ธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา (3)
กท. 3:24 เพราะฉะนั้นธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา จนพระคริสต์เสด็จมา เพื่อเราจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
คำ ว่าควบคุม ในพระวจนะตอนนี้ ทำให้ความหมายของธรรมบัญญัติ บิดเบี้ยวไปในการคิดตาม ตามกรอบความคิดของภาษาและความหมายของรูปประโยค เพราะคำว่าควบคุม ไม่ต่างอะไรไปจาก ทาส นักโทษ ที่ถูกควบคุมตัว และเป็นทาสภายใต้การควบคุมของธรรมบัญญัติ
ในฉบับแปล ฮีบรู ใช้คำว่า โทราห์ (ธรรมบัญญัติ) จึงเป็นผู้เบิกทางให้เราไปข้างหน้า ถึงวิถีทางของพระเยซู โดยความเชื่อและวางใจในพระองค์
หรือ “แต่ก่อนที่ความเชื่อ ทางนั้นจะมา ธรรมบัญญัติได้ปกป้องเราในขณะที่เราถูกกักตัวไว้ จากความเชื่อ ที่จะได้รับการเปิดเผย ดังนั้นธรรมบัญญัติเป็นผู้บุกเบิกเราไปข้างหน้า ให้คำปรึกษาเราเพื่อเดินตามพระองค์ไว้วางใจในพระองค์ จนกระทั่งเราเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ”
ธรรมบัญญัติในพันธสัญญาเดิมนั้นเปรียบเสมือนผู้รับใช้ ที่นำเราไปถึงจุดหมาย (หรือแปลได้อีกว่า ของครู) tutors = schoolmasters ก็คือครู แต่บางความหมายก็ใช้คำว่าควบคุมด้วย
ตัวอย่างของกษัตริย์ที่ไม่สามารถกลับคำได้ เมื่ออกคำสั่งและเซ็นสัญญาโดยตราประทับด้วยแหวนของพระองค์เอง ดังนั้น กษัตริย์จึงออก ‚Renewed Decree‛ เป็นการเริ่มพระราชกฤษฎีกาใหม่
รม. 10:4 เพราะว่าพระคริสต์ทรงเป็นจุดจบของธรรมบัญญัติ เพื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรม
ใน โรม 10:4 พระเยซู พระองค์คือ teleo ที่แปลว่าเสร็จสิ้น หรือสำเร็จ หรือเป้าหมาย,เป้าประสงค์ พระองค์มาสอนโทราห์และนำเราไปถึงเป้าประสงค์ของพระบิดา
ยน. 19:30 เมื่อพระเยซูทรงรับเหล้าองุ่นเปรี้ยวแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์
แท้จริงในยอห์น 1:1 พระองค์คือโทราห์ที่มีชีวิต
คำพหูพจน์ ในอารเมค “Tutors,” or “schoolmasters.” ผู้สอน
ในฉบับ Hebraic Bible บันทึกว่า เพื่อให้ธรรมบัญญัติ เป็นผู้ให้คำปรึกษาเรา …
กท. 3:25 แต่เมื่อความเชื่อนั้นได้มาแล้ว เราจึงไม่ได้อยู่ใต้บังคับของผู้ควบคุมอีกต่อไปแล้ว
ใน ฉบับหนึ่งที่แปลจากฮีบรู อารเมค ใช้คำว่า เราไม่อยู่ใต้ schoolmasters หรือครูผู้ชาย ซึ่งในบริบทนี้เป็นคนล่ะคำ กับข้อ 24 เพราะในบริบทนี้พวกเขาเป็นครูสอนที่เชื่อว่าการรักษาโทราห์และปกป้องโทราห์ พวกเขาจะต้องสร้างรั้วขึ้นมา โดยการเพิ่มเติมกฎระเบียบเข้าไปมากมาย ไม่แตกต่างจากเหล่าฟาริสีที่พระเยซูตำหนิ
ในเอเสเคียล 20:18-25
มัทธิว 23:1-4 (3) เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งที่เขาทั้งหลายสั่งสอนพวกท่านนั้น จงถือและประพฤติตามยกเว้นการประพฤติของพวกเขาอย่าทำตามเลย เพราะพวกเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาสอน
ภาษาเดิมใช้คำว่า อะไรก็ตามที่เขา (โมเสส) สอนจงทำ
