วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

อธิษฐานเผื่อฉันหน่อย

อธิษฐานเผื่อฉันหน่อย
ยก. 5:16 เพราะ​ฉะ​นั้น​ท่าน​จง​สาร​ภาพ​บาป​ต่อ​กัน​และ​กัน และ​จง​อธิษ​ฐาน​เผื่อ​กัน​และ​กัน เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รับ​การ​รัก​ษา​โรค คำ​วิง​วอน​ของ​ผู้​ชอบ​ธรรม​นั้น​มี​พลัง​มาก​และ​เกิด​ผล

จากพระวจนะ ตอนนี้บันทึกว่า “จงอธิษฐานเผื่อกันและกัน” นอกจากนี้พระคัมภีร์หลาย ๆ ก็มีการให้พี่น้องในความเชื่ออธิษฐานเผื่อตนเองด้วยเมื่อต้องออกไปรับใช้ หรือทำพันธกิจ

ดังนั้นการอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่ดีที่เราควรกระทำต่อกัน และตอบสนองต่อกันในครอบครัวแห่งความเชื่อ และพระกายเดียวกัน

แต่หากคำอธิษฐานหรือคำร้องขอกลายเป็นความเคยชิน และหากเราให้คำอธิษฐานของมนุษย์ ทำให้เรารู้สึกดี มีความหวัง รู้สึกดีเมื่อมีคนอธิษฐานเผื่อ หรือเรามักมีคำพูดที่เคยชินว่า “อธิษฐานเผื่อด้วยนะ” เพราะเป็นความเชื่อที่เคยชินว่าหากมีคนอธิษฐานเผื่อยิ่งหลายคนเรายิ่งรู้สึกดี และมั่นใจ

บางครั้งหากมีคนที่มีชื่อเสียง นักเทศน์ที่ดังระดับโลกมา หลายคนยิ่งอยากเข้าหาเพื่อรับคำอธิษฐาน หากท่าทีภายในเชื่อว่า คนเหล่านี้อธิษฐานแล้วมีพลังแห่งความเป็นจริงมากกว่า หรือการเจิมมากกว่าคนอื่นทั่วไปอธิษฐาน ต่อให้คิวยาวแค่ไหนก็อดทนรอได้ (ผมไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้ผิดหรือถูก หากแต่อยู่ที่ท่าทีภายในจิตใจ)

ผู้รับใช้บางคนมีทีมอธิษฐาน บางแห่งใช้คำว่านักอธิษฐานวิงวอนของคริสตจักร ความเชื่อแบบนี้จะทำให้เชื่อว่า หากคริสตจักรมีปัญหาไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด แต่เขาจะเชื่อว่าต้นเหตุคือทีมหรือไม่มีใครอธิษฐาน หากการเงินของคริสตจักรมีปัญหา หากงานรับใช้ของตนเองมีอุปสรรคหรือไม่สำเร็จ หากการเทศนาไม่ราบรื่น หากการทำการอัศจรรย์ในงานรับใช้ไม่เกิดผล หากการเติบโตของคริสตจักรอยู่กับที่ เขาก็จะโทษว่า ไม่มีการอธิษฐานพระเจ้าจึงไม่สถิตอยู่ด้วย

เราต้องกลับมาสำรวจท่าทีภายในใจของเราว่า เรากำลังเชื่อพระคัมภีร์แบบไหน ? การอธิษฐานเป็นสิ่งที่ดีมากและมีพลังมาก เป็นดั่งอาวุธของผู้เชื่อ พระคัมภีร์ก็สอนให้เราอธิษฐานเผื่อกันและกัน และก็ให้เรากล่าวขอคำอธิษฐาน เปาโล ก็ขอคำอธิษฐานเพื่อจะกล่าวพระวจนะที่เป็นความล้ำลึกของพระคริสต์

