สิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ พระเจ้าทำแล้ว
(โรม 8:3)
เป็นความจริงที่ เราไม่สามารถประพฤติตามธรรมบัญญัติเพื่อจะรอดได้ เนื้อหนังความบาปของเรา ธรรมชาติบาปที่ต่อต้านคำสอนของพระเจ้า ทำให้ธรรมบัญญัติ อ่อนกำลังไป ธรรมบัญญัติในม้วน จึงอ่อนกำลังและพังลงไป พระบิดาจึงมีพระประสงค์ โดยการรื้อฟื้นธรรมบัญญัติ ของพระองค์เองที่อ่อนกำลังและพังลง โดยการส่งพระเยซู (ยาชูวาห์) มาในสภาพเนื้อหนัง (แต่ในพระองค์ไม่มีบาป) เพื่อเอาชนะความบาปและเนื้อหนัง ความตาย บัดนี้พระองค์ (ยาชูวาห์) จึงเป็นโทราห์ (ธรรมบัญญัติ) ที่มีชีวิต แม้เนื้อหนังเราจะอ่อนแอสักเพียงใด ก็ไม่มีวันทำให้ ธรรมบัญญัติ ยาชูวาห์ อ่อนกำลังไปด้วย สิ่งที่ทรงตรัสว่าสำเร็จแล้วนั้น คือชัยชนะอย่างขาดรอย ในพระองค์มีความมั่นคง และพระองค์ได้ตัดสินลงโทษความบาป
พระวจนะตอนนี้บอกเราทั้งหลายว่า เพราะสิ่งซึ่งโทราห์ทำไม่ได้เพราะโทราห์ไม่มีอำนาจในเรื่อง เนื้อหนังความอ่อนแอของมนุษย์ พระยาห์เวห์จึงได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์ในสภาพเนื้อหนังที่บาป และสำหรับความบาป พระองค์ได้ประณามและตัดสินความบาปในเนื้อหนังของมนุษย์ทั้งหมด
สรุปคือ เพราะสิ่งที่ธรรมบัญญัติไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง เพราะเดิมธรรมบัญญัติไม่มีอำนาจที่จะทำให้ธรรมชาติเก่า (ที่สามารถค้านกับธรรมบัญญัติ) ร่วมมือได้ พระยาห์เวห์จึงส่งพระบุตรของพระองค์เองในฐานะมนุษย์ที่ได้อยู่ในธรรมชาติเดียวเช่นเดียวกับเรา (ในสภาพเสมือนเนื้อหนังที่บาป) พระเจ้ากระทำเช่นนี้เพื่อที่จะจัดการกับความบาปและในการทำเช่นนั้นพระองค์ดำเนินการลงโทษต่อบาปในธรรมชาติของมนุษย์”
รม. 8:4 เพื่อสิ่งที่ธรรมบัญญัติสั่งไว้จะได้สำเร็จในตัวเราที่ไม่ดำเนินตามเนื้อหนัง แต่ตามพระวิญญาณ
ในภาษาเดิม มีคำว่าชอบธรรม = เพื่อให้ความชอบธรรมของโทราห์ (ธรรมบัญญัติ) จะสำเร็จในเรา ที่ไม่ดำเนินตามเนื้อหนัง แต่ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แต่การดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ ไม่ได้หมายถึงเสรีภาพและจุดจบของธรรมบัญญัติแบบที่หลายคนเข้าใจ
หรือ “เพียงเพื่อให้ความต้องการ (ความประสงค์ เป้าหมาย) ของธรรมบัญญัติ จะสำเร็จในเราที่ไม่ได้เรียกใช้ชีวิตของเรา ตามสิ่งที่ธรรมชาติเก่าของเราต้องการ แต่ตามสิ่งที่พระวิญญาณต้องการ”
ฮบ. 10:16 “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า นี่คือพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเขาทั้งหลาย หลังจากสมัยนั้น เราจะบรรจุธรรมบัญญัติของเราไว้ในใจของพวกเขา และเราจะจารึกมันไว้ในจิตใจของพวกเขา”
และนี่คือการดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ ที่จะนำเราเดินในธรรมบัญญัติ องค์ยาชูวาห์ (พระเยซู)
มธ. 11:29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก
แอก = คำสอน หรือธรรมบัญญัติของพระเจ้า รวมถึงคำสอนของพระเยซู และการดำเนินชีวิตในพระวจนะที่เป็นบทเรียนคำสอน
จิตใจ = จิตวิญญาณ , จิตวิญญาณจะได้พักผ่อน ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไปในการทรงนำของพระองค์
มธ. 11:30 ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”
“แอกของพระองค์เป็นเรื่องง่าย และภาระของพระองค์ก็เบา” เพียงเรามีความเชื่อและเดินไป ไม่ทำตามใจปรารถนาของเนื้อหนัง
พระเยซูไม่ได้มาลบล้างพันธสัญญาเดิม เพราะกษัตริย์ไม่สามารถกลับคำได้ เมื่ออกคำสั่งและเซ็นสัญญาโดยตราประทับด้วยแหวนของพระองค์เอง ดังนั้น กษัตริย์จึงออก ‚Renewed Decree‛ เป็นการเริ่มพระราชกฤษฎีกาใหม่ ซึ่งพระราชกฤษฎีกาใหม่ไม่ได้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเก่า หรือเดิม พระเยซู ทรงเสด็จมาเพื่อ เพื่อต่ออายุ สร้าง และซ่อมแซม รื้อฟื้น
ชาโลม
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
Ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น