วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระเจ้าไม่เคยมาสาย

พระเจ้าไม่เคยมาสาย
หากเราอธิษฐานหรือหนุนใจคนที่กำลังทุกข์ใจหรือเผชิญความยากลำบากว่า "พระเจ้าไม่เคยมาสาย" เขาอาจจะรอคอยพระเจ้าว่าเมื่อไรพระองค์จะมา หรือพระเจ้ามาสายได้ด้วยหรือ ?

บางครั้งเราหนุนใจด้วยถ้อยคำจากประสบการณ์ เมื่อพระเจ้าช่วยในสถานการณ์ที่เฉียดฉิวสำหรับตนเอง ซึ่งอาจจะทำให้คนที่รับคำหนุนใจเข้าใจว่า พระเจ้าอาจจะมาทีหลังเรา หรือไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา

แท้จริงพระเจ้าอยู่ล่วงหน้าเราเสมอ แน่นอนพระองค์ไม่เคยมาสาย เพราะพระองค์ไม่ได้จากเราไปไหนเลย พระเจ้าสถิตอยู่กับผู้เชื่อ

เมื่อเรามีความรักให้กับพี่น้อง เพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะรักโดยการกระทำการดีกับเขา ให้สิ่งของ ให้ความช่วยเหลือจุนเจือ หนุนน้ำใจ หรือให้อภัยในความผิด ไม่ทำการร้ายตอบแทนการร้าย ไม่เปิดโปงความผิดให้เขาต้องอับอายซึ่งเป็นการทำร้ายเขาและพิพากษาตัดสิน เมื่อเราอวยพรให้กับผู้ที่ข่มเหงเราและแช่งด่าเรา พระเจ้า (พระวิญญาณบริสุทธิ์) ก็ทรงสถิตอยู่กับคนนั้น วิหารที่ประทับของพระองค์ เพราะพระเจ้าทรงเป็น "ความรัก" ที่ใดมี "ความรัก" พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ที่นั่น

1ยน. 4:12 ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้าไม่ว่าเวลาใด ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา
1ยน. 4:16 เราทั้งหลายจึงรู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น
การดำเนินชีวิตในความรัก ตามบัญญัติของพระเจ้า คือการที่เราจะได้อยู่กับการสถิตอยู่ของพระองค์

อฟ. 3:17 เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจของท่านโดยความเชื่อ เพื่อว่า เมื่อทรงวางรากฐานท่านไว้อย่างมั่นคงในความรักแล้ว

ดังนั้นพระเจ้าไม่ได้ทรงไป ๆ มา ๆ หรือช่วยใครอย่างเฉียดฉิวเพื่อให้ตื่นเต้นจะได้เชื่อและเป็นพยานมาก ๆ

สดด. 46:1 พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก

"พระเจ้าไม่เคยมาสาย" อาจจะเป็นคำที่หนุนใจทำให้รู้สึกดี มีความหวัง แต่ในความเป็นจริง พระวจนะบันทึกชัดเจนว่า พระองค์เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก

อาจจะมีคำถามว่า ทำไมหลายครั้งบางคนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันทีทันใด แต่บางคนรอจนเฉียดเส้นยาแดง หรือบางคนต้องเผชิญกับมรสุมนั้นอย่างยากลำบาก

การอธิษฐานขอบางสิ่งบางอย่างทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้านั้น ก็อาจจะเป็นการเปลืองลมหายใจ หรือการตีความพระวจนะว่า จงขอแล้วจะได้

มธ. 7:7 “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน

ดังนั้น อะไรคือคำว่า อธิษฐานขอแบบผิดๆ ใน ยากอบบันทึกว่า เราขอและไม่ได้รับเพราะว่าเราขอผิด
ยก. 4:3 พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง
มันคือการอธิษฐานขอที่ไม่จริงใจและไม่บริสุทธิ์ใจ และเพื่อตอบสนองตัณหาของเราเอง

ยก. 1:5 แต่ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้าผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัยกว้างขวางและไม่ทรงตำหนิ แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ

1ยน. 5:14 และนี่เป็นความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟัง
1ยน. 5:15 และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังเมื่อเราทูลขอสิ่งใด เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์

คำว่า “ขอ” ในที่นี้เป็นคำเดียวกับคำว่า อนุญาต, ยอม, ให้
พระองค์ให้เสรีภาพแก่เราที่จะเลือก ยอมหรือไม่ยอม ดังนั้นเราต้องเปิดใจ ยอมให้ หรืออนุญาต ให้พระองค์ทรงกระทำการนั้น ๆ ที่พระองค์ทรงทราบดีอยู่แล้วว่าเราต้องการสิ่งใด และสิ่งนั้นเป็นไปตามพระทัยของพระองค์

พระหัตถ์ของพระเจ้า ยังเป็นภาพของการทรงสถิต พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่เราต้อนรับและเชื่อในพระองค์ จงเชื่อว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราตลอดเวลา เพียงแต่เราจะยอมหรืออนุญาตให้พระองค์กระทำการนั้น ๆ ในเราหรือไม่

การดำเนินชีวิตในความรัก ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่ง หากเราดำเนินชีวิตในความรักเท่ากับเราก็ดำเนินตามพระทัยและบัญญัติของพระองค์ด้วย เพราะพระคัมภีร์เน้นในเรื่องความรักมากและเป็นบัญญัติข้อใหญ่

1ยน. 4:12 ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้าไม่ว่าเวลาใด ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา
1ยน. 4:16 เราทั้งหลายจึงรู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น

การดำเนินชีวิตในความรัก ตามบัญญัติของพระเจ้า คือการที่เราจะได้อยู่กับการสถิตอยู่ของพระองค์

ยังมีตัวแปรอีกมากมาย บางคนเป็นหนี้ค่าเช่าบ้าน ไม่จ่ายเงิน แต่เอาเงินไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย เมื่อเจ้าของบ้านจะมาขอบ้านคืน ก็อธิษฐานว่าขอพระเจ้าช่วยปลดหนี้หรือมีเงินมาทันจ่ายค่าบ้าน และรับคำหนุนใจว่า พระเจ้าไม่เคยมาสาย ซึ่งในความเป็นจริงเขาอาจจะต้องรับผลในการกระทำที่ขาดสติปัญญาของเขา

แท้ที่จริง "การช่วยเหลือของพระเจ้าไม่เคยสายในสถานการณ์ชีวิตของเรา"

คำพูดเล็กน้อยดูเหมือนไม่น่าจะซีเรียส แต่กับผู้เชื่อที่ยังใหม่ก็อาจจะมีผลต่อความเชื่อในชีวิตของเขา บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ว่า"พระเจ้าไม่เคยมาสาย" ผิดหรือถูก แต่หนุนใจให้เราเข้าใจทุกถ้อยคำที่เราจะใช้ว่าเราต้องมีความเข้าใจในพระลักษณะของพระเจ้า

ชาโลม
ktm.Emunah

1 ความคิดเห็น:

  1. หนูกำลังเจอกับปัญหาที่หนักมากมันเกินกำลังของหนูและหนูก็อธิษฐานกับพระเจ้า แต่จนถึงบัดนี้พระองค์ก็ยังไม่ตอบ หลายครี้งที่คิกอยากฆ่าจะตัวตาย หนูหมดหวังแล้วจริงๆ

    ตอบลบ