คส. 4:3 และ​อธิษ​ฐาน​เผื่อ​เรา​ด้วย เพื่อ​ว่า​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​เปิด​ประตู​ให้​เรา​สำ​หรับ​พระ​วจนะ​นั้น คือ​ให้​กล่าว​ความ​ล้ำ​ลึก​ของ​พระ​คริสต์ (ข้าพ​เจ้า​ถูก​ล่าม​โซ่​ก็​เพราะ​เหตุ​นี้)
.
การอธิษฐานเผื่อกันเป็นสิ่งที่ดี แม้แต่ในพระคัมภีร์ก็สอนไว้ให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันด้วย หากแต่การอธิษฐานนั้นต้องอธิษฐานด้วย “ความเชื่อ” และเชื่อในความจริงและเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า พระคัมภีร์สอนให้เราอธิษฐานด้วยความเชื่อ

มธ. 21:22 สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​ท่าน​อธิษฐาน​ขอ​ด้วย​ความ​เชื่อ ท่าน​จะ​ได้”

ยก. 5:14 มี​ผู้ใด​ใน​พวก​ท่าน​เจ็บป่วย​หรือ จง​ให้​ผู้​นั้น​เชิญ​บรรดา​ผู้ปกครอง​ของ​คริสตจักร​มา และ​ให้​ท่าน​เหล่า​นั้น​อธิษฐาน​เพื่อ​เขา และ​เจิม​เขา​ด้วย​น้ำ​มัน​ใน​พระ​นาม​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า

ยก. 5:15 และ​การ​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ​จะ​ช่วย​ให้​ผู้ป่วย​รอด​ชีวิต และ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ทรง​โปรด​ให้​เขา​หาย​โรค และ​ถ้า​เขา​ได้​กระทำ​บาป​พระ​องค์​ก็​จะ​ทรง​โปรด​อภัย​ให้​

ยก. 5:17 ท่าน​เอลียาห์​ก็​เป็น​มนุษย์​ที่​มี​สภาพ​เหมือนกับ​เรา​ทั้ง​หลาย และ​ท่าน​ได้​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ​อัน​แรง​กล้า​ขอ​ไม่ให้​ฝน​ตก และ​ฝน​ก็​ไม่​ตก​ต้อง​แผ่นดิน​ถึง​สาม​ปี​กับ​หก​เดือน

เมื่อเราถูกร้องขอให้อธิษฐานเผื่อ เราอธิษฐานด้วยความเชื่อหรือไม่ ? เราใช้ความเชื่อมากแค่ไหนในการอธิษฐาน ไม่ใช่เพื่อความดูดี ไม่ใช่เพียงถ้อยคำสวยหรูยืดยาว ไม่ใช่เอาใจใคร ไม่ใช่เพื่อหน้าที่ แต่ด้วยความเชื่อ ไม่ใช่พอผ่าน ๆ ไป ที่เต็มไปด้วยรัก เพราะนี่คือบัญญัติข้อใหญ่สุดในสองข้อ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

มธ. 22:39 ข้อ​ที่​สอง​ก็​เหมือน​กัน คือ จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตนเอง

เมื่อเราอธิษฐานเผื่อใคร เราควรอธิษฐานเผื่อเขาด้วยถ้อยคำแห่งความจริง จากพระวจนะ จากน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยความเชื่อ ไม่ใช่เพียงถ้อยคำที่สวยหรู ยืดยาวแต่ตามใจของตัวเราเอง แม้เราจะอยู่ในสภาวะไหน แม้ไม่พร้อม แม้เหน็ดเหนื่อย แม้เราไม่สามารถปฏิเสธได้ในเวลานั้น ๆ แต่หากเราอธิษฐานด้วยความเชื่อที่มาจากรากฐานแห่งความจริง และที่เป็นพระสัญญาของพระเจ้าคำอธิษฐานนั้นจะเกิดผลแยะชุ่มชื้นหัวใจของเขา มีพลังมากแค่ให้กำลังใจและรู้สึกดี เพราะคำอธิษฐานของผ้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล

ยก. 5:16 เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​สารภาพ​บาป​ต่อ​กัน​และ​กัน และ​จง​อธิษฐาน​เพื่อ​กัน​และ​กัน เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​พ้น​โรคภัย คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้​ชอบธรรม​นั้น​มี​พลัง​ทำ​ให้​เกิดผล​

ฮบ. 11:1 ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น