กล่าวห้ามในโลก และสวรรค์
มัทธิว 16:19
มธ. 6:10 ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก
มธ. 16:19 เราจะมอบลูกกุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์”
มธ. 18:18 เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า สิ่งใดๆ ที่พวกท่านจะกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดๆ ที่พวกท่านจะกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์ (บางฉบับใช้คำว่าผูกมัด สำนวนนี้คนฮีบรู หมายถึง การ “กล่าวห้าม”)
เราอยากเห็นแผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ และนี่ก็เป็นน้ำพระทัยของพระองค์ที่ประสงค์เช่นนั้นด้วย พระองค์ได้บอกว่าจะมอบลูกกุญแจที่เราจะเปิดฟ้าสวรรค์เพื่อแผ่นดินของพระองค์จะลงมาตั้งอยู่ในโลกนี้ สถาปนาแผ่นดินสวรรค์ในโลก
คำว่า “สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์” ไม่ได้หมายถึงเราจะกล่าวห้ามสิ่งใดก็ได้ตามใจชอบ หรือความต้องการและความอยากของเรา
แท้จริงความหมายของพระวจนะตอนนี้คือ สาวกจะทำในสิ่งที่สวรรค์กล่าวห้าม สวรรค์จะกล่าวห้ามสิ่งใด ก็คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ตรัส คือสิ่งที่เป็นไปตามกฤษฎีกาของพระยาห์เวห์ และพระองค์ก็ใช้สาวกในการประกาศกฤษฎีกาของพระองค์ และเหล่าทูตสวรรค์จะทำตามนั้น ..เมื่อใดก็ตามที่เราอธิษฐานตามน้ำพระทัย ทูตสวรรค์จะทำตาม เราสามารถรู้พระทัยของพระบิดาได้โดยพระวจนะของพระองค์ จากโทราห์ของพระองค์
เมื่อเราป่าวประกาศ หรือ declare ออกไปในย่านฟ้าอากาศตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เป็นการประกาศกฤษฎีกาของสวรรค์ ทูตสวรรค์จะนำไปถึงและพระเจ้าจะทำให้มันเกิด สวรรค์จะป่าวประกาศเช่นนั้นด้วย โทราห์คือสิ่งที่ปักแน่นอยู่ในสวรรค์
สดด. 119:89 ข้าแต่พระเจ้า พระวจนะของพระองค์ ปักแน่นอยู่ในสวรรค์เป็นนิตย์
ไม่ใช่พูดในสิ่งที่เราคิด พระองค์ต้องการให้สาวก ต้องการและเห็นพร้อม และป่าวประกาศออกมา และมันจะเกิดขึ้น
ทุกเรื่องเราสามารถอธิษฐาน ป่าวประกาศได้แต่โดยน้ำพระทัยของพระเจ้า และเพื่อแผ่นดินของพระองค์ เราจะไม่รู้น้ำพระทัยของพระบิดาเลยถ้าเราไม่รู้ซึ่งธรรมบัญญัติ หรือที่บางคนเรียกว่าโทราห์ โดยกางเขนของพระเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสอนเรา
วว. 14:12 นี่แหละคือความทรหดอดทนที่พวกธรรมิกชนจะต้องมี คือพวกที่ถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า และจงรักภักดีต่อพระเยซู
เราจะไม่รู้เลยว่ากฤษฎีกาตามน้ำพระทัยของพระองค์เป็นเช่นไร เมื่อเราทิ้งคำสอนของพระเจ้า คำสอนของพ่อของเรา ที่มอบให้เราด้วยความรัก นี่คือคำประกาษิตที่เต็มไปด้วยฤทธานุภาพ
ชาโลม
ขอพระเจ้าอวยพระพร
Ktm.shachah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น