วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันแห่งความรัก วาเลนไทน์

วันแห่งความรัก
วาเลนไทน์
“วันแห่งความรัก” เมื่อกล่าวถึงวันนี้หลาย ๆ คนอาจจะคิดถึงวัน “วาเลนไทน์” ก่อนเป็นอันดับแรกแม้แต่ผู้เชื่อ คริสเตียนก็มักถือเอาวันนี้เป็นวันประกาศ เพื่อสำแดงความรัก

ในหลาย ๆ ครั้งวันหรือเทศกาลในพระคัมภีร์นั้นถูกต่อต้านและกล่าวว่า เทศกาลในพระคัมภีร์เดิมนั้นได้หมดไปแล้ว และถูกยกเลิกไปแล้ว แน่นอนในแง่มุมของพิธีกรรมนั้นอาจจะหมดไปแล้วแต่ความเป็นเทศกาลยังไม่ได้จางหายไป พระเยซูพระองค์ไม่ได้มาเพื่อล้มเลิกแต่มาทำให้สำเร็จ ดังนั้นในทุก ๆ เทศกาลเราจึงไม่ได้ดำเนินในศาสนา พิธีกรรม แต่เราระลึกถึงพระเยซูด้วยหัวใจรัก เพราะทุกถ้อยคำ ทุกคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์ล้วนเล็งมาที่พระเยซูทั้งสิ้น พระองค์เข้ามาในโลกนี้ก็ด้วยใจรัก ด้วยความรักของพระบิดาที่มีต่อมนุษย์

ยน. 3:16 พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์

คำถามคือ ทำไมเราล้วนตื่นเต้นยินดี ในวันคริสมาส วันวาเลนไทน์ วันอีสเตอร์ แม้แต่เทศกาลของไทย คือวันสงกรานต์ และลอยกระทง วันนี้เราไม่ได้มาพูดชี้ผิดหรือชี้ถูกกัน แต่แท้ที่จริงวันแห่งความรักคือวันอะไรแน่ ๆ ที่เราควรระลึกถึง

ที่มาของวันวาเลนไทน์นั้น หลาย ๆ คนคงอ่านหรือฟังจนเบื่อตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงเรื่องราวของ นักบุญคนหนึ่งชื่อ "เซนต์วาเลนไทน์" นอกจากนี้สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุด ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์เลยก็ว่าได้คือ สัญลักษณ์รูป "หัวใจ"

เราเคยสังเกตุไหมว่าที่มาของสัญลักษณ์รูปหัวใจนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร แท้จริงที่มาของสัญลักษณ์รูปหัวใจนี้มีที่มาที่ยาวนานและแตกต่างกันออกไปมากมาย

นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวถึงว่า อาจจะมีที่มาจากเมล็ด "Silphium" เพราะว่ามีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์รูปหัวใจ แต่พืชชนิดนี้สูญพันธุ์ไปแล้ว คุณสมบัติของเมล็ดนี้ถูกใช้เป็นยาคุมดำเนิดที่เกิดเองโดยธรรมชาติและได้ผลเป็นอย่างดี เมล็ดของมันจึงเป็นสัญลักษณ์ของ "เซ็กส์และความรัก"

บ้างก็เป็นอีกทฤษฎีที่กล่าวถึงว่ามาจากใบ "Ivy" ซึ่งมีลักษณะเหมือนรูปหัวใจ ในยุคกรีกและโรมัน ใบของพืชชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็น อมตะ ใบของพืชชนิดนี้จะเขียวและสดอยู่ตลอดเวลา ชาวคริสเตียน ในยุคแรก ๆ และชาวโรมันจึงใช้การสลักรูปของใบ Ivy ที่แผ่นหินของหลุมฝังศพ แสดงถึงความรักที่เป็นนิรันดร์ต่อผู้ที่ล่วงลับจากไป แต่ก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยว่าอะไรเป็นแรงจูงใจว่าจะเอามาแทนความเป็นหัวใจของมนุษย์

ในอีกทฤษฎี สัญลักษณ์รูปหัวใจอาจจะเป็นภาพของเรือนร่างของสตรี ส่วนโค้งทั้งสองข้างของสัญลักษณ์เป็นภาพของสะโพกของสตรี ก่อนที่จะเรียวแหลมลงไปในส่วนของโยนี ในตำรา "โยนี" หมายถึงอวัยวะสืบพันธุ์ของสตรี

รูปหัวใจปรากฏในการ์ดวันวาเลนไทน์คาดว่าน่าจะตั้งแต่ปี ตั้งแต่ปี 1910 ยังมีสัญลักษณ์ที่พูดถึงความรักมากมาย เช่น ดอกกุหลาบ, กามเทพ, ช็อกโกแลต ฯลฯ

แท้จริงวันแห่งความรักและเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นวันที่เราระลึกถึงพระเจ้าที่ปลดเราจากทาสบาปด้วยการสิ้นพระชนม์เพื่อเรา พระเจ้ารักเราด้วยความรักแท้ ที่ทรงยอมพลีพระชนม์ และเป็นความรักที่นิรันดร์

ยรม. 31:3 พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล ตรัสว่า เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้น เราจึงนำเจ้ามาด้วยความรักมั่นคง

บางครั้งสัญลักษณ์ต่าง ๆ อาจจะดูเป็นสิ่งที่ดูดี แต่ถ้าเราไม่ระวังหรือไม่ดูที่มาที่ไป สิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่เราเชื่อโดยที่เราไม่ตั้งใจ วันนี้สัญลักษณ์รูปหัวใจ เราอาจจะไม่รู้ที่มาที่แน่ชัด แต่เพียงหนุนใจให้เราระมัดระวัง หลายคนอาจจะแยกแยะได้ แต่หลายคนก็อาจจะแยกแยะไม่ได้ ถ้าเราพูดถึงความรัก หรือวันแห่งความรัก หรือแม้แต่ความรักของพระเยซูภาพที่เราเห็นควรจะเป็นสิ่งดีที่พระเจ้าทำเพื่อเราตลอดในพระคัมภีร์ และในสถานการณ์ชีวิตจริง หรือเราเห็นเพียงสัญลักษณ์รูปหัวใจ

1ยน. 4:8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
1ยน. 4:16 ฉะนั้นเราจึงรู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงอยู่ในคนนั้น

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น