แต่ อีกมุมหนึ่ง อย่าทำตามการประพฤติของพวกเขาอย่าทำตามเลย เพราะพวกเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาสอน ตรงนี้ หมายถึง ฟาริสีบางกลุ่มในช่วงเวลานั้น ที่ทำตัวเคร่งธรรมบัญญัติ แต่เพียงเปลือกนอก แต่การประพฤติสวนทาง
เราจึงไม่ได้กลับไปเอาสิ่งเดิม หรือของเก่าในพันธสัญญาเดิมที่จบไปแล้ว แต่พระเยซูมาซื้อเราออกจากธรรมชาติบาป เรารอดโดยพระคุณเพื่อจะดำเนินตามคำสอนและธรรมบัญญัติ แห่งชีวิต เพื่อวิถีทางของเราจะตรงไปสู่เป้าประสงค์ พระองค์มาเป็นธรรมบัญญัติที่มีชีวิต เพื่อจะนำเรา และตรงว่าจงเอาแอกของเราแบกไว้และเรียนจากเรา แอกในที่นี้คือ ธรรมบัญญัติคำสอน และไม่ใช่ภาระ
กท. 3:24 เพราะฉะนั้นธรรมบัญญัติจึงเป็นผู้ควบคุมของเรา จนพระคริสต์เสด็จมา เพื่อเราจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
ในฉบับ Aramaic และ Hebrew คำว่า ธรรมบัญญัติ จะใช้คำว่า โทราห์ เพราะในบริบท โทราห์ไม่เพียง 5 เล่มแรกของพระคัมภีร์เท่านั้น แต่หมายถึงพระคัมภีร์ทั้งเล่มที่ เชื่อมโยงกัน และไม่ขัดแย้งกันเลย
ดังนั้นโทราห์จึงเป็นผู้ปกครอง (tutor) สำหรับเราไปสู่พระเมสสิยาห์ โดยความเชื่อเราจึงเป็นผู้ชอบธรรม เพราะโทราห์เองคือผู้ปกครอง
tutor (ทู'เทอะ) n., vt., vi. (ทำหน้าที่)
ครูสอน, ครูพิเศษ, ผู้ปกครอง, ผู้พิทักษ์, ผู้อนุบาล
พระวจนะตอนนี้ยังพาดพิงไปถึง โรม
รม. 10:4 เพราะว่าพระคริสต์ทรงเป็นจุดจบของธรรมบัญญัติ เพื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรม
เรารู้ดีว่าพระเยซู หรือ ยาชูวาห์ คือโทราห์ที่มีชีวิต พระองค์คือเป้าประสงค์ของโทราห์ และนี่คือการเชื่อมโยงที่พระองค์ไม่ได้มาลบล้าง
มธ. 5:17 “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ
แต่มาทำให้ทุกสิ่ง คือธรรมบัญญัติเดิมของพระบิดาสมบูรณ์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ พระองค์คือเป้าประสงค์ของโทราห์ และเมื่อเราจะไปถึงโทราห์ที่สมบูรณ์คือพระเยซู เราเองต้องไปให้ถึง โดยการนำของผู้ปกครอง คือโทราห์ที่นำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ นี่คือผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งที่จะสอนและนำเรา
ยน. 14:15 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
ยน. 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้กับพวกท่าน เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป
ยน. 14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ พวกท่านรู้จักพระองค์เพราะพระองค์สถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่าน
ในภาษา Aramaic คำสำหรับเป้าหมายคือ sakah นี่เป็นการฉีกขาดของความหมาย ในกรีก คำนี้อาจจะหมายถึงสิ่งเดียวกัน และ กลายเป็น สิ้นสุดของโทราห์ ในการแปลภาษากรีกมักจะแปลเป็น จุดสิ้นสุดของโทราห์ แต่ Aramaic และ Hebrew ชี้ไปที่พระเมสิยาห์ องค์ยาชูวาห์
โทราห์ เป็นหลักในโรงเรียน โลกนี้เปรียบดั่งโรงเรียน ที่จะนำเราไปสู่พระบิดาเที่ยงแท้ ไปสู่ความจริงของพระเจ้า
ใน กาลาเทีย 3:24-25
ในภาษากรีก แม้เราหลายคนจะไม่ค่อยอยากกลับไปที่ภาษานี้ แต่ผมเชื่อว่า ภาษากรีกก็ไม่ได้เลวร้ายไปทุกจุด ในพันธสัญญาใหม่ พระวจนะตอนนี้ หมายความว่า "ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้พาเด็กๆไปโรงเรียน"
เพราะ คำในภาษากรีกซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ได้รับมอบหมายให้พาลูกไปโรงเรียน" อัครสาวก เปาโล อธิบายเมื่อเขาได้เปรียบเทียบ โทราห์ (กฎหมายโมเสส) กับ ครู หรือ ผู้ที่มีหน้าที่พาเด็กไปโรงเรียน พระเจ้าของเราส่ง พระวิญญาณ เป็นครูของเรา
บางครั้งเปรียบเปรยได้กับครูพิเศษ นั่นเอง
บัดนี้ แท้จริงการเข้าใจและเข้าถึงโทราห์ที่แท้จริง หรือโทราห์แห่งความจริง ไม่ใช่ด้วยความสามารถของเราเอง แต่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นครูของเรา
ขออนุญาตอ้างอิง ย้อนไปในการอธิบายแบ่งปันข้างต้นว่า
ยรม. 31:33 “แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเชื้อสายของอิสราเอลภายหลังสมัยนั้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เราจะบรรจุธรรมบัญญัติไว้ในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา
และ
ฮบ. 10:16 “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า นี่คือพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเขาทั้งหลาย หลังจากสมัยนั้น เราจะบรรจุธรรมบัญญัติของเราไว้ในใจของพวกเขา และเราจะจารึกมันไว้ในจิตใจของพวกเขา”
พันธสัญญาใหม่ ในบริบทนี้ ยกตัวอย่างของ กษัตริย์ทที่ไม่สามารถกลับคำได้ เมื่อตรัส ออกคำสั่งและเซ็นสัญญาโดยตราประทับด้วยแหวนของพระองค์เอง ดังนั้น กษัตริย์จึงออก ‚Renewed Decree (พันธสัญญาใหม่) ซึ่งเป็นการเริ่มพระราชกฤษฎีกาใหม่ โดยที่ไม่ได้ลบล้าง กฤษฎีกาเดิม (พันธสัญญาเดิม) ที่ออกมา เราเห็นได้ว่า พระราชกฤษฎีกาใหม่ไม่ได้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเก่า หรือเดิม แต่เพิ่มข้าที่ระบุบางสิ่งใหม่ เช่นเงื่อนไขใหม่
ในทำนองเดียวกัน ทางเดียวกัน พระยาห์เวห์ นำเสนอ "พันธสัญญาใหม่ หรือ พันธสัญญาเริ่มใหม่" (พันธสัญญาใหม่) ซึ่งช่วยให้เราสามารถ ต่อสู้ การต่อสู้ การต่อสู้ที่ดีแห่งความเชื่อ ความศรัทธา กับศัตรูของเรา คือซาตาน ที่พยายามจะทำลายเราด้วยความบาป ในสภาพเนื้อหนังที่บาปและธรรมชาติบาป
แม้ในอดีตธรรมชาติบาปจะทำให้หลายคนล้มลงและในปัจจุบันไม่มีใครเอาชนะด้วยธรรมบัญญัติในม้วนหนังสือ และหลายสิ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา จนเป็นภาระ บัดนี้พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสอนเรา นำเราในธรรมบัญญัติแท้จริงที่ถูกบรรจุไว้ภายในเรา ที่จะนำเราไปถึงเป้าประสงค์ของธรรมบัญญัติ
ขอบคุณพระยาห์เวห์ ที่ข้าพระองค์จะดำเนินวิถีทางตามพระเยซู ผู้เป็นธรรมบัญญัติที่มีชีวิตและมาสอนเรา โดยการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น