งหลาย

จงปล่อยมันไป ยาชูวาห์เองก็ไม่สนับสนุนเลยที่จะเก็บมันไว้ ก่อนที่จะเริ่มต้นวันใหม่ หรืออรุณรุ่งของวันใหม่จะมา

"ใจเย็นๆ" เวลามีปัญหาเราได้รับคำหนุนใจเช่นนี้บ่อยๆ คำว่าใจเย็น คือใจเย็น
จริงๆ ไม่ใช่เ เย็นชา หรือเยือกเย็นนะครับ เราเยือกเย็นในความโกรธ แต่ไม่เยือก
เย็นในพระเจ้า นะครับ
และไม่ใช่ เสแสร้งใจเย็น คือภายนอกดูสงบ แต่ภายในแตกซ่านไปด้วยความ
โกรธ จนเต็มพิกัด แต่ก็ยังดีกว่าคนที่ไม่คิดจะใจเย็นเลย เราต้องพัฒนา ใจของ
เราให้สงบเย็นลง เมื่อไฟแห่งความโกรธกำลังสุมและก่อตัวขึ้น เราต้องไม่เติม
เชื้อเพลิงให้มันจนลุกลามต่อไปได้อีก

เราอาจจะไม่พอใจบางคนในพฤติกรรม การกระทำ จะเนื่องด้วยสาเหตุอะไรก็
แล้วแต่ จะเนื่องด้วย ใครผิดใครถูกก็ตาม อย่าให้อารมณ์ของเราพลุ่งพล่าน
เราต้องเชื่อเสมอว่า "คนใจเย็นจะมีชัยชนะ"

การอยู่ร่วมกัน และการมีปฏิสัมพันธ์กันนั้น จะหลีกหนีการมีความขัดแย้งกัน
ไม่ได้เลย หลีกออกมาก่อนที่จะมีการโต้แย้งกันด้วยอารมณ์ ความสัมพันธ์มัก
จะมีปัญหาและรอยร้าวตรงนี้ การพูดออกไปแบบไม่ยั้งคิด และการตั้งรับกับ
คำพูดที่ไม่ยั้งคิด เราจะรับมือได้ยังไง

สุภาษิต 17:27
"บุคคลที่ยับยั้งถ้อยคำของเขาเป็นคนมีความรู้  
และบุคคลผู้มีจิตใจเยือกเย็นเป็นคนมีความเข้าใจ"

สำนวนใน Niv กล่าวว่า
"ผู้ที่มีความรู้ก็ระวังปาก ผู้ที่มีความเข้าใจก็ใจเย็น"


สุภาษิตเน้นให้เห็นผลดีหลายอย่างของการสงบปากสงบคำยั้ยยั้งคำพูด คือ
1. หยุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด
ถือว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุด หากคุณไม่มีอะไรที่ควรจะพูด

2. หยุดฟังเปิดโอกาสฟังและเรียนรู้
เพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้ฟังและเรียนรู้

3. หยุดคิดและฟัง เพื่อเราจะมีถ้อยคำที่ควรจะพูดและเหมาะสม
มันจะทำให้เราดูฉลาดขึ้น จงหยุดคิดสักนิด นั่งคิดและฟัง เพื่อว่าคุณจะพูดแต่เรื่อง
สำคัญจริงๆเท่านั้น

บุคคลที่ยัยยั้งถ้อยคำก็มีความรู้ คือให้เราระมัดระวังความคิด ที่อาจจะสร้างความ
ไม่พอใจและขุ่นเคืองให้กับผู้อื่น เราอาจจะพูดโดยไม่คิด พูดเล่นหรือเสียดสี เหน็บ
แนม เอาปมด้วยผู้อื่นมาล้อเลียน เราไม่อาจจะรู้เลยว่า คำพูดที่เคยพูดแล้วเขาไม่โกรธ
ครั้งต่อมาคำพูดเดียวกันนี้อาจจะ ไม่เหมือนเดิม อาจจะเป็นคำพูดที่ทำให้เขาเจ็บปวด
มากก็เป็นได้ พระคัมภีร์บอกว่าคนฉลาดจะคิดก่อนพูดและจะแสดงความคิดเห็น
เฉพาะที่เป็นประโยชน์เท่านั้น

คำแนะนำในสุภาษิตสอนให้เราควบคุมอารมณ์เวลาที่เผชิญกับสิ่งต่างๆ ปัญหาที่รุมเร้า
ขึ้นมา "บุคคลที่มีจิตใจเยือกเย็นเป็นคนมีความเข้าใจ" คนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณจะ
แสดงความเข้าใจจากภายในโดยการรักษาจิตใจให้สงบเยือกเย็น ท่ามกลางความขัดแย้ง
และทุกๆๆๆๆ ปัญหา การโต้ตอบสิ่งใดด้วยสภาพที่กำลังมีอารมณ์โกรธ การแก้ปัญหาจะ
ง่ายขึ้นกับการรู้จักควบคุมอารมณ์ให้คงที่

หากเรากำลังโกรธใครอยู่ มีปัญหากับผู้ใด หรือไม่พอใจใครนั้น หยุดคิดไว้ก่อน...............
และใครครวญด้วยการอธิษฐานสักพัก
จงทูลกับพระเจ้าในห้องลับส่วนตัวของเรากับพระเจ้า ให้เรามีจิตใจที่สงบ และขอประทาน
ถ้อยคำที่เหมาะสม ที่มาจากพระเจ้า จำไว้เสมอ "ใจเย็น"

1 เปโตร 5:8
"ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดีด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียน
อยู่รอบๆดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้"

ตอนนี้เตือนเราเช่นกัน สงบใจไว้ อย่ายอมพ่ายแพ้ การที่เราทำอะไรโดยขาดความยัยยั้ง
ออกไปก็คือการเปิดช่องว่างให้แก่ซาตานที่จะโจมตีเรา

บทความที่เกี่ยวข้อง
ถ้าเราพูดถึงคำหยาบคาย หลายครั้งเราจะเห็นคำด่าเฉพาะเจาะจง ไอ้ ฮ. ไอ้ ส. และหลายๆคำ แต่แท้จริงคำหยาบคายในความหมายของพระวจนะ มีความหมายที่มากกว่านั้นแม้แต่ในภาษาไทยเอง
หยาบคาย (rudely) หมายความว่า ไม่สุภาพ กักขฬะ เช่นดื่มเหล้ามากๆ จะพูดจาหยาบคาย คนดื่มเหล้ามักพูดไม่ฟังใครพุดไปเรื่อยๆ
ขี้จาบ (rude) หมายความว่า มีกิริยาหยาบคายไม่สุภาพ  ทั้งกิริยา ท่าทาง และภาษาที่หยาบกระด้าง
 ดังนั้นพระวจนะจึงสอนว่า

สภษ. 15:1 คำ​ตอบ​นุ่ม​นวล​ช่วย​ละลาย​ความ​โกรธ​เกรี้ยว​ให้​หาย​ไป แต่​คำ​กัก​ขฬะ​เร้า​โทสะ
 แน่นอนเมื่อเราควบคุมอารมณ์ของเราได้ คำพูดที่เราพูดออกไปจะอ่อนสุภาพ และละลายความโกรธ และเปิดหูของผู้ฟัง
การพูดโดยเอาอารมณ์ของตัวเองนำพา ย่อมทำให้ความจริงของพระเจ้าผิดเพี๊ยนไป และแต่งเติมถ้อยด้วยอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว

อฟ. 4:29 อย่า​ให้​คำ​หยาบ​คาย​ออกมา​จาก​ปาก​ท่าน​เลย แต่​จง​กล่าว​คำ​ที่​ดี​และ​เป็น​ประโยชน์​ให้​เหมาะสม​กับ​ความ​ต้อง​การ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คุณ​แก่​คน​ที่​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​
ในฉบับ 2011 บันทึกว่า อฟ. 4:29 อย่า​ให้​คำ​เลว​ร้าย​ออก​จาก​ปาก​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย แต่​จง​กล่าว​คำ​ดีๆ ที่​เสริม​สร้าง​และ​ที่​เหมาะ​กับ​ความ​ต้อง​การ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คุณ​แก่​คน​ที่​ได้​ยิน

1คร. 13:4 ความ​รัก​นั้น​ก็​อด​ทน​นาน​และ​มี​ใจ​ปรานี ความ​รัก​ไม่​อิจ​ฉา ไม่​อวด​ตัว ไม่​หยิ่ง​ผยอง
1คร. 13:5 ไม่​หยาบ​คาย ไม่​เห็น​แก่​ตัว ไม่​ฉุน​เฉียว ไม่​ช่าง​จด​จำ​ความ​ผิด
1คร. 13:6 ไม่​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​ความ​อธรรม แต่​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​ความ​จริง
1คร. 13:7 ความ​รัก​ทน​ได้​ทุก​อย่าง เชื่อ​อยู่​เสมอ มี​ความ​หวัง​และ​ความ​ทร​หด​อด​ทน​อยู่​เสมอ

ความรักนั้นไม่หยาบคาย คำว่าหยาบคาย บางครั้งพระคัมภีร์บางฉบับใช้คำว่า การกล่าวหรือพูดที่ไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง คำว่าไม่ถูกต้องคือกล่าวอย่างลอยๆ
เราทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้า อาจจะมีกรอบที่ว่า แม้เราไม่พูดคำหยาบ ฮ หรืออื่นๆ แต่เมื่อเราปล่อยให้ความโกรธครอบงำความคิด ซาตานจะใส่และดึงความคิดในมุมชั่วของเรา ออกมากล่าวโทษพี่น้องและกล่าวร้ายซึ่งกันและกัน เมื่ออีกฝ่ายติดไฟตามไปด้วย ก็เข้าทางของมารเข้าให้แล้ว

ขอพระเจ้าอวยพระพรเรา
ชาโลม
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น