วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข้าพระองค์รักธรรมบัญญัติของพระองค์

ข้าพระองค์รักธรรมบัญญัติของพระองค์


สดด. 119:97 โอ ข้าพระองค์รักธรรมบัญญัติของพระองค์จริงๆ เป็นคำภาวนาของข้าพระองค์เสมอ
ในภาษาเดิม “โอ ข้าพระองค์รักโทราห์ของพระองค์ และโทราห์ของพระองค์คือคำภาวนาของข้าพระองค์ทุกวัน”

คำว่าโทราห์ Torah תּוֹרַת อาจจะแปลได้ว่า กฎหมาย ซะส่วนมาก หรือธรรมบัญญัติ มีรากศัพท์ในภาษาฮีบรูว่า Yarah יָרָה (yaw-raw') แปลว่า teach (สั่งสอน) Yarah ยังแปลได้อีกว่า การยิงธนู หรือยิงลูกศรให้ตรงเป้าหมาย (กดให้ตรงเครื่องหมาย) คำสั่ง และยังหมายถึง  การวางรากฐานด้วย

พระเยซู คือเป้าประสงค์และทรงเป็นโทราห์ที่มีชีวิต พระวจนะบันทึกว่า ถ้าผู้ใดรักเราก็รักและจะประพฤติตามธรรมบัญญัติของเรา
ยน. 14:15 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
ยน. 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้กับพวกท่าน เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป
ยน. 14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ พวกท่านรู้จักพระองค์เพราะพระองค์สถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่าน

จากพระวจนะพระองค์สัญญาว่าจะช่วยเรา เมื่อเราไม่สามารถทำตามหนังสือม้วนนั้นได้ บัญญัติที่เป็นภาระจะไม่เป็นภาระอีกต่อไป

มธ. 11:29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก
มธ. 11:30 ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”

เราไม่จำเป็นต้องแบกภาระของโลกอีกต่อไป และยังหมายถึงความจำกัดของเราที่เราไม่สามารถทำตามธรรมบัญญัติของเราได้อีก เพราะเรามีความบาป แต่พระองค์ได้เอาธรรมชาติบาปของเราออกไปโดยแผนการอันแยบยลของพระองค์ โดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงมีชัยชนะ

ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องทำตามธรรมบัญญัติแล้ว เหมือนที่ทรงตรัสว่า
มธ. 5:17 “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ
คำว่าสำเร็จ คือการมาทำตามนั้นทุกประการ ตอนนี้โทราห์ไม่ใช่หนังสือม้วนอันน่ากลัวและเป็นภาระอีกต่อไป แต่พระองค์คือโทราห์ ทรงเป็นโทราห์ที่มีชีวิต (living Torah)

พระองค์ไม่ได้มาล้มเลิก ไม่ได้มาเป็นจุดจบ ไม่ได้มาตั้งศาสนาใหม่ แต่คำว่าจะสร้างคริสตจักรขึ้นใหม่ใน
มธ. 16:18 เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรไม่ได้

สร้างใหม่ ในภาษาเดิมคือการ รื้อฟื้น และคำว่ารื้อฟื้น ไม่ได้หมายถึงการสร้างใหม่แต่เป็นการรื้อฟื้นสิ่งเดิมและสิ่งเก่าที่ล้มลง เมื่อมนุษย์เองเป็นคนหักพันธสัญญา เมื่อเขาล้มลงในธรรมบัญญัติ
แต่ตอนนี้พระองค์คือโทราห์ที่มีชีวิต พระองค์มาในความเป็นเนื้อหนังของมนุษย์ มาซึมซับเอาโทราห์ พระองค์ประพฤติและปฏิบัติตามโทราห์และธรรมบัญญัติทั้งหมดได้อย่างไม่มีที่ติ ไม่ได้ทำแบบวิญญาณศาสนาแต่ทำด้วยความรักอย่างแท้จริง เราต้องเชื่อว่าธรรมบัญญัติไม่ได้สูญสิ้นไปแต่พระองค์ทำสำเร็จแล้ว

1คร. 3:11 เพราะว่าใครจะมาวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์

ถ้าเรายังบอกว่าเรารักพระเยซู ร้องเพลงว่ารักพระองค์สุดหัวใจ แต่ไม่เอาธรรมบัญญัติ เราก็ไม่รักพระองค์อย่างแท้จริง เราก็ไม่ได้อยู่บนรากฐานอันมั่นคง เราต้องเข้าใจอย่างแท้จริงว่า การกลับไปที่โทราห์หรือธรรมบัญญัตินั้น ไม่ใช่การกลับไปเพื่อจะล้มลง ไม่ใช่การเดินออกจากเสรีภาพที่เรายืนอยู่ บัดนี้บัญญัติได้ถูกจารึกไว้ในใจของเราทุกคน ถูกเขียนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

ยรม. 31:33 “แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเชื้อสายของอิสราเอลภายหลังสมัยนั้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เราจะบรรจุธรรมบัญญัติไว้ในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา

พระเยซูจะสอนเราตีความและเชื่อฟังโทราห์ของพระบิดาได้อย่างถูกต้อง พระองค์จะสอนเรา เราอาจจะล้มแต่เราก็จะล้มบนรากฐานที่มั่นคงโดยพระองค์ผู้ทรงเป็นรากฐาน เรากลับใจและสารภาพและเริ่มต้นใหม่ (ไม่ใช่ช่องว่างเพื่อจะทำบาป) ธรรมชาติบาปของเราจะถูกเอาออกไป พระองค์ไม่ได้มาทำการบ้านแทนเรา มาทำธรรมบัญญัติแทนเราและมันล้มเลิกไป มันไม่สบายขนาดนั้นแน่นอน บัดนี้พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยเราให้มีสติปัญญา ให้ความเข้าใจกับเราโดยธรรมชาติใหม่ของพระองค์ ผ่านกางเขน (คือทุกสิ่งที่พระองค์มาทำและสำเร็จ)
แต่มันอยู่ที่เราจะเลือกว่าทางไหน

เหตุนี้เมื่อเราบอกว่าเรารักพระองค์ เราก็จะประพฤติตามบัญญัติของพระองค์ เมื่อเราภาวนาบัญยัติของพระองค์ พระวจนะบอกว่า ธรรมบัญญัติของพระองค์ก็หวานดั่งน้ำผึ้ง คำว่าภาวนา

สดด. 19:10 น่าปรารถนามากกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองบริสุทธิ์มากนัก หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง ที่หยดลงจากรวง

“my meditation” คำกริยาหมายถึง “การสำนึกผิดด้วย” ธรรมบัญญัติช่วยเราได้ ช่วยให้เราแยกแยะระหว่างขาวและดำ ผิดและถูก

สภษ. 6:20 ลูกเอ๋ย จงเฝ้ารักษาบัญญัติของพ่อเจ้า และอย่าละทิ้งคำสอนของแม่เจ้า
สภษ. 6:21 จงพันมันไว้ที่ใจของเจ้าเสมอ จงผูกมันไว้รอบคอของเจ้า
สภษ. 6:22 เมื่อเจ้าเดิน มันจะนำเจ้า เมื่อเจ้านอน มันจะเฝ้าเจ้า และเมื่อเจ้าตื่น มันจะพูดกับเจ้า
สภษ. 6:23 เพราะบัญญัติเป็นประทีป และคำสอนเป็นแสงสว่าง และคำตักเตือนเพื่อการสั่งสอนเป็นทางแห่งชีวิต
สภษ. 6:24 เพื่อปกป้องเจ้าไว้จากหญิงชั่ว จากลิ้นพะเน้าพะนอของหญิงสำส่อน

พระบิดาทรงรักเราและได้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเรารักพระองค์และวางใจพระองค์ เดินตามพระองค์คือพระเยซูอย่างแท้จริง ภาวนาธรรมบัญญัติของพระองค์ บัญญัติของพระบิดาก็จะถูกเขียนที่หัวใจของเรา ทุกที่ที่เราไป ธรรมบัญญัติ (Torah) ของพ่อคือพระบิดาก็จะนำเรา ไม่ว่าจะนอนหรือตื่น วันนี้เราจะเปลี่ยนทัศนะและท่าทีใหม่ไหม ที่จะรักธรรมบัญญัติของพระองค์ เพราะสิ่งนั้นไม่ใช่ภาระอีกต่อไป “ข้าพระองค์รักธรรมบัญญัติของพระองค์” แท้จริงโทราห์ก็คือ คำสอน (คำสอนของพระยาห์เวห์)

ชาโลม
Ktm.shachah